ป้ายสีด้วยข้อหาล้มเจ้า?


เพิ่มเพื่อน    

                 นานๆ ทีจะเห็นด้วยกับ "ปิยบุตร แสงกนกกุล"

                ในที่ประชุมรัฐสภา แถลงนโยบายรัฐบาล เมื่อวาน (๒๕ กรกฎาคม) ปิยบุตรอภิปรายประเด็นการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ เอาไว้ดังนี้

                “การปกป้องและเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ดีที่สุด มิใช่การนำสถาบันพระมหากษัตริย์มาใช้เป็นเครื่องมือในการทำลายล้างทางการเมือง มิใช่การใส่ร้ายป้ายสีกันด้วยข้อหา 'ล้มเจ้า'

                แต่การปกป้องและเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ดีที่สุดคือ การสร้างประชาธิปไตยให้มั่นคง มีแต่การปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่เคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ประกันสิทธิและเสรีภาพของประชาชนเท่านั้นที่จะทำให้สถาบันพระมหากษัตริย์ดำรงอยู่อย่างมั่นคงสถาพร

                ประสบการณ์จากหลากหลายประเทศที่สถาบันพระมหากษัตริย์อยู่อย่างมั่นคงสถาพรและทรงพระเกียรติยศ ล้วนแล้วแต่เป็นประเทศที่ปกครองโดยระบอบประชาธิปไตยทั้งสิ้น...

                ...ดังนั้น ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จึงไม่มีที่อยู่ที่ยืนให้กับการรัฐประหาร ไม่มีที่อยู่ที่ยืนให้กับกองทัพในการยึดอำนาจ และไม่มีที่อยู่ที่ยืนให้กับกองทัพที่อยู่เหนือรัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้ง

                นี่คือเนื้อแท้ของการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข”

                ถูกต้อง แต่ถูกแค่เสี้ยวเดียว!

                การปกป้องและเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์นอกจากปลอดรัฐประหารแล้ว ยังต้องปลอดจากการเมืองบางประเภทด้วย

                พูดไปก็ลิ้นพัน ประการแรก พรรคอนาคตใหม่เพิ่งจะเชิดชูกิจกรรมของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยในอดีต

                แถมยังมีการไปตั้งคำถามว่า ทำไมคอมมิวนิสต์ถูกทำให้เป็นปีศาจ

                เรื่องนี้อธิบายในเชิงวิชาการได้ และยากที่จะปฏิเสธ นั่นคือ การปกครองระบอบคอมมิวนิสต์คือการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

                เป็นคอมมิวนิสต์ก็ไม่มีสถาบันพระมหากษัตริย์

                ฉะนั้นการต่อสู้ในอดีต เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ว่า นักศึกษา ประชาชน ถูกกวาดล้างอย่างหนัก จำต้องเข้าป่าร่วมกับพรรคคอมมิวนิสต์

                และต้องเข้าใจด้วยว่า หากวันนั้นคอมมิวนิสต์ยึดประเทศไทยสำเร็จ วันนี้เราไม่มีสถาบันพระมหากษัตริย์

                คำอภิปรายของ "ปิยบุตร" จึงมีคำถามว่า กลั่นออกมาจากก้นบึ้งของความคิดจริงหรือไม่?

                ประการถัดมา การปกป้องและเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ดีที่สุด ยังต้องปลอดจากการเมืองที่คอร์รัปชันด้วย

                เพราะประวัติการรัฐประหารมักเกิดหลังมีรัฐบาลคอร์รัปชันเสมอ

                แทบจะเป็นสูตรตายตัว

                แต่วันนี้แทบไม่มีแนวคิดที่เป็นรูปธรรมในการขจัดคอร์รัปชันให้หมดจากกลุ่มที่เรียกตัวเองว่าฝ่ายประชาธิปไตย

                ซ้ำร้ายฝ่ายประชาธิปไตยสีเทาคือกลุ่มการเมืองที่เป็นสมุนโจรปล้นชาติ

                สำคัญที่สุด ข้ออ้างที่ว่ามีการใช้สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นเครื่องมือในการทำลายล้างทางการเมืองนั้น ต้องย้อนถาม "ปิยบุตร" กลับไปว่า คนสร้างเงื่อนไขล้มเจ้าคือใคร

                หากไม่มีนักการเมืองที่บังอาจจาบจ้วง ดูหมิ่น พาดพิง สถาบันพระมหากษัตริย์ บ่อยครั้ง

                ข้อกล่าวหาล้มเจ้าจะมีได้อย่างไร.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"