"นายกฯ" เผยรวบผู้ต้องสงสัยบึ้มกรุงแล้ว 9 ราย ตร.เค้นสอบหาผู้บงการเบื้องหลัง "ประวิตร" มั่นใจไม่มีขยายพื้นที่ก่อเหตุซ้ำ "บิ๊กแดง" ชี้อย่ามโนข่าวระเบิด เชื่อมี "มาสเตอร์มายด์" ป่วนเมืองจ้องทำลายล้างทุกรูปแบบ ซัดการเมืองต้องไปเล่นในสภา "อีโอดี" ตรวจหลักฐานไอซีไทเมอร์ตรงกับกลุ่มก่อเหตุชายแดนใต้ "ฝ่ายแค้น" ส่ง "เสรีพิศุทธ์" ตั้งกระทู้ซัดคดีระเบิด

    เมื่อวันที่ 6 ส.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงความคืบหน้าเหตุระเบิดหลายจุดในพื้นที่ กทม.ว่า เรื่องดังกล่าวมีการรายงานประจำวันให้ตนรับทราบทุกวันถึงความคืบหน้า วันนี้ก็มีความคืบหน้าไปมาก มีผู้กระทำความผิดเพิ่มขึ้นถึง 9 คน โดยอยู่ในขั้นตอนสืบสวนสอบสวน ซึ่งจากนี้จะต้องมีการสืบสวนต่อเพื่อดำเนินการนำลงโทษตามกฎหมายให้ได้ ด้วยวิธีการตามกระบวนการยุติธรรม ทั้งวัตถุพยาน พยานบุคคลจะต้องทำให้รอบคอบ 
    "รัฐบาลจะทำเรื่องนี้ให้ดีที่สุด สิ่งสำคัญที่สุดอยากขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงประชาชนที่ร่วมกันเป็นหูเป็นตา ตามที่ผมได้เคยพูดไปว่าเราจะรักษาความมั่นคงแบบองค์รวมได้อย่างไร ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ซึ่งต้องเริ่มจากตัวเอง ชุมชน และประชาชนสามารถช่วยรัฐในการถ่ายภาพ ซึ่งถือเป็นการดี" นายกฯ กล่าว
    ส่วน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้รายงานต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตามที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. รายงานมาว่าเวลานี้อยู่ระหว่างการสอบ ยังไม่มีอะไรเพิ่มเติม ตอนนี้กำลังดูถึงความเชื่อมโยงและพยานหลักฐานจากหลายทาง รวมถึงทางน้ำด้วย เบื้องต้นทราบว่าเป็นเครือข่ายจากภาคใต้ มีการเตรียมการอย่างดี กำลังตรวจสอบอยู่ว่าใครอยู่เบื้องหลัง
    พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ในส่วนมาตรการรักษาความปลอดภัยได้สั่งการให้ทั้ง กอ.รมน. ฝ่ายปกครอง ทหาร ดูแลเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ซึ่งเบื้องต้นยังไม่ข้อมูลทางการข่าวว่าคนร้ายจะขยายพื้นที่ก่อเหตุเพิ่มขึ้นอีก ดังนั้นแนวโน้มคงไม่มีการขยายพื้นที่อะไร อย่างไรก็ตาม รายละเอียดต้องรอซักกับผู้ต้องหาก่อน
    ถามว่า นายกฯ ให้คำแนะนำอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า นายกฯ ไม่ต้องให้คำแนะนำ เพราะตัวเองดูแลเรื่องความมั่นคงมานานแล้ว เรื่องนี้ต้องสืบสวนสอบสวนต่อไปว่ามาจากกลุ่มไหน ยังไม่สามารถตอบได้ว่าเกี่ยวข้องกับกลุ่มการเมืองหรือไม่
    เช่นเดียวกับ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นติดตามสถานการณ์และข่าวสารจากฝ่ายความมั่นคงอย่างใกล้ชิด ขณะเดียวกันได้มีการกำหนดมาตรการดูแลพื้นที่ร่วมกับหน่วยงานอื่น 
    "เบื้องต้นได้แจ้งเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ทำความสะอาด ให้ดำเนินการตามมาตรการเฝ้าระวังพื้นที่ หากพบวัตถุต้องสงสัยขอให้ประสานงานกับอีโอดีอย่างรวดเร็ว" รมว.มหาดไทยกล่าว
