"อนุทิน” ลั่นกัญชาเสรีเพื่อการแพทย์ บทพิสูจน์ “ภูมิใจไทยพรรคปฏิบัติการ”


เพิ่มเพื่อน    

นโยบายกัญชาเสรีเพื่อการแพทย์เป็นนโยบายสำคัญของพรรคภูมิใจไทย ที่ได้ใช้รณรงค์หาเสียงไปทั่วประเทศ ได้เสียงตอบรับอย่างมากมายจนทำให้ได้ จำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ถึง 51 ที่นั่ง

 

การทำให้นโยบาย "กัญชาเสรีเพื่อการแพทย์" เป็นรูปธรรมได้นั้นเป็นแรงกดดันไปสู่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข หน่วยงานที่เป็นผู้ถือบังเหียนขับเคลื่อนเรื่องนี้โดยตรง

 

จากการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ กัญชาเสรีเพื่อการแพทย์  เมื่อวันที่ 12 ก.ค. ที่ผ่านมา จัดโดยพรรคภูมิใจไทย มีการแบ่งกลุ่มย่อยเพื่อทำเวิร์คช็อปครบทุกมิติ ประกอบไปด้วย 1. กัญชา คือ ยา แพทย์แผนปัจจุบัน และ แพทย์แผนไทย 2. กัญชา คือ พืชเศรษฐกิจ สำหรับเกษตรกรไทย 3. กัญชา และสารสกัดจากกัญชา คือการค้นพบที่มีคุณค่าต่อมนุษยชาติ 4. กัญชากับกฎหมายที่เกี่ยวข้องและการปลดปล่อยกัญชา ออกจาก พ.ร.บ.ยาเสพติด 5. กัญชา คือ การสร้างงาน สร้างรายได้ และ สร้างธุรกิจใหม่และ 6. กัญชา กับ ผลกระทบ และมาตรการควบคุม ทางสังคม

 

ผลสรุปการเวิรค์ช็อป ในทุกกลุ่มล้วนแต่ออกมาตรงกันว่า ความสำคัญสูงสุดที่จะทำเรื่อง กัญชาเสรีทางการแพทย์ ให้เห็นผลเป็นรูปธรรม คือ "นายอนุทิน ชาญวีรกูล" จุดนี้ ... จุดเดียว!!! ที่ชี้เป็น ชี้ตายเนื่องจากเป็นผู้ที่เข้าใจในความต้องการของประชาชนในเรื่องนี้ และมีอำนาจมอบหมายและสั่งการราชการได้

ดังคำพูดที่ว่า "หากหัวไม่ส่าย หางย่อมไม่กระดิก"

การที่ข้าราชการกระทรวงสาธารณสุข มีโอกาสเข้าร่วมงานสัมมนากัญชาเสรีเพื่อการแพทย์ ตั้งแต่ระดับปลัดกระทรวง ไปจนถึงอธิบดี รองอธิบดี กรมต่างๆ และส่วนราชการในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ทำให้ได้เห็นและรับรู้ ความต้องการของนักวิชาการ และองค์กรภาคประชาชน ที่ขับเคลื่อนเรื่องนี้ ใหญ่โตขนาดไหน วิทยากรร่วมเจ็ดสิบคน ประชาชนนับพัน

 

หมุดหมายแรก ในการทำงานของพรรคภูมิใจไทย มีเป้าหมาย 1. กัญชา ต้องเป็นยารักษาโรค ที่ถูกต้องตามกฎหมาย 2. กัญชา ต้องเป็นยารักษาโรค ที่ประชาชนเข้าถึงได้ และอยู่ในบัญชียาหลักที่ผู้ถือบัตรทอง 30 บาทรักษาทุกโรค และ ผู้ถือบัตรประกันสังคม จะต้องนำมาใช้ได้

 

3. กัญชา ต้องเป็นยารักษาโรค ที่เป็นประโยชน์แก่ประชาชนคนไทยอย่างเท่าเที่ยมกัน ไม่ใช่สิทธิหรือลิขสิทธิ์ของผู้ใดผู้หนึ่ง 4. กัญชาต้องเป็นพืชเศรษฐกิจ สร้างรายได้ให้ประชาชนคนไทย 5. กัญชา ต้องได้รับการวิจัยและพัฒนาต่อยอดในทุกๆ มิติ ทั้งการพัฒนาสายพันธุ์ที่เหมาะสม การปลูก การแปรรูป การสกัดสารสำคัญ และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ทั้ง ยา อาหาร และเครื่องดื่ม เพื่อประโยชน์สูงสุดแก่พี่น้องชาวไทย

 

ขณะที่นายอนุทิน รู้ดีว่านโยบายกัญชาเสรี อยู่บนความคาดหวังของประชาชนและความท้าทายที่ต้องทำให้ประสบความสำเร็จโดยเร็ว หากทำไม่ประสบผลสำเร็จอาจจะกระทบต่อการรักษาเก้าอี้ หรือ ขยายขยับพรรคให้เป็นพรรคใหญ่ในวันข้างหน้าหากมีการเลือกตั้ง  

               

แต่หากทำให้เรื่อง "กัญชาเสรีเพื่อการแพทย์" ประสบความสำเร็จ ไปพร้อมๆกับนโยบายด้านอื่นๆที่ได้หาเสียง ไม่ว่าจะเรื่อง อสม.หมอประจำบ้าน ขับแกร็บถูกกฎหมาย บุรีรัมย์โมเดล และอื่นๆ หากทำได้สำเร็จ เห็นผลเป็นรูปธรรม

 

พรรคภูมิใจไทย จะกลายเป็น "พรรคการเมืองเชิงปฏิบัติการ" ในทันที แตกต่างจากทุกพรรคการเมือง ในสาระบบ ที่บางพรรคเป็นพรรคอุดมการณ์  พรรคของนาย  พรรคโลกสวย    และ บางพรรคดีแต่พูด หรือ Talk Only No Action

 

“ในฐานะที่ดูแลกำกับนโยบายนี้ ขอขอบคุณ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีที่ให้สัมภาษณ์ตอนการประชุมนโยบายรัฐบาล โดยนโยบายกัญชาเสรีเพื่อการแพทย์ ถูกบรรจุเป็นนโยบายรัฐบาลเรียบร้อยแล้ว ขอให้รอฟังนายกฯประกาศนโยบายรัฐบาลในไม่ช้านี้ วันนี้ถือเป็นการบีบบังคับว่าถ้าเราทำนโยบายนี้ไม่ได้ พรรคเราสูญพันธุ์ อย่างแน่นอน” อนุทิน หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยให้คำมั่นเอาไว้  

 

หากนโยบายของพรรคภูมิใจไทย ทำได้จริงและประสบความสำเร็จ จะส่งผลให้พรรคภูมิใจไทย กลายเป็นทางเลือกใหม่ของประชาชน ในการเลือกตั้งในครั้งหน้าในทันที


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"