ประชาชน เลือกมา! บิ๊กตู่ย้อนเสียงยี้โผรมต.สีเทา-ใครอกหักงบทั่วถึง


เพิ่มเพื่อน    

 “ประยุทธ์” สวนหมัดเสียงยี้ ครม. บอกประชาชนเป็นคนเลือกเข้ามาเอง ขู่ล่วงหน้าปรับได้ตลอดเวลา โวไม่ต้องกลัวไม่สันทัดการเมือง เพราะทำมา 5 ปีแล้ว ไม่มี ม.44 ก็อยู่ได้ ย้ำอย่าสร้างขัดแย้งกลับวังวนเดิม วอนนักการเมืองเมื่อเป็นรัฐบาลต้องคิดเพื่อคนทั้งประเทศ ไม่ใช่แค่พรรค โปรยยาหอมพวกพลาดเก้าอี้ไม่ต้องห่วงงบประมาณไปทั่วถึงแน่!   “บิ๊กแดง” มาแปลก แนะฟังเพลง “กิเลสมนุษย์” บอกเข้าสถานการณ์แย่งชามข้าว! เรียบร้อยโรงเรียนธรรมนัส กล่อมกลุ่มด้ามขวาน-อีสานอยู่หมัด เตรียมปลอบใจยกเก้าอี้เทกระโถนให้

    เมื่อวันอังคาร พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ปฏิเสธให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุม ถึงการจัดโผคณะรัฐมนตรี (ครม.) เรียบร้อยแล้วหรือยัง โดยได้แต่ส่งยิ้มให้
    ทั้งนี้ ก่อนประชุม ครม. พล.อ.ประยุทธ์ยังได้เดินชมงานเพื่อประชาสัมพันธ์การจัดงานฝ้ายทอใจ ครั้งที่ 12 ภายใต้แนวคิด “ฝ้ายทอใจ สไตล์ลายอย่าง” ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ได้ทดลองสวมหมวกสีเหลือง 2 ใบ ที่ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศมอบให้ พร้อมโชว์ให้สื่อมวลชนถ่ายรูป ซึ่งผู้สื่อข่าวแซวถามว่า สวมหมวก 2 ใบ แสดงว่าจะควบ 2 เก้าอี้ใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า บริหารรวมอยู่แล้ว รัฐบาลก็คือรัฐบาล 
เมื่อถามว่า รายชื่อ ครม.เรียบร้อยแล้วหรือยัง พล.อ.ประยุทธ์หันมาสวนว่า จะร่วมบริหารด้วยหรืออย่างไร จากนั้นนายกฯ กล่าวต่ออีกว่า ขอให้เชื่อมั่นในตัวนายกฯ ก็แล้วกัน นายกฯ เป็นหัวหน้า ครม.
    ถามอีกว่า ปัญหา ส.ส.กลุ่มอีสานและ ส.ส.ใต้ในพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เรียกร้องตำแหน่งรัฐมนตรียุติแล้วหรือยัง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ไม่มีปัญหามั้ง ยืนยันว่าไม่มี ซึ่งได้คุยกันแล้ว บ้านเมืองมาก่อนเสมอ 
    ซักอีกว่าเอาอยู่ใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์หันมามองพร้อมกล่าวว่า ไม่ตอบหรอก คำถามที่เคยถามคนอื่นมาแล้ว ไม่ตอบ 
    ต่อมาหลังประชุม ครม. พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์อีกครั้งถึงรายชื่อ ครม.ว่าไปไหวหรือไม่ ว่าเรื่องนี้ต้องถามกลับก่อนว่า ส.ส.ที่ได้รับการเลือกตั้งเข้ามาก็เป็นการเลือกมาจากประชาชน และเมื่อเลือกเข้ามาแล้ว ก็เป็นหน้าที่ของตนเองในฐานะหัวหน้ารัฐบาลที่จะตรวจสอบ หลังมีการเสนอรายชื่อเข้ามา และที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าหลายคนมีปัญหา ก็ต้องไปถามฝ่ายกฎหมายว่าติดขัดตรงไหน จะเป็นรัฐมนตรีได้หรือไม่ ผิดกฎหมายหรือเปล่า แล้วถ้าไม่ผิดจะให้ทำอย่างไร ในเมื่อประชาชนเลือกกันมาทั้งหมด ขึ้นอยู่กับว่าเราจะร่วมมือกันอย่างไรในอนาคต และกฎหมายก็มีบรรทัดฐานไว้อยู่แล้วว่าอย่างไรถึงจะเรียกว่าผิด หรือยังไม่ผิดอะไร หรืออยู่ระหว่างกระบวนการตรวจสอบ ขอร้องว่าอย่าเพิ่งเอาอะไรมาตีกันเยอะแยะจนวุ่นไปหมด
เมื่อถามถึงความลงตัวของเก้าอี้รัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ไม่มีปัญหาอะไรหรอก ก็เรียกมาคุยกันตลอด มีการหารือพูดคุยให้เข้าใจซึ่งกันและกัน แต่จะให้ทุกคนเป็นรัฐมนตรีหมดเป็นไปไม่ได้ เพราะมีเรื่องของพรรค และแต่ละพรรคก็มีเรื่องของภาค ก็ต้องทำความเข้าใจซึ่งกันและกัน เข้าใจดีที่ประชาชนเลือกเข้ามาในแต่ละพื้นที่ห่วงกันเรื่องงบประมาณ ซึ่งเรื่องนี้ไม่ต้องห่วง เรามีการบริหารจัดการจากส่วนกลางลงสู่ภูมิภาคและท้องถิ่น มีนายกฯ มี ครม.และมีคนกลางกำกับดูแล ดังนั้นงบประมาณต้องลงทุกพื้นที่ทุกจังหวัด ทุกกลุ่มจังหวัด และทุกภาค ดังนั้น ส.ส.ทุกคนก็มีส่วนร่วมในการพิจารณาตามความต้องการของประชาชน 
ลั่นได้งบประมาณทั่วถึง
“ไม่ต้องกังวลว่าถ้าไม่ได้เป็นรัฐมนตรีแล้วงบประมาณจะไม่ได้ ผมยืนยันว่ามันต้องได้ เพราะผมทำมา 5 ปีแล้ว ทุกอย่างเกิดขึ้นมาเยอะแยะมากพอสมควร แต่ยอมรับว่าอาจตอบสนองกับกลุ่มเล็กๆ ไม่ได้ทั้งหมด เพราะเราต้องทำภาพใหญ่ให้สมบูรณ์ก่อน คิดว่าอีก 5 ปีต่อไปทุกอย่างจะดีขึ้นกว่าเดิมเยอะพอสมควร”
ผู้สื่อข่าวถามถึงข้อเสนอจากพรรคพลัง พปชร.ที่ให้รับตำแหน่งหัวหน้าพรรคได้พิจารณาแล้วหรือยัง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ก็ปรึกษาฝ่ายกฎหมาย ดูอยู่ ขอให้ใจเย็นๆ กำลังให้ดูว่าเหมาะสมหรือไม่เหมาะสมอย่างไร เมื่อถามอีกว่า ที่ผ่านมานายกฯ ที่มาจากทหารถูกมองว่าไม่สันทัดงานด้านการเมืองอย่างถ่องแท้ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า ที่ทำมาทั้งหมด 5 ปี ก็เป็นงานการเมือง นั่นคืองานบริหารราชการแผ่นดิน ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องการเมือง ไม่ใช่การทหาร ต้องประชุม ครม.รับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน กฎหมายทุกตัวต้องฟังความคิดเห็นจากประชาชนก่อน
“การที่มองผมว่าไม่สันทัดทางการเมืองนั้น ผมก็ทำงานมาแล้ว 5 ปี อาจจะมีดีบ้างไม่ดีบ้าง ซึ่งผมก็ยอมรับ แต่ผมก็ต้องดำเนินการต่อไป ที่ผมได้เป็นนายกฯ ครั้งที่ 2 อยากเรียนว่าไม่มีใครเก่งตั้งแต่เกิด ทุกอย่างต้องอาศัยการเรียนรู้ การเอาใจใส่ ผมก็ไม่เคยเป็นนายกฯ มาก่อน แต่วันนี้ก็พูดไม่ได้แล้ว เพราะเป็นมา 5 ปีแล้ว และใช่ว่าจะมาจากพลเรือนหรือทหาร ก็ใช่ว่าจะแก้ปัญหาทั้งหมดได้สักเมื่อไหร่ แต่วันนี้ผมถือว่าผมเองก็แก้ได้เยอะ และถ้าเราร่วมมือกันต่อไป ไม่ว่าใครจะเป็นรัฐบาล หัวหน้ารัฐบาล หรือนายกฯ ถ้าเราร่วมมือกัน ทุกอย่างก็ไปได้หมด ด้วยความรัก ความสามัคคี แต่ถ้าเรามัวแต่บ่อนทำลายกัน คิดแต่ผลประโยชน์ทางการเมืองกันอย่างเดียวก็ไม่ได้ ขณะที่ประชาชนอ่อนแอเราจะทำอย่างไร วันนี้ผมยอมรับฟังความคิดเห็นของทุกคนขอบคุณ” นายกฯ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ยังกล่าวอีกว่า ต้องขอบคุณนิสิตนักศึกษาที่ให้ความสนใจ แต่เราควรมาคิดร่วมกันว่าจะร่วมมือกันอย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งเคารพในความคิดของทุกคน แต่เราต้องร่วมกันสร้างบรรทัดฐานไม่ให้เกิดผลกระทบ จึงอยากจะขอร้องทุกคนการทำอะไรที่ทำให้เกิดความขัดแย้งมากขึ้น ไม่มีผลดีกับประเทศเลย อย่าสร้างความขัดแย้งให้เกิดขึ้นอีก นายกฯ ฟังทุกคน แต่ไม่สามารถตำหนิใครได้ เพราะถือว่าเป็นโลกแห่งประชาธิปไตย โลกปัจจุบันและโลกาภิวัตน์ แต่ทุกอย่างต้องมีพื้นฐาน เด็กนักเรียนต้องรู้ว่ามีหน้าที่อะไร การแสดงความคิดเห็นเอาการเมืองใส่ไปมากๆ ไม่ได้ เราต้องมีพื้นฐานของตัวเองให้แน่นก่อน และเมื่อโตขึ้นเป็นนิสิตนักศึกษาก็แสดงออกได้หลายโอกาส แต่ถ้าขัดแย้งทุกอย่างก็ไปไม่ได้ แล้วประเทศก็จะล้มทั้งหมด วันนี้ไม่ได้ปิดกั้นใคร และถ้าถามว่าเหนื่อยไหม ต้องยอมรับว่าเหนื่อยในการทำความเข้าใจ อย่างอื่นไม่เหนื่อย
โวไร้ ม.44 ก็บริหารได้
“การทำงานที่ผ่านมาก็ได้มีการหารือร่วมกับ ครม.และ คสช.ไม่ได้ใช้อำนาจสั่งการอย่างเดียวแม้แต่คำสั่งมาตรา 44 ก็ต้องเรียกประชุม คสช. และฟังความคิดเห็นจากรัฐบาล ไม่ได้สั่งอย่างเดียว ซึ่งทุกอย่างมีการร้องขอขึ้นมา ปัญหาที่มีอยู่หลายอย่าง ต้องแคะแกะเกา หลายคนวิจารณ์ว่าวันข้างหน้าไม่มีคำสั่งมาตรา 44 แล้วจะอยู่ไม่ได้ ขอถามกลับว่าแล้วทำไมรัฐบาลจะอยู่ไม่ได้ ถ้าอยู่ด้วยความรัก ความสามัคคี มีความเข้าใจซึ่งกันและกัน เคารพกฎหมาย ทุกอย่างทำเพื่อชาติบ้านเมือง” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ย้ำว่า เรื่องนี้เราปิดกั้นใครไม่ได้ เพราะทุกคนบอกว่าประชาธิปไตยมาจากการเลือกตั้งในเมื่อวันนี้ ส.ส.มาจากการเลือกตั้ง เราจะไปทำอะไรเขาได้ นอกจากมาตรการทางกฎหมายและตรวจสอบคุณสมบัติ อย่าลืมว่า ครม.สามารถปรับได้ตลอดเวลา ถ้าทำไม่ดีขึ้นมา หากมีการร้องเรียนร้องทุกข์กล่าวโทษเจ้าหน้าที่ ก็ต้องใช้กลไกในการตรวจสอบต่อไป แม้แต่ตัวตนเองก็ต้องระมัดระวัง เพราะหลายเรื่องทุกคนก็บอกว่าเป็นหน้าที่ของนายกฯ ตัดสินใจ
เมื่อถามว่า วันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ถือว่าเป็นนักการเมืองเฉพาะกิจหรือนักการเมืองอาชีพ พล.อ.ประยุทธ์ สวนว่า มันต่างกันตรงไหน ไม่เห็นจะต่างกันตรงไหน เพราะก็เป็น พล.อ.ประยุทธ์เหมือนเดิม แล้วแต่ว่าจะมีหน้าที่และทำหน้าที่อย่างไร โอกาสที่จะให้ทำหน้าที่มีแค่ไหนอย่างไร ทั้งนี้ทั้งนั้นมาจากประชาชน อย่าไปพูดกันเลยว่าเอื้อตรงนั้นตรงนี้ อยากจะอยู่ต่อหรืออะไรต่างๆ ซึ่งเป็นวาทกรรมที่พูดกันมาตลอด อยากจะขอร้องว่าในการประชุมสภาหรือการประชุมร่วมรัฐสภาควรลดเรื่องเหล่านี้ลงไปบ้าง ต้องมองว่าปัญหาประเทศชาติอยู่ตรงไหน ประชาชนต้องการอะไร ดังนั้น ในเรื่องนโยบายรัฐบาลไม่ต้องห่วง รับฟังนโยบายทุกพรรค แต่ต้องมาใส่กล่องของเราให้ได้ โดยต้องดูที่หลักการว่าจะทำอะไรต่อ และอะไรจะทำใหม่ และต้องเข้าใจว่าสิ่งที่ทำไปแล้วมีอะไรบ้าง ไม่ใช่ทั้งหมดไม่ดีเลย ถ้าไม่ดีแล้วจะอยู่มาได้ถึง 5 ปีหรือ มันก็ดีบ้าง แต่ไม่ดีทั้งหมด เพราะเราเริ่มจากที่ไม่แข็งแรง
“ในการทำงานขออย่ากังวล เรื่องการเป็นนายกฯ หรือการเป็นรัฐบาลหน้า วันนี้ประเทศต้องการรัฐบาลทุกประเทศเฝ้าคอยอยู่ แต่เมื่อทำงานไปแล้ว ดีหรือไม่ดี มันก็มีวิธีการทางประชาธิปไตยเยอะแยะในการตรวจสอบได้หมด แม้กระทั่งผมเองก็ต้องถูกตรวจสอบ มีหนังสือถามมาจาก สตง. ซึ่งก็ตอบไปด้วยหลักการและเหตุผล จึงเดินหน้ามาได้ถึงวันนี้ ถ้าจะย้อนกลับไปกลับมาผมว่ามันไม่ใช่ เหมือนเดินวนไปวนมาเป็นวงกลม มันไม่ได้ กลับที่เก่าตลอด ผมคงไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น และผมคิดว่านักการเมือง ส.ส. พรรคการเมืองต่างๆ ทุกคนที่ตั้งใจมาช่วยประชาชนดูแลประเทศชาติต้องเข้าใจตรงจุดนี้ ผลประโยชน์ของพรรคอะไรต่างๆ ในเรื่องคะแนนเสียงก็เป็นอีกเรื่อง แต่เมื่อเป็นรัฐบาล ซึ่งเป็นรัฐบาลของคนทั้งประเทศ ไม่ใช่ของพรรคใดพรรคหนึ่ง กระทรวงนี้ของพรรคนี้ ทำเพื่อพรรคนี้ เพื่อพื้นที่ของตัวเอง ผมไม่ให้ทำอย่างนั้น กลไกไม่ใช่อย่างนั้น วันนี้กลไกหลายอย่างออกมาแล้ว จะทำแบบเดิมไม่ได้” นายกฯ กล่าว
นายกฯ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม เราต้องมองคนในทางที่ดีไว้ก่อนใช่หรือไม่ คนเรามันต้องรู้จักว่าจะอยู่กันได้อย่างไร จะทำงานต่อกันได้อย่างไร ความให้เกียรติซึ่งกันและกันสำคัญ ถึงบอกว่ามันจะอยู่ด้วยความขัดแย้ง แย่งชิงนู่นนี่กันไม่ได้แล้ว มันไม่เหมาะกับโลกในยุคปัจจุบัน เพราะโลกปัจจุบันปัญหามีมากมาย ทั้งภัยรูปแบบเก่าใหม่ เยอะแยะไปหมด ถ้ามองถึงเสรีภาพโดยที่กฎหมายมีไม่ใช่ หรือเลือกปฏิบัติมันไม่ได้
“ผมหวังว่ารัฐบาลใหม่จะทำหน้าที่ทุกอย่างอย่างที่ผมว่า ก็ต้องขอร้องบรรดานักการเมืองทั้งหลาย ผมให้เกียรติทุกท่านเสมอ เพราะถือว่าให้เกียรติประชาชนเป็นผู้เลือกเข้ามา ฉะนั้นทุกคนก็ต้องเคารพกฎเกณฑ์กติกาที่ผมพูดมาแล้วทั้งหมด เพราะมันคือกฎหมายทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นแผนงบประมาณ ยุทธศาสตร์ชาติ แผนแม่บท แผนปฏิรูป ทุกคนต้องไว้ใจว่าเรามีกฎหมายแล้ว ฉะนั้นต้องไว้วางใจพอสมควร แล้วค่อยดูกันต่อไป ถ้าเขาไม่ทำจะว่าอย่างไรกันต่อไป ก็ตรวจสอบกัน แก้ปัญหากันไป ปรับ ครม.กันไปมันก็เป็นแบบนี้มาตลอด แต่ผมยืนยันว่าไม่ต้องใช้จ่ายในการเป็นรัฐมนตรีกับผมเข้าใจไหม ไม่มี เรื่องนี้เคยมีคนพูด แต่จริงไม่จริงผมไม่รู้ แต่ก่อนเห็นมีพูดกัน ใครอยากเป็นก็ว่าไป เขาพูดกันไป สื่ออย่ามาหาว่าฉันพูด ฉันก็อ่านจากสื่อ แล้ววันนี้พาดหัวข่าวแรงไปหน่อย สื่อไหนไม่รู้ขวานเขวินอะไรนั่น เขียนให้มันดูดีหน่อย” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
หวัง ครม.ใหม่จบก่อนมิ.ย.
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า วันนี้อย่าเพิ่งถามอะไรมากนักเลย เดี๋ยวก็ได้เวลาเอง ทุกอย่างวันนี้พูดคุยกันจบหมดแล้ว อยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบตามกฎหมาย หน่วยงานมีหน้าที่ตรวจสอบอยู่แล้วโดยคณะทำงานของรัฐบาล เพื่อนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย แล้วรอการโปรดเกล้าฯ ลงมา และพระราชทานให้เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ วันนั้นแหละได้รัฐบาลร้อยเปอร์เซ็นต์ และขอร้องว่าอย่าเพิ่งไปตีกันก่อน พอเริ่มมีรัฐบาลก็เอาเลยตั้งแต่วาระแรก การประชุมก็คงไม่ต้องไปไหน กลับไปที่เก่าหมด ต้องให้เดินไปข้างหน้าก่อน แก้ไขปัญหาที่มีอยู่ให้ได้โดยเร็ว
เมื่อถามว่า แสดงว่าอาจไม่เห็นโฉมหน้า ครม.ใน มิ.ย.นี้ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ต้องรอ ตอนนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ เมื่อตรวจสอบคุณสมบัติเสร็จแล้วก็จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย คงต้องทำให้แล้วเสร็จภายใน มิ.ย.นี้ สุดแล้วแต่จะทรงโปรดเกล้าฯ ลงมาวันไหน จากนั้นต้องเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณฯ คงไม่นานหรอก
ถามอีกว่า รายชื่อทุกพรรคที่จะเป็นรัฐมนตรีอยู่ในมือนายกฯ ทั้งหมดและนิ่งแล้วใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า รายชื่อมาทั้งหมดแล้ว และต้องนิ่งแล้ว มันจะไม่นิ่งได้อย่างไร มีแค่ 36 ที่ รวมนายกฯ จะเอาที่ไหนอีก ก็ต้องเอาไปก่อน จัดให้ได้ก่อน และเดี๋ยวค่อยว่ากัน จะทำอย่างไรกันต่อไป และใครที่ไม่ได้จะเอามาช่วยงานตรงไหนใช่หรือไม่ แต่ทุกคนก็เป็นห่วงว่า เลือกตั้งมาแล้วตัวเองไม่มีบทบาทเป็นรัฐมนตรี แล้วมันจะเป็นรัฐมนตรีกันได้ทั้งหมดหรือไม่
    เมื่อถามว่า มีคนนอกมาดำรงตำแหน่งใน ครม.กี่คน พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ไม่เยอะ และเมื่อถามว่า นายกฯ จะควบ รมว.กลาโหมด้วยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ไม่รู้ ยังไม่รู้เหมือนกัน เดี๋ยวรอการตัดสินใจอยู่ ฉันเสียหายอะไรล่ะ ถ้าถามก็ไม่อยากควบหรืออะไรสักอย่าง ไม่มีความอยาก และถ้าควบแล้วตนเองจะได้อะไรขึ้นมาหรือเปล่า เรื่องของกองทัพเขาก็คุมกันด้วยระบบ มีระเบียบวินัย ไม่ต้องไปห่วงเขา
    เมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ มีข้อจำกัดเรื่องสุขภาพ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เหรอ ใครบอก ไม่รู้ เมื่อถามว่ายังจำเป็นต้องให้ พล.อ.ประวิตร ช่วยงานต่อหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ก็ทำงานอยู่ด้วยกันทุกวัน จะถามกันว่ารัฐบาลหน้าจะมีกันหรือเปล่า ใครอยู่ใครไม่อยู่ใช่หรือไม่ ใจเย็นๆ ฉันใจร้อนกว่าเธอ เธออย่ามาใจร้อนแข่งกับฉัน ใจเย็นลงบ้าง ถ้าเธอใจเย็นลง ฉันก็ใจเย็นลง ฉันจะได้คิดงานข้างหน้า ถ้าฉันต้องมาตอบคำถามพวกนี้มันก็ตีกันต่อ
    เมื่อถามว่า นายกฯ มั่นใจว่าโฉมหน้า ครม.จะได้รับการยอมรับหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ย้อนถามว่า โฉมคืออะไร คือหน้าตา แล้วใครเลือกมา ประชาชนเลือกมาเราจะไปกีดกันเขาได้มากน้อยแค่ไหน เมื่อถามว่า ประชาชนไม่ได้เลือกรัฐมนตรี ประชาชนเลือก ส.ส.เข้ามา พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า คุณพูดกันแต่เรื่องโควตา สัดส่วน เอาจากไหนมาพูด คุณพูดเรื่องอะไร ปัดโธ่ เมื่อซักว่าแสดงว่าที่แต่ละพรรคส่งรายชื่อมาอย่างไรก็ยึดตามนั้นใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า อยู่ระหว่างการตรวจสอบ 
    นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ กล่าวถึงรายชื่อ ครม.ว่า รายชื่อบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีของพรรคการเมืองต่างๆ อยู่ที่ พล.อ.ประยุทธ์หมดแล้ว ขณะนี้นายกฯ อยู่ระหว่างตรวจสอบคุณสมบัติและความเหมาะสมในเบื้องต้น ส่วนตนเองจะถูกทาบทามมาเป็นรองนายกฯ อีกหรือไม่ นายกฯ ไม่ได้พูด แต่พูดเหมือนกับว่าตนเองรู้แล้ว จึงไม่อยากพูดอะไร ซึ่งนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ ก็ไม่รู้ ยังมาถามว่ามีชื่อพวกเราหรือไม่ และถ้าถามว่าหากมีชื่อพร้อมทำหน้าที่หรือไม่ ก็ไม่ขอตอบ เพราะตอนนี้ยังทำหน้าที่รองนายกฯ อยู่
    ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ปฏิเสธตอบคำถามเกี่ยวกับการจัดตั้ง ครม.ชุดใหม่ โดยระบุสั้นๆ ว่ายังไม่มีการเทียบเชิญให้มาดำรงตำแหน่ง พร้อมปฏิเสธข่าวว่าจะเดินทางไปต่างประเทศ
    ส่วน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ระบุว่า ต้องอยู่ที่นายกฯ เพราะได้พูดคุยกันบ้างแล้ว แต่รอนายกฯ เคลียร์ปัญหาต่างๆ ก่อน แล้วจะมีความชัดเจน เพราะระหว่างนี้นายกฯ ยังมีภารกิจด้านต่างประเทศอยู่
แนะฟังเพลงกิเลสมนุษย์
    ขณะเดียวกัน มีรายงานข่าวจากกองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ว่า พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้เปรยกับคนใกล้ชิด และผู้ที่รู้จักคุ้นเคย ว่าอยากแนะนำให้ไปฟังเพลงกิเลสมนุษย์ ของธานินทร์ อินทรเทพ ที่ถึงแม้ย้อนยุค แต่อาจเข้ากับสถานการณ์ปัจจุบันที่ขณะนี้นักการเมืองยังวุ่นวายในการแย่งโควตา รมต.
    ในช่วงเที่ยง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา แกนนำพรรค พปชร. กล่าวว่า ได้รับมอบหมายจาก พล.อ.ประยุทธ์ และนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค พปชร. ให้ไปพูดคุยกับนายเอกราช ช่างเหลา ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค พปชร. และแกนนำกลุ่มอีสานตอนบน และ ส.ส.ภาคใต้กลุ่มด้ามขวานไทย ซึ่งก่อนหน้านี้ออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องโควตารัฐมนตรีแล้ว ซึ่งยืนยันขณะนี้ไม่มีปัญหาความขัดแย้งภายในพรรค 
ต่อมาในเวลา 16.00 น. ที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัล ร.อ.ธรรมนัส พร้อมด้วยนายเอกราช และ พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล แกนนำภาคใต้ร่วมแถลงข่าวถึงท่าทีและข้อเรียกร้องให้พิจารณาโควตารัฐมนตรี โดย ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ได้รับมอบหมายจาก พล.อ.ประยุทธ์ให้มาประสานพูดคุยกับทั้ง 2 กลุ่ม ซึ่งจากการหารือประมาณ 2 ชั่วโมง ก็ได้ข้อสรุปว่า ส.ส.ภาคใต้ 13 คน และอีสานตอนบนจะขับเคลื่อนนโยบายและทำงานกับพรรคต่อ ไม่ได้เรียกร้องตำแหน่ง แต่เป็นห่วงว่าจะผลักดันการแก้ปัญหาให้กับประชาชนอย่างไร ซึ่งเรื่องนี้นายกฯ จะมอบหมายให้มีรัฐมนตรีมาช่วยกำกับดูแลงาน ส่วนตำแหน่งทางการเมืองอื่นๆ ทั้งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี หรือเลขาฯ อยู่ที่นายกฯ พิจารณาบุคคล แต่หลังจากจัดตั้งรัฐบาลพรรคจะมอบหมายให้นายเอกราชและ พ.อ.สุชาติ เสนอชื่อบุคคลที่เหมาะสมให้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองอื่นๆ ต่อไป
    ด้านนางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์รับตำแหน่งเป็นหัวหน้าพรรค พปชร.โดยเร็ว เพื่อยุติความวุ่นวายเรื่องการต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรีในพรรคที่ไม่ลงตัว ขณะนี้การตั้งรัฐบาลมีความล่าช้ามาก ทำให้เกิดเป็นภาพพจน์ที่ไม่ดีต่อนักการเมือง.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"