มีคนติดใจเรื่อง ส.ส.ใส่กางเกงขาสั้นเข้าห้องประชุมสภา 
    วิจารณ์กันซะเละเทะ ไร้สาระ 
    สำหรับคนไม่รู้สาเหตุ ก็ขยายความกันตรงนี้อีกที
    "จุลพันธ์ โนนศรีชัย" ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ ๕๒ พรรคอนาคตใหม่ คือคนที่ถูกกล่าวถึง
    เจ้าตัวชี้แจงว่า
    "...ผมเป็นผู้พิการทางขาข้างซ้าย เพราะประสบอุบัติเหตุรถบิ๊กไบก์ เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา 
    จากนั้นเมื่อเข้าสภาผู้แทนราษฎร หากใส่กางเกงขายาวเป็นระยะเวลานานหลายชั่วโมงทำให้เหงื่อออกและคันบริเวณต้นขาเทียมเป็นอย่างมาก 
    บางครั้งถึงกับเป็นแผล 
    จึงได้ไปศึกษากฎหมายรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๗ ที่ได้เขียนว่าได้ให้สิทธิ์เสียง คนพิการ คนหลากหลายทางเพศ รวมถึงชาติพันธุ์ ที่มีอุปสรรคทางด้านเหล่านี้สามารถมีสิทธิ์มีเสียงเท่ากับคนทั่วไป
    จากนั้นได้ทำหนังสือไปถึงนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ในเรื่องของปัญหาทางเครื่องแต่งกาย รวมทั้งเครื่องแต่งกายไม่มีใครออกแบบให้กับผู้พิการ 
    นายชวน จึงอนุญาตให้ผมแต่งกายสวมกางเกงขาสั้น และเสื้อสูท เข้าประชุมสภาผู้แทนราษฎรได้..."
    เรื่องมีอยู่เท่านี้ ไม่มีอะไรซับซ้อน 
    นอกเหนือจากกฎหมายแล้ว เราควรมองคุณจุลพันธ์ในแง่โลกของความเป็นจริง
    แม้ระเบียบทางสังคม หรือกฎหมายจารีต จะระบุมาตรฐานการแต่งกายของคน ในวาระโอกาสต่างๆเอาไว้อย่างชัดแจ้ง
    แต่ข้อยกเว้นก็มีเช่นกัน หากมีความจำเป็น จะหัวชนฝาว่า ส.ส.ชายเข้าประชุมสภา ต้องแต่งกายสุภาพเท่านั้นใส่ขาสั้นไม่ได้ เพราะเป็นการไม่ให้เกียรติสถานที่นั้นไม่ได้ 
    เช่นกันหาก "ธนาธร-ปิยบุตร" ใส่ขาสั้นเข้าสภาแล้วบอกว่าเป็นสิทธิ์ อย่างนี้ต้องกระทืบให้จมดิน
    สาระของเรื่องนี้คือบริบททางสังคม และสามารถนำไปอธิบายเรื่องที่ใหญ่กว่าให้เข้าใจได้ง่ายยิ่งขึ้น 
    การเมืองไทยที่ขัดแย้งในวันนี้ เพราะมองบริบทกันไม่หมด จับเฉพาะบางช่วงบางตอนที่เป็นประโยชน์กับตนเอง นำมาโจมตีอีกฝ่าย 
    เหมือนการเผยแพร่ภาพนิ่งคุณจุลพันธ์นั่งประชุมสภา แล้วด่ากันขรม 
    โดยไม่สนใจว่าคุณจุลพันธ์ผ่านอะไรมาบ้าง 
    การเมืองไทยก็เช่นกัน ปัจจุบันมีนักตัดตอนประวัติศาสตร์กันเยอะ
    พรรคอนาคตใหม่มักตัดตอนเอาเฉพาะ การเปลี่ยนแปลงการปกครอง ๒๔๗๕ ไม่สนใจว่าก่อนนั้นประเทศอยู่รอดมาได้เพราะใคร 
    และมักตัดตอนเอาเฉพาะ เหตุการณ์เดือนตุลา พฤษภาทมิฬ การชุมนุมเสื้อแดงปี ๒๕๓๕ โดยข้ามการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อเหลือง กลุ่ม กปปส.
    พรรคอนาคตใหม่ไม่เคยพูดเรื่องคอร์รัปชันในระบอบทักษิณ 
    ว่า "ทักษิณริยิ่งลักษณ์ยำ" อะไรเอาไว้บ้าง
    เอาแต่ก่นด่าทหารว่าเข้ามาทำไม 
    จริงอยู่การทำรัฐประหาร ไปไม่ได้กับระบอบประชาธิปไตยอย่างสิ้นเชิง
    แต่นั่นในเชิงทฤษฎี  ในทางปฏิบัติ บางครั้งอาจเป็นข้อยกเว้น เพราะประชาธิปไตยที่กล่าวอ้างกัน เป็นเพียงเกราะกำบังให้นักการเมืองหาประโยชน์ใส่ตัว
    ขนาดอเมริกา เจ้าตำรับประชาธิปไตย เที่ยวชี้นิ้วสั่งประเทศนั้นประเทศนี้ต้องเป็นประชาธิปไตย  ต้องมีการเลือกตั้ง แต่ในทางปฏิบัติ อเมริกากลับหนุนการรัฐประหารที่อียิปต์ 
    รวมทั้งพยายามสนับสนุนให้เกิดรัฐประหารในเวเนซุเอลา
    นั่นคือโลกแห่งความเป็นจริง.