ล่าโจรใต้บึ้มฐานปัตตานี ปูนบำเหน็จสูงสุด4ผู้กล้า


เพิ่มเพื่อน    

 ชายแดนใต้เดือดอีกแล้ว กลุ่มก่อความไม่สงบกว่า 10 คน โจมตีจุดตรวจเจ้าหน้าที่เสียชีวิต 4  บาดเจ็บ 3 ขโมยปืนไป 5 กระบอก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เชิญพวงมาลาหลวงวางที่หน้าหีบศพวีรบุรุษพลีชีพเพื่อชาติ

    เมื่อเวลา 20.45 น. วันที่ 23 กรกฎาคม ที่ผ่านมา  เกิดเหตุกลุ่มก่อความไม่สงบกว่า 10 คน พร้อมอาวุธสงคราม ได้โอบล้อมจุดตรวจร่วม 3 ฝ่าย 24 ชั่วโมง บ้านกอแลบีเละ ม.7 ต.ปะกาฮารัง อ.เมืองปัตตานี ก่อนจะขว้างระเบิดใส่จุดตรวจแล้วใช้อาวุธสงครามถล่มยิงเจ้าหน้าที่ทหารและ อส.ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ จนทำให้เจ้าหน้าที่ต้องหลบหาที่กำบังและเกิดการยิงปะทะกันขึ้นอย่างดุเดือดกว่า 10 นาที ก่อนที่คนร้ายจะกระจายกันล่าถอยหลบหนีเข้าไปในหมู่บ้าน ส่งผลให้เจ้าหน้าที่เสียชีวิต 4 นาย บาดเจ็บ 3 นาย
     หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ประจำฐานได้วิทยุแจ้งหน่วยกำลังทุกหน่วยเข้าทำการช่วยเหลือ เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บหลายนาย พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบก.ภ.จ.ปัตตานี, พ.ต.อ.ญาณพงศ์ อุบลบาน ผกก.สภ.เมืองปัตตานี ได้นำกำลังเข้าไปที่เกิดเหตุ พร้อมนายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ ผวจ.ปัตตานี และ พล.ต.ปิยพงษ์ วงศ์จันทร์ ผบ.ฉก.ปัตตานี 
    เมื่อไปถึงพบว่าจุดเกิดเหตุอยู่ทางเข้าโรงเรียนบ้านกอแลบีเละ เจ้าหน้าที่ได้ทำการปิดเส้นทางเข้า-ออก พร้อมได้ขอเสริมกำลังจากหน่วยทหารพราน 43 และหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี 25 กว่า 50 นาย กระจายกำลังปิดล้อมพื้นที่เพื่อป้องกันการลอบโจมตีรอบสอง เนื่องจากมีรายงานว่าคนร้ายที่ก่อเหตุมีจำนวนมากและมีอาวุธ และจากการตรวจสอบพบว่ามีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตหลายนายถูกลำเลียงส่ง รพ.ปัตตานี 
     สอบสวนทราบว่า ในช่วงเกิดเหตุมีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่จำนวน 14 นาย เป็นทหาร 1 นาย, อส.12 นาย และ ชรบ.2 นาย โดยมี จ.ส.อ.ชูธวัช มารศรี เป็นหัวหน้าชุด โดยก่อนเกิดเหตุขณะเจ้าหน้าที่กำลังปฏิบัติภารกิจดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชน โดยที่ผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บกำลังตั้งจุดตรวจอยู่บนถนนบริเวณหน้าจุดตรวจ ส่วนกำลังที่เหลืออยู่ภายในจุดตรวจ 
    ระหว่างนั้นมีคนร้ายคาดว่าประมาณ 10 คนพร้อมอาวุธและปิดบังใบหน้า ได้โอบล้อมจุดตรวจก่อนจะฉวยจังหวะโจมตียิงถล่มทันที พร้อมกับขว้างระเบิดใส่เจ้าหน้าที่จำนวน 3 ลูก จนเกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหวไปทั้งหมู่บ้าน เจ้าหน้าที่พยายามยิงตอบโต้และปะทะกันอย่างดุเดือดประมาณ 10 นาที ก่อนที่คนร้ายจะกระจายกำลังล่าถอยหลบหนีเข้าไปในหมู่บ้าน หลังสิ้นเสียงปืนปรากฏว่ามีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว โดยคนร้ายขโมยปืนเอ็ม 16  1 กระบอก และเอชเค 4 กระบอกไปด้วย
     นายรุสดี ตาสะเมาะ อส.เมืองปัตตานี ซึ่งรอดชีวิตอย่างหวุดหวิด และเป็นน้องชายนายอุสมาน อส. ที่เสียชีวิต เปิดเผยว่า ขณะที่ตนกับพวกกำลังตั้งด่านตรวจรถที่สัญจรเข้า-ออกภายในหมู่บ้าน ปรากฏว่ามีคนร้ายได้ลอบเข้ามาบริเวณด้านหลังของจุดตรวจ ใช้อาวุธยิงใส่ทันที แล้วได้ขว้างระเบิด ตนและเพื่อนทุกคนต่างหาที่หลบแล้วใช้ปืนยิงต่อสู้ ซึ่งขณะยิงปะทะพบเพื่อนถูกยิงบาดเจ็บ ตนและเพื่อนพยายามยิงปะทะเพื่อรักษาที่มั่นไม่ให้คนร้ายเข้ามา จนกระทั่งคนร้ายได้หลบหนีไป
    พล.ต.ปิยพงษ์ วงศ์จันทร์ ผบ.ฉก.ปัตตานี เปิดเผยว่า คนร้ายที่ร่วมก่อเหตุครั้งนี้มีด้วยกันกว่า 10 คนทุกคนใช้ผ้าปกปิดใบหน้าและมีอาวุธปืนครบมือ ได้กระจายกำลังโอบล้อม 3 ชุด โดยชุดแรกดูต้นทางและโปรยตะปูเรือใบ ชุดที่สองทำหน้าที่โจมตีด้านหน้า และชุดที่สามทำหน้าที่โจมตีด้านข้าง ในช่วงเกิดเหตุขณะเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่คนร้ายชุดแรกได้โปรยตะปูเรือใบบนถนนสายปัตตานี 3-ยะลา ทั้งขาเข้าและขาออกเพื่อปิดเส้นทางไม่ให้เจ้าหน้าที่สามารถเข้ามาช่วยเหลือ 
    จากนั้นชุดที่สองและชุดที่สามได้เปิดฉากโจมตีทันที พร้อมกับขว้างระเบิดใส่เจ้าหน้าที่จำนวน 3 ลูก จนเกิดการยิงปะทะกันขึ้น ซึ่งคนร้ายพยายามที่จะบุกยึดจุดตรวจและปล้นอาวุธปืนของเจ้าหน้าที่ แต่ถูกเจ้าหน้าที่ยิงสกัดกั้นเพื่อรักษาที่ตั้งไว้ และในระหว่างยิงปะทะกันทำให้เจ้าหน้าที่บางนายถูกยิงบาดเจ็บ แต่ก็แข็งใจยิงต่อสู้จนเสียชีวิต ส่วนคนร้ายเชื่อว่าน่าจะถูกยิงบาดเจ็บหลายคน ทำให้ต้องล่าถอย และเมื่อเห็นท่าไม่ดีคนร้ายจึงพากันหลบหนีไปคนละทิศละทาง
     สำหรับเจ้าหน้าที่ที่เสียชีวิตทั้ง 4 นาย ในนาม กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของวีรบุรุษ ที่ทุ่มเทสละชีพจนถึงวาระสุดท้าย ซึ่งทางแม่ทัพภาคที่ 4 ได้กำชับให้ได้รับการปูนบำเหน็จความดีความชอบขั้นสูงสุด พร้อมจะดูแลด้านสิทธิกำลังพลอย่างดีที่สุด
    ผู้สื่อข่าวปัตตานีรายงานอีกว่า สรุปผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตมีรายชื่อคือ 1.นายอุสมาน ยาซารี  (ชรบ.) เสียชีวิตที่เกิดเหตุ 2.นายอับดุลฟาต๊ะ เสนเหรม  (ชรบ.) เสียชีวิตที่เกิดเหตุ 3.จ.ส.อ.ชูธวัช มาศศรี (จนท.โครงฯ) เสียชีวิตที่โรงพยาบาล 4.อส.อุสมาน ตาศาเมาะ เสียชีวิตที่โรงพยาบาล
    พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า ต้องชื่นชมเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติช่วยกันป้องกันทำหน้าที่อย่างเต็มที่ขณะถูกคนร้ายโจมตีแบบลอบกัด ส่วนการติดตามคดีนั้น คนร้ายที่มาจากการดำเนินแผนปฏิบัติการของชุดจรยุทธ์ทั้ง 118 หมู่บ้านที่แตกกระจายหลบหนีออกไป แล้วนัดรวมตัวตอบโต้เจ้าหน้าที่ โดยยังให้คงชุดจรยุทธ์เข้าปฏิบัติการเต็มพื้นที่ 118 หมู่บ้าน เพื่อกดดันอย่างหนัก และเชื่อว่าคนร้ายได้เปลี่ยนเสื้อผ้าแอบแฝงปะปนอยู่ในหมู่บ้าน ซึ่งเจ้าหน้าที่จะสามารถติดตามจับคนร้ายมาดำเนินคดีได้อย่างแน่นอน
    พ.อ.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผู้ช่วยโฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้แสดงความเสียใจและสั่งการฝ่ายความมั่นคง ทั้งทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และฝ่ายข่าวพื้นที่ภาคใต้ ให้ความสำคัญในการติดตามเชื่อมโยงงานข่าวความเคลื่อนไหวของเครือข่ายกลุ่มบุคคลเป้าหมาย และให้เพิ่มความเข้มข้นมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันการก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่รับผิดชอบ
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดหนองครก ต.ควนโนรี อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้นายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เชิญพวงมาลาหลวงไปวางที่หน้าหีบศพ จ.ส.อ.ชูชวัช มาศศรี (จนท.โครงฯ) สังกัด ร.153 พัน 2 ซึ่งเสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว.


 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"