    ที่ บก.ทบ. พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวถึงเหตุระเบิดป่วนกรุงว่า การให้ข่าวทางโซเชียลฯ และสื่อต่างๆ ต้องอ้างอิงจากตำรวจ โดยเฉพาะการให้ข่าวต้องติดตามการแถลงจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ อย่ามโนกันไปเอง เพราะมีคนทั้งชอบและไม่ชอบก็ต่างมโนกันไป ซึ่งโซเชียลฯ หรือข่าวปลอมมีอิทธิพลมาก ที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีบอกแล้วว่าเหตุการณ์ทุกอย่างเป็นอย่างไร ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ได้ทำงานก่อน อีกทั้งบางครั้งข่าวที่ออกมาก็ยังไม่ผ่านการแถลงจากเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ถือเป็นหน่วยงานหลัก เนื่องจากตอนนี้ไม่มีกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) แล้ว ทางทหารจะรับผิดชอบเฉพาะงานด้านความมั่นคงกับกองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (กอ.รมน.) ปกติ เพราะฉะนั้นนายกรัฐมนตรีที่ควบคุมหน่วยงานด้านความมั่นคงจะเป็นผู้สั่งการในงานของทหารและตำรวจ
มีมาสเตอร์มายด์บึ้มกรุง 
    "ผมเคยพูดตั้งแต่สมัยเป็นแม่ทัพภาพที่ 1 ในคำว่า neighbor watch ตามหลักคือในส่วนของเพื่อนบ้าน เราต่างคนต่างดู แต่นี่คือบ้านเรา ดังนั้นทุกคนต้องช่วยกันดู ช่วยเป็นหูเป็นตา หากพบวัตถุต้องสงสัยต้องช่วยกันดูแล แต่ข่าวต่างๆ ที่ออกมาก็เบี่ยงเบนประเด็นบ้าง เพื่อให้เกิดความขัดแย้ง ซึ่งปัจจุบันรัฐบาลก็ทำงานไปได้ด้วยดีแล้ว แต่เพิ่งทำงานไม่กี่วันก็มีเหตุระเบิด ผมขอร้องสื่อมวลชนให้ถามคำถามในเชิงสร้างสรรค์ หรืออย่าทำให้เกิดการตีความ เพราะบางข่าวพูดอีกอย่างแต่เสนออีกอย่าง หรือมีการตัดตอนข่าว หากเป็นอย่างนี้ การสัมภาษณ์ก็ไม่เกิดประโยชน์กับประชาชน ไม่มีใครที่ไม่อยากเห็นประเทศตัวเองไม่สงบเรียบร้อย ผมอยากให้ฟังข่าวสารจากความมั่นคงที่ถูกต้องเป็นหลัก" พล.อ.อภิรัชต์กล่าว
    ผบ.ทบ.กล่าวว่า ปัจจุบันรัฐบาลพยายามตั้งศูนย์ในการต่อต้านเฟคนิวส์ หรือข่าวปลอมขึ้นมา ซึ่งหลายประเทศเอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้มากในการต่อต้าน โดยมีระบบให้ความรู้กับประชาชน เพราะประชาชนทุกคนถือว่ามีสิทธิ์มีเสียงและมีไมโครโฟนเป็นของตัวเอง นั่นคือโทรศัพท์มือถือ ที่จะสามารถกดอะไรก็ได้ อยู่ที่วิจารณญาณและจริยธรรมในตัวของตัวเองในสิ่งที่ตัวเองส่งไป ขอให้ตระหนักถึงการรับและแชร์ข้อมูล โดยขอให้ฟังข้อมูลจากเจ้าหน้าที่เป็นหลัก ปัจจุบันมีการฟ้องกันเรื่องนี้มากขึ้น ดังนั้นเรื่องความสงบเรียบร้อย และเรื่องระเบิด ขอให้ติดตามการแถลงข่าวของเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นหลัก อย่าไปติดตามอะไรที่ไม่มีที่มาที่ไป
    "การก่อเหตุต้องการทำให้เกิดความไม่เชื่อมั่น เนื่องจากเกิดเหตุในช่วงที่บ้านเมืองมีผู้นำต่างประเทศมาประชุมงานด้านการต่างประเทศ ซึ่งเราก็เคยเห็นเหตุการณ์แบบนี้ในการประชุมอาเซียนเมื่อปี 52 ที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี, ที่ จ.ภูเก็ต และที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ วัตถุประสงค์ของการดิสเครดิตต่างๆของรัฐบาลเกิดจากผู้ไม่หวังดี ซึ่งผมไม่อยากบอกว่าเป็นฝ่ายใด แต่เชื่อว่าคนดีๆ เขาไม่ทำกัน และถามว่ารัฐบาลจะทำร้ายตัวเองเพื่ออะไร รัฐบาลและนายกฯ มีเรื่องต่างๆ ที่จะต้องแก้ไข ส่วนผมก็จะดูแลด้านความมั่นคงและดูแลทหารเป็นหลัก" ผบ.ทบ.กล่าว
    ซักว่า กลุ่มเดิมๆ ที่เคยระบุไว้ทางฝ่ายความมั่นคงได้ติดตามความเคลื่อนไหวคนกลุ่มนี้ตลอดเวลาหรือไม่ พล.อ.อภิรัชต์กล่าวว่า ยังไม่สามารถเชื่อมโยงไปถึงคนที่บงการหรือวางแผนทุกอย่างด้วยหลักกลยุทธ์และยุทธวิธี เพื่อให้มีคนไปดำเนินการปฏิบัติ ซึ่งเหล่านี้เป็นกระบวนการ คนที่บงการส่วนใหญ่จะสืบไปถึงตัวได้ยาก ทำให้เราได้แต่คาดเดา และต้องใช้เวลาในการหาหลักฐาน ซึ่งขณะนี้มั่นใจว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถปฏิบัติงานได้เป็นอย่างดี และตอบสนองนายกรัฐมนตรีได้
    "กองทัพบกให้การสนับสนุนเรื่องข้อมูลข่าวสารที่เคยรวบรวมไว้ แต่กลุ่มