“จุรินทร์” สั่งตั้ง “กรอ.พาณิชย์”แก้ปัญหาส่งออก


เพิ่มเพื่อน    

 

20 ก.ค. 2562 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้สถานการณ์ส่งออกของไทยน่าเป็นห่วงมาก เพราะมูลค่าติดลบอย่างต่อเนื่อง จึงได้สั่งการให้นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เร่งรัดจัดตั้งคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนกระทรวงพาณิชย์ (กรอ.พาณิชย์) ประกอบด้วย สมาคมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการส่งออก เช่น สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) สมาคมธนาคารไทย สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) เป็นต้น และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกระทรวงพาณิชย์ โดยมีตนเป็นประธาน เพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และเสนอแนะปัญหาและอุปสรรคด้านการส่งออก เพื่อผลักดันให้การส่งออกของไทยในปีนี้ขยายตัวได้มากขึ้น

“ตั้งใจว่าจะมีการประชุมกรอ.พาณิชย์ทุกเดือน และน่าจะประชุมนัดแรกได้ในสัปดาห์หน้า เพื่อให้ภาคเอกชนมาเล่าให้ฟังว่ามีปัญหาด้านการส่งออกอย่างไร และมีอะไรที่ต้องการให้กระทรวงฯ ช่วยเหลือบ้าง ซึ่งอะไรที่สามารถแก้ไขได้เอง ก็จะดำเนินการให้ทันที แต่ถ้าเป็นเรื่องของกระทรวงฯ อื่นก็จะประสานงานให้ รวมถึงถ้าจะต้องเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเห็นชอบ ก็จะดำเนินการให้เช่นเดียวกัน เพื่อทำให้การส่งออกขยายตัวให้ได้ เพราะภาคเอกชนเป็นผู้ทำตลาด ภาครัฐมีหน้าที่ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่”นายจุรินทร์กล่าว

สำหรับปัญหาของภาคการส่งออกไทยในขณะนี้ มีทั้งเรื่องของผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ปัญหาเศรษฐกิจโลกชะลอตัว รวมถึงปัญหาค่าเงินบาทแข็งค่า ส่วนเป้าหมายมูลค่าการส่งออกปีนี้ที่กระทรวงพาณิชย์ตั้งเป้าไว้ที่ 3% ยังไม่อยากให้พูดว่าจะมีการทบทวนใหม่หรือไม่ เพราะต้องหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้องและภาคเอกชนก่อน

นายจุรินทร์กล่าวว่า สำหรับการประกันรายได้เกษตรกร จะเป็นอีกหนึ่งมาตรการที่จะเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร ซึ่งจะประกันรายได้ให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มันสำปะหลัง เหมือนที่ผ่านมา และจะเพิ่มอีก 2 สินค้า คือ ปาล์มน้ำมัน และยางพารา ส่วนจะประกันรายได้ให้กับเกษตรกรเท่ากับที่พรรคประชาธิปัตย์ได้หาเสียงไว้หรือไม่นั้น เช่น ยางพารา ไม่ต่ำกว่ากิโลกรัม (กก.) ละ 60 บาท ปาล์มน้ำมันกก.ละ 4 บาท ข้าวเปลือกเจ้า ตันละ 10,000 บาท ข้าวเปลือกหอมมะลิ ตันละ 15,000 บาท คงต้องพิจารณาสถานการณ์ต่างๆ ก่อน และต้องเสนอให้รัฐบาลพิจารณาก่อนด้วย

“ประกันรายได้ จะเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรได้อย่างแท้จริง เพราะเมื่อรายได้ของเกษตรกรต่ำกว่าที่รัฐประกันเอาไว้ รัฐก็จะจ่ายเงินชดเชยให้ เช่น ยางพารา ถ้ารัฐประกันไว้ว่าเกษตรกรจะขายได้ที่กก.ละ 60 บาท แต่ถ้าขายได้ 50 บาท รัฐก็จะจ่ายส่วนต่างชดเชยให้ ถือเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากอีกวิธีหนึ่ง และไม่ต้องกลัวจะเกิดการรั่วไหล หรือทุจริต เพราะทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องอุดช่องโหว่ไม่ให้เกิดทุจริตได้อยู่แล้ว แต่ถ้ามีการทุจริตเกิดขึ้น จะถูกดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด” 

ส่วนมาตรการกำกับดูแลยา เวชภัณฑ์ และบริการทางการแพทย์ คงต้องเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นมาตรการที่มีผลบังคับใช้ตามกฎหมายแล้ว
...


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"