ทำร้ายเศรษฐกิจพอเพียง?


เพิ่มเพื่อน    

               คงผ่านหูผ่านตาไปแล้ว

                คำพูดของ "ธนาธร" ประเด็นเศรษฐกิจพอเพียง

                "ทันทีหลังรัฐประหาร หมวด ๗ รัฐธรรมนูญปี ๒๕๕๐ ที่ร่างแล้วก็ผ่านประชามติ ในสมัยที่สังคมไทยอยู่ใต้อุ้งตีนรัฐประหาร มาตรา ๘๓ รัฐต้องส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการดำเนินการตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 

                ซึ่งโดยเนื้อแท้แล้ว คือการบอกกับประชาชนว่าคุณอย่าริอาจข้ามชนชั้น มึงเป็นชาวนาก็ชาวนาไป  เป็นไพร่ก็เป็นไพร่ต่อไป อย่าริอาจมักใหญ่ใฝ่สูง ความโลภและความอยากมีชีวิตที่ดีขึ้น เป็นกิเลสตัณหาและเป็นสิ่งชั่วร้าย ซึ่งขัดกับศีลธรรมอันดีงามในสังคมไทย"

                เป็นคลิปเมื่อเดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๕ ในเวทีเสวนาที่จัดโดยสถาบันศึกษาการพัฒนาประชาธิปไตย   

                ใครอยากรู้จักสถาบันนี้ลองไปถาม "จาตุรนต์ ฉายแสง" ดู น่าจะได้คำตอบที่กระจ่าง

                ช่วงปี ๒๕๕๕ ตรงกับยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ "ธนาธร" ยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก

                แต่มาวันนี้ แสดงให้เห็นแล้วว่ามีการเคลื่อนไหวอย่างเป็นระบบ

                "ธนาธร" เข้าใจผิดในปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง

                หรือต้องการโจมตีปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง

                แน่นอนว่า "ธนาธร" ย่อมรู้ว่าเมื่อปี ๒๕๔๙ "โคฟี อันนัน" เลขาธิการสหประชาชาติ ในเวลานั้น ได้ถวายรางวัลการพัฒนามนุษย์แด่ในหลวง ร.๙

                และสุนทรพจน์ของ "โคฟี อันนัน" ในวันนั้นดังไปทั้งโลก

                "...สหประชาชาติ พิธีมอบรางวัลเชิดชูเกียรตินี้มีความหมายสำคัญยิ่ง เนื่องจากเป็นครั้งแรกที่สหประชาชาติได้จัดทำรางวัลเกียรติยศนี้ เพื่อมอบแด่บุคคลดีเด่น ที่ได้อุทิศตนตลอดช่วงชีวิตและสร้างคุณค่าของผลงานอันเป็นที่ประจักษ์และเป็นคุณูปการที่ผลักดันความก้าวหน้าในการพัฒนาคน...

                ....อนึ่ง ด้วยพระปรีชาสามารถในการเป็นนักคิดของพระองค์ท่าน ทำให้นานาประเทศตื่นตัวในการปรับรูปแบบการพัฒนาภายใต้แนวคิดใหม่

                พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานปรัชญา 'เศรษฐกิจพอเพียง' ชี้แนวทางการพัฒนาที่มุ่งเน้นความสมดุล องค์รวมและยั่งยืน โดยเน้นหลักการความพอประมาณและการมีภูมิคุ้มกันในตัวที่ดีพอที่จะต้านทาน และลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงต่างๆ อย่างรวดเร็ว อันเนื่องมาจากกระแสโลกาภิวัตน์ ปรัชญาดังกล่าวซึ่งเน้นแนวทาง 'การเดินสายกลาง' ทำให้สหประชาชาติมีปณิธานมุ่งมั่นพัฒนาคนให้ประชาชนเป็นเป้าหมายศูนย์กลางในการพัฒนา เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีและยั่งยืนต่อไป...

                ...รางวัลความสำเร็จสูงสุดด้านการพัฒนามนุษย์นี้ สหประชาชาติมีปณิธานที่จะส่งเสริมประสบการณ์ และแนวทางปฏิบัติ ในการนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงอันทรงคุณค่าอย่างหาที่สุดมิได้ของพระองค์ท่าน เพื่อจุดประกายแนวความคิดการพัฒนาแบบใหม่สู่นานาประเทศ...."

                หมายความว่าอย่างไร?

                ขนาดสหประชาชาติ ยังประกาศว่าจะส่งเสริมปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นแนวความคิดการพัฒนาแบบใหม่สู่ประเทศอื่น

                แต่ "ธนาธร" บอกว่าเป็นการแบ่งชนชั้น

                เป็นสิ่งชั่วร้าย!

                นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ "ธนาธร" พูดถึงปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในแง่ลบ และผิดไปจากความจริงอย่างสิ้นเชิง

                นิตยสารสารคดี ฉบับเดือนมกราคม ๒๕๕๐ ตีพิมพ์คำสัมภาษณ์ "ธนาธร" เอาไว้ว่า

                "...ผมคิดว่ามีนักวิชาการคนหนึ่ง คือคุณศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ พูดไว้ชัด คือทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียง หรือแม้แต่กระแสชุมชนนิยม มันมีรากฐานอย่างหนึ่งคือ ข้างในมันดี และข้างนอกมันเลว อะไรก็ตามที่มันเลวมันมาจากข้างนอกหมด เราอยู่ข้างในเราก็ดีกันอยู่แล้ว โดยที่เราลืมไปอย่างหนึ่งว่า มันเป็นเพียงมายาคติที่ถูกสร้างขึ้นมา...

                ...ถามว่าเศรษฐกิจพอเพียง คุณปิดประเทศหรือเปล่า ถ้าคุณไม่ปิดประเทศ บริษัทยักษ์ใหญ่พวกนี้เข้ามา ผมถามว่าคุณแข่งขันสู้เขาได้หรือเปล่า ดูธุรกิจใหญ่ๆ ของไทย วันนี้เหลือธุรกิจอะไรบ้างที่ยังเป็นของคนไทย ที่ยังเป็นของทุนชาติอยู่ ผมรู้สึกว่าเหลือไม่เยอะ...

                ...ถ้าถามผมเป็นนายทุนผมชอบไหม ชาตินิยม ชูเลยใช้ของไทย คุณผลิตรถยนต์คุณต้องซื้อของจากบริษัทคนไทย ผมแฮปปี้ แต่ถามว่าท้ายที่สุดใครล่ะได้กำไร ทุนชาติและทุนต่างชาติก็ได้กำไรเหมือนกัน การสะสมทุนก็กระจุกตัวอยู่แค่กลุ่มคนระดับสูงบางกลุ่มเหมือนกัน ถามว่าแล้วทุนชาติกับทุนต่างชาติต่างกันอย่างไร ไม่ต่างกัน เพียงแต่เรามีมายาคติ ท้ายที่สุดเศรษฐกิจพอเพียงก็เป็นวาทกรรมแบบหนึ่งเท่านั้นเอง...”

                "ธนาธร" เข้าใจว่า เศรษฐกิจพอเพียง คือการปิดประเทศจริงหรือ?

                ถ้าจริง ไทยซัมมิท คงลำบาก เพราะเห็นคุยโม้โอ้อวดว่า กำไรของไทยซัมมิทมาจากตลาดต่างประเทศเป็นหลัก

                วันนี้ไม่มีใครคิดปิดประเทศ ไทยซัมมิทยังทำกำไรอย่างงามบนสังคมที่ "ธนาธร" ตะโกนด่าว่ามีความเหลื่อมล้ำต่ำทรามที่สุด

                ขนาด FTA ไทย-อียู ยังค้างอยู่ รัฐบาลใหม่ก็เตรียมไปเจรจารอบใหม่ เพื่อเปิดตลาดสินค้าจากไทย

                แต่ "ธนาธร" เองไม่ใช่หรือไปฟ้องคุณพ่ออียูว่า ไทยยังมีปัญหาไม่เป็นประชาธิปไตย ยังมีการละเมิดสิทธิมนุษยชนอยู่

                ก็เป็นการบอกกลายๆ ว่าอียูอย่าเพิ่งคบ กดหัวรัฐบาลไทยไปก่อน

                ไม่รู้คุณคนยังพอทน

                แต่การทรยศแผ่นดินเกิด ให้ร้ายภูมิพลังแผ่นดิน คนแบบนี้หากทำงานการเมืองสำเร็จ

                คงไม่ต้องบอกว่าจะเป็นการเมืองแบบไหน.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"