เครือข่ายเด็กรุ่นใหม่ จี้รัฐจัดการตู้คีบตุ๊กตาระบาดทั่วเมือง


เพิ่มเพื่อน    

จากกรณีฝ่ายปกครองจังหวัดอุดรธานี ตรวจยึดตู้คีบตุ๊กตาหยอดเหรียญ และสั่งให้หยุดบริการทั้งหมด หลังศาลตัดสินว่าเข้าข่ายเป็นการพนัน ตามบัญชี ข. หมายเลข 28 (เครื่องเล่นซึ่งใช้ไฟฟ้าจักรกลหรือสปริงดีด) การพนันชนิดนี้จัดให้มีการเล่นได้ก็เมื่อได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่กรมการปกครอง สังกัดกระทรวงมหาดไทย ตาม พ.ร.บ. การพนัน พ.ศ.2478

วันนี้ (23มิถุนายน) นายณัฐพงศ์  สำเภาแก้ว ผู้ประสานงานเครือข่ายเด็กรุ่นใหม่ไม่พนัน กล่าวว่า เครื่องเล่นชนิดนี้ระบาดหนักและพบเห็นได้ตามห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า โรงภาพยนต์ ร้านเกม ปั๊มน้ำมัน ตลาดและจุดต่างๆในย่านชุมชน ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด อยู่ในจุดที่โจ่งแจ้ง เข้าถึงได้ง่าย ได้รับความสนใจจากเด็กและเยาวชน  เนื่องจากใช้เงินในการเล่นเพียงครั้งละประมาณ 10 บาท เพื่อเสี่ยงดวงลุ้นตุ๊กตาที่มีมูลค่าสูงกว่าเงินที่ลงทุนหลายเท่า ถือเป็นปัจจัยกระตุ้นสำคัญในการมอมเมาเด็กและเยาวชนให้โน้มเอียงหลงใหลและเสพติดการพนันชนิดนี้  ซึ่งในระยะยาวมีความสุ่มเสี่ยงในทัศนคติทางบวกกับการพนันชนิดอื่น  และเป็นที่ชัดเจนว่าเด้กและเยาวชนเป็นเป้าหมายหลักของกิจการชนิดนี้

นายณัฐพงศ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ยังมีการระบุข้อความเพื่อบิดเบือนข้อเท็จจริง โดยอ้างว่าเป็น “ตู้ฝึกทักษะ” บ้างก็ระบุว่า “ตู้สินค้านี้ไม่ใช่เครื่องมือการพนัน” อีกทั้งยังไม่มีการควบคุมอายุของผู้เข้าเล่น จากการลงพื้นที่ของเครือข่ายฯ พบเด็กอายุต่ำกว่า 10 ปีเข้าใช้บริการเป็นจำนวนมาก  ซึ่งผิดกฎหมาย พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ.2478 ว่าด้วยบทบัญญัติคุ้มครองเด็กและเยาวชน มาตรา 7(3) บัญญัติว่า “...ไม่ให้บุคคลอายุตํ่ากว่า 20 ปีบริบูรณ์ หรือไม่บรรลุนิติภาวะเข้าเล่น"  นอกจากนี้ยังสุ่มเสี่ยงที่จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 อีกด้วย

 “ทางเครือข่ายฯ ขอเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาเรื่องดังกล่าว โดยขอให้ตรวจสอบการออกใบอนุญาตเพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดของกฎหมาย ควบคุมการออกใบอนุญาต ให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสม รวมถึงการกำหนดพื้นที่ในการวางเครื่องเล่นชนิดนี้ ให้อยู่เป็นที่เป็นทาง ต้องเข้าถึงได้ยากไม่ให้เข้าถึงง่ายจนเกินไป ทั้งนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดรวมถึงกรุงเทพมหานคร ฝ่ายปกครองควรดำเนินการให้ยุติกิจการในรูปแบบดังกล่าวไว้ก่อนเพื่อ สร้างความชัดเจนในประเด็นข้อกฎหมาย และขอเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความสำคัญต่อประเด็นปัญหาและผลกระทบจากการพนัน และร่วมกันปกป้องเด็กและเยาวชนกลุ่มเปราะบาง ไม่สร้างพฤติกรรมความคุ้นชิน และทัศนคติที่ดีต่อการเล่นพนัน  และควรมีการประชาสัมพันธ์กฎหมาย และบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง เพื่อปกป้องคุ้มครองเด็กและเยาวชนจากการพนัน” นายณัฐพงศ์  กล่าว


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"