ตามคาด!
    พลังประชารัฐเกิดมาเพื่อเป็นพรรคเฉพาะกิจจริงๆ 
    ก็ต้องทำใจ ในเมื่อยอมรับที่จะใช้บริการของคนจากระบอบทักษิณตั้งแต่แรก ผลมันก็ออกมาอย่างที่เห็น 
    เมื่อล่วงเลยมาถึงขั้น กลุ่มสามมิตรเตรียมเสนอญัตติในที่ประชุมพรรค​วันนี้ (2​กรกฎาคม)​ เพื่อขับไล่ "สนธิรัตน์​ สนธิจิรวงศ์" พ้นจากเก้าอี้เลขาธิการพรรค การนับถอยหลังรัฐบาลลุงตู่สมัย ๒ จึงเริ่มต้นเร็วขึ้นกว่าที่คิด
    ศึกนอกยากนัก แต่ยังสู้ได้ 
    แต่ศึกใน หากเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ผลคือพังกับพัง 
    เพราะความบาดหมางภายใน มันคือปัญหาที่บาดลึก 
    เมื่ออยู่ร่วมชายคากันไม่ได้ ก็ต้องมองหาเส้นทางใหม่ 
    หากแม้....อยู่ร่วมกันได้ แต่โอกาสแทงข้างหลังจะเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา 
    ฉะนั้นเมื่อนักการเมืองแย่งชามข้าว ถึงขั้นประกาศรบกันในพรรค มองไม่ออกจริงๆ ว่าเส้นทางข้างหน้าจะราบรื่นได้อย่างไร 
    ด้วยข้อจำกัดรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ แถมยังมีความขัดแย้งภายในสูง ก็ไม่ผิดนักที่จะพูดว่า เตรียมเลือกตั้งใหม่ได้เลย 
    นักการเมืองกลุ่มต่างๆ ในพรรคพลังประชารัฐ เป็นเหมือนปลาคนละน้ำตั้งแต่แรก   แต่กลับถูกจับมารวมในอ่างเดียวกัน ความกลมกลืนจึงไม่มี 
    นั่นทำให้ต้องมีสารจากนายกรัฐมนตรีตอกย้ำถึงความต่างนี้ 
    "...นายกรัฐมนตรีมีความรู้สึกไม่สบายใจ และต้องขอโทษพี่น้องประชาชนแทนพรรคพลังประชารัฐในฐานะเป็นบุคคลที่พรรคเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี เนื่องจากในห้วงเวลานี้มีข่าวสารความขัดแย้งภายในพรรค ปรากฏตามสื่อต่างๆ มากมาย 
    อย่างไรก็ตาม​ นายกรัฐมนตรีจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ถึงแม้จะมีปัญหาอยู่บ้างในการบริหารภายในพรรค เนื่องจากเป็นพรรคที่จัดตั้งขึ้นใหม่​ สมาชิกมาจากหลายกลุ่ม หลายสาขา ที่มีความมุ่งมั่นจะทำหน้าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และหน้าที่บริหารในคณะรัฐมนตรีให้ดีที่สุด..."
    ในทางการเมือง ความขัดแย้งในพรรค ควรคุยในพรรค และจบในพรรค
    หากนำความขัดแย้งออกมาภายนอก จะสะท้อนถึงเสถียรภาพในพรรคว่า....ไม่มีเอาเสียเลย 
    แต่ก็มีข้อดีตรงที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยอมรับว่า มีปัญหาความขัดแย้งจริง และขอโทษประชาชน
    นั่นแสดงว่า พล.อ.ประยุทธ์รู้ปัญหาแล้ว  
    แต่...รู้ปัญหาแล้ว ขอโทษประชาชนแล้ว ความขัดแย้งในพรรคพลังประชารัฐจบหรือไม่?
    ปกติรอยร้าวในพรรคการเมือง ถึงขั้นจะลงมติขับไล่กัน อ้างว่าเป็นภัยความมั่นคงของพรรค มันยากประสานคืน
    ก็อยู่ที่ "ลุงตู่" ว่าจะจัดการปัญหาภายในได้หรือไม่ 
    ถ้าไม่ได้รัฐบาลก็จบ เพราะปัญหาของประเทศมันใหญ่กว่ามาก
    หรือจบแบบ "สามมิตร" ได้เก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานสมใจ นั่นก็คงจะจบแบบสามมิตร 
    แต่จะมีคำถามตามมา กระสันอยากได้เก้าอี้นี้เพื่ออะไร    
    อย่าบอกว่าเพื่อประชาชน.