ปชช.ชอบคนนอกสภาฯ


เพิ่มเพื่อน    

  ซูเปอร์โพลสำรวจความเห็นประชาชน  ส่วนใหญ่เห็นว่าการแถลงนโยบายรัฐบาลไม่ได้ประโยชน์ ไม่มีใครน่าชื่นชอบ แต่ชอบคนนอกสภา เช่น ปวีณา สุดารัตน์ ธนาธร อภิสิทธิ์ แทน ขณะที่กรุงเทพโพลล์ระบุประชาชนเรียกร้องเร่งแก้ปัญหาค่าครองชีพ

    ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) นำเสนอผลสำรวจภาคสนามเรื่อง ประเมินผลแถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,563 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) เก็บข้อมูลวันที่ 26 ก.ค. พ.ศ.2562 ที่ผ่านมา 
    เมื่อถามถึงประโยชน์ที่ได้รับจากการแถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 72.8 ไม่ได้ประโยชน์ ในขณะที่ร้อยละ 27.2 ได้ประโยชน์ นอกจากนี้ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 78.6 ไม่เชื่อมั่นต่อพรรคการเมืองทำตามนโยบายหาเสียง ในขณะที่ร้อยละ 21.4 เชื่อมั่น เมื่อประเมินความพึงพอใจของประชาชนต่อฝ่ายต่างๆ ในสภา ได้แก่ ฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน และประธานสภาฯ ในการทำหน้าที่แถลงนโยบายรัฐบาลภาพรวม เมื่อคะแนนเต็ม 10 คะแนน พบว่า ฝ่ายค้านได้ 6.46 คะแนน, ผู้ทำหน้าที่ประธานสภาฯ ได้ 5.84 และฝ่ายรัฐบาลได้ 5.11 คะแนน
    อย่างไรก็ตาม ที่น่าพิจารณาคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 79.2 ระบุไม่มีใครน่าชื่นชอบเลยในวันแถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก ในขณะที่ ร้อยละ 20.8 ระบุมีคนที่น่าชื่นชอบ เช่น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา, พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส, นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์, นายปิยบุตร แสงกนกกุล, นางสาวพรรณิการ์ วานิช, นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว, นางสาวปารีณา ไกรคุปต์ เป็นต้น  
    แต่ที่น่าสนใจคือ เมื่อถามถึงคนนอกสภาที่น่าชื่นชอบ ทุ่มเททำงานหนักแก้ความเดือดร้อนชาวบ้านได้ดี พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 75.0 ระบุมีคนนอกสภาที่น่าชื่นชอบ เช่น นางปวีณา หงสกุล, นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ, คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์, นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นต้น ในขณะที่ร้อยละ 25.0 ระบุไม่มีใคร
    ผอ.ซูเปอร์โพลกล่าวว่า อารมณ์ของสาธารณชนยังเปิดโอกาสให้รัฐบาลและคนในสภาได้ทำงานเร่งแก้ปัญหาเดือดร้อนของประชาชน แต่ส่วนใหญ่ยังไม่เห็นประโยชน์อะไรที่ได้รับจากการแถลงนโยบายและขาดความเชื่อมั่นต่อพรรคการเมืองที่เคยหาเสียงไว้ จึงเสนอให้เอาวาทกรรมการเมืองในสภามาทำให้เห็นเป็นจริงจังว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จับมือแกนนำฝ่ายค้าน “เดินตลาดสด” หรือลงพื้นที่อื่นๆ ที่เป็นจุดวิกฤติเดือดร้อนของประชาชน และเอามาอภิปรายแก้ปัญหาเดือดร้อนประชาชนในสภาร่วมกัน เช่น ภัยแล้ง คนไทยตกงานบริษัทใหญ่ปิดตัว ปัญหายาเสพติด ค่าครองชีพสูง ราคาผลผลิตการเกษตรตกต่ำ จนได้ข้อยุติเป็นผลงานร่วมกัน ผลที่ตามมาคือความเชื่อมั่นของประชาชนต่อสภาน่าจะกลับคืนมาได้ไม่ยากนัก
    ขณะที่กรุงเทพโพลล์ โดยศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ สำรวจความคิดเห็นประชาชนเรื่อง “ความเชื่อมั่นต่อการบริหารประเทศของรัฐบาลใหม่ (ประยุทธ์ 2/1)” โดยเก็บข้อมูลกับประชาชนจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศ จำนวน 1,176 คน พบว่าประชาชนมีความเชื่อมั่นต่อการบริหารประเทศของรัฐบาลใหม่ (ประยุทธ์ 2/1) เฉลี่ยในภาพรวม 4.52คะแนน โดยมีความเชื่อมั่นด้านการเมืองมากที่สุด (4.80 คะแนน) รองลงมาคือด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม (4.67 คะแนน) และด้านเศรษฐกิจ (4.18 คะแนน) 
    เมื่อแยกพิจารณาในแต่ละด้านพบว่า ตัวชี้วัดด้านการเมืองที่ประชาชนให้คะแนนความเชื่อมั่นมากที่สุดคือ ด้านการธำรงรักษาระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (6.58 คะแนน) ส่วนตัวชี้วัดด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมที่ประชาชนให้คะแนนความเชื่อมั่นมากที่สุดคือ ด้านการอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (5.37 คะแนน) และตัวชี้วัดด้านเศรษฐกิจที่ประชาชนให้คะแนนความเชื่อมั่นมากที่สุดคือด้านศักยภาพของคนไทย (5.08 คะแนน) 
    ทั้งนี้ ประชาชนร้อยละ 41.5 ระบุว่าค่อนข้างคาดหวังถึงคาดหวังมาก ต่อการปฏิบัติหน้าที่ของรัฐบาลใหม่ (ประยุทธ์ 2/1) ขณะที่ร้อยละ 58.5 ระบุว่าไม่ค่อยคาดหวังถึงไม่คาดหวังเลย
    ส่วนเรื่องที่อยากให้รัฐบาลประยุทธ์ 2/1 แก้ปัญหาอย่างเร่งด่วนที่สุด ร้อยละ 75.9 คือปัญหาค่าครองชีพของแพง รองลงมาร้อยละ 61.3 คือปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ และร้อยละ 50.8 คือปัญหาภัยแล้ง.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"