พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างเต็มตัว พรรคเพื่อไทยกับอีก 6 พรรคพันธมิตร หลังธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ตัวแทนในซีกประชาธิปไตย โหวตแพ้ในวันเลือกนายกรัฐมนตรี แต่กว่าจะมีการลงมติเลือก บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี เกือบข้ามไปสู่วันใหม่ ด้วยเหตุพลพรรคเพื่อไทยและพรรคพันธมิตรเปลี่ยนเวทีโหวตเป็นเวทีอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซักฟอกบิ๊กตู่ ทั้งเรื่อง คุณสมบัติต้องห้าม ปมประเด็นสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ที่ นายกฯ ลงนามแต่งตั้งกรรมการสรรหา ส.ว. แล้ว ส.ว.มาเลือกนายกฯ อีกที ถือเป็นเรื่องที่ขัดกันแห่งผลประโยชน์หรือไม่

 

หลังเสร็จศึกโหวตเลือกนายกฯ พรรคเพื่อไทยกับพรรคแนวร่วมพันธมิตร วางแผนงานทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างเต็มตัว เร่งประชุมหาคณะทำงานวิปฝ่ายค้าน ว่ากันในเกมสภาฯ ด้านนอกสภาฯ เตรียมจัดทีมเดินสายทำความเข้าใจประชาชน ชูธงแก้รัฐธรรมนูญเป็นประเด็นนำหน้า

 

กำหนดแผนทำหน้าที่ทั้งในและนอกสภาฯ ในส่วนของพรรคเพื่อไทย หัวขบวนหลักฝ่ายค้าน ต้องสะสาง จัดการปัญหาภายใน เลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ ที่ต้องนั่งควบตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านตามที่กฎหมายกำหนด ผู้นำฝ่ายค้านต้องเป็น ส.ส. ขณะที่ พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ หัวหน้าพรรคคนปัจจุบัน ไม่ได้เป็น ส.ส. เลยต้องมีการเลือกกันใหม่

 

โรดแมปที่พรรคเพื่อไทยวางไว้ ให้ พล.ต.ท.วิโรจน์ ลาออกตำแหน่งหัวหน้าพรรค ทำให้คณะกรรมการบริหารพรรคพ้นไปด้วย เหลือเพียงหัวหน้ารักษาการ แล้วให้คณะรักษาการนัดประชุมสมาชิกดำเนินขั้นตอนเลือกหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคกันใหม่ ที่จะได้เห็นโฉมหน้าหัวหน้าคนใหม่ กรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ก่อน 30มิ.ย.นี้

 

ผู้ท้าชิงที่เป็นเต็งหนึ่ง เฮียพงษ์-สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ในวัย 78 ปี ซึ่งประสบการณ์การเมืองโชกโชน เป็นรัฐมนตรีหลายกระทรวง ส.ส.ก็เป็นมาหลายสมัย จากหลากหลายพรรคการเมือง ซึ่งคนในพรรคให้ความเคารพนับถือ ทำงานร่วมได้ทั้งกับแกนนำพรรค ส.ส. และสมาชิกพรรคได้เป็นอย่างดี ไม่มีปัญหา แถมยังเป็น หนึ่งในสายตรงคนแดนไกลในต่างแดนอีกด้วย

 

รวมทั้งคนแดนไกลอยากผลักดันให้สมพงษ์ขึ้นเป็นผู้นำฝ่ายค้าน ประคับประคองเพื่อไทยในยุคฝ่ายค้านไปก่อน ยังไม่จำเป็นต้องเร่งเครื่อง ปรับเปลี่ยนชูผู้นำตัวจริง เอาไว้ค่อยเผยไต๋ช่วงใกล้จะมีเลือกตั้งอีกรอบ

 

จากเดิมที่ว่าเฮียพงษ์นอนมาแทบจะไร้คู่แข่ง แต่ล่าสุด ปรากฏอีกหนึ่งแคนดิเดต อย่างผู้การป๊อบ-น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย แม้อายุไม่มากเท่า ประสบการณ์การเมืองไม่โชกโชนเท่า แต่ด้วยบุคลิกที่มุ่งมั่น ทำงานอย่างจริงจัง เป็นมือทำงานตรวจสอบทุจริตโครงการที่ไม่ชอบมาพากลมาตั้งแต่สมัยประชาธิปัตย์เป็นพรรครัฐบาล เรื่อยมาจนถึงยุคทหารครองอำนาจ

 

อนุดิษฐ์อยู่ทั้งเบื้องหน้า เบื้องหลัง ทำงานตรวจสอบ เป็น ส.ส.กทม.หลายสมัย ครองพื้นที่ยาวนาน เป็นที่รัก ทั้งเพื่อน ส.ส.กทม. และเพื่อน ส.ส.ทุกภูมิภาค แม้จะไม่เป็นสายตรงคนแดนไกลมากเท่าเฮียสมพงษ์ แต่ถ้าเป็นเจ้าแม่เมืองหลวง-สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เป็นหนึ่งในคนสนิท ทำงานร่วมกันมาหลายสิบปี

 

นอกจากนี้ว่ากันว่า ทีมงานหนุนหลังนอกจากได้พลังวิเศษจากเจ้าแม่เมืองหลวงและ ส.ส.กทม.หนุนหลังอย่างเต็มที่แล้ว ยังได้เพื่อนรัก ผู้พันปุ่น-น.ต.ศิธา ทิวารี อีกหนึ่งมือทำงานเบื้องหลังคนสำคัญ แท็กทีม เสี่ยโอ๊ค-พานทองแท้ ชินวัตร ที่ต่างเห็นพ้องอยากได้คน (เกือบ) รุ่นใหม่ มาถือธงนำทัพเพื่อไทย ฝั่งผู้การป๊อบส่งสัญญาณขอเป็นผู้ท้าชิง

 

บรรดา ส.ส.ตั้งวงวิเคราะห์ แบ่งเป็นสองแนวความคิด ฝ่ายหนึ่งอยากได้ผู้อาวุโสเข้ามาคุมทิศทางพรรค ประคองพรรคไปก่อนในห้วงที่ยังทำหน้าที่ฝ่ายค้าน สมพงษ์ก็สามารถทำหน้าที่นี้ได้เป็นอย่างดี ประกอบกับยังเป็น ‘มิสเตอร์คอนเน็กชั่น’ เพื่อน นักการเมืองต่างพรรค ส่วนใหญ่ก็รู้จักมักคุ้นกันเป็นอย่างดี น่าจะทำให้การทำงานเป็นไปอย่างราบรื่น

 

ขณะที่อนุดิษฐ์หากก้าวขึ้นมาได้ถือธงพรรคคนใหม่จริง คงจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงภายในพรรคพอสมควร โดยเฉพาะระบบระเบียบการบริหาร ที่ว่ากันว่าเจ้าตัวอยากเข้ามาจัดระเบียบใหม่ในบางเรื่อง แต่ทว่าในเรื่องความเป็นอิสระยังมีความกังวล ในเงาอนุดิษฐ์ยังจะมีเงาเจ้าแม่เมืองหลวงทับซ้อน ควบคุมทุกกลไกการทำงานหรือไม่

 

หัวหน้าพรรค-ผู้นำฝ่ายค้าน จากพรรคเพื่อไทย สมาชิกพรรคเพื่อไทย จะเลือกใคร ยังเป็นเครื่องหมายคำถาม ระหว่างเสือเฒ่ากับสิงห์หนุ่ม สุดท้ายจะเป็น หวยล็อกตามโพย หรือพลิกโผหักปากกาเซียน ก่อนสิ้นเดือนนี้ได้รู้กัน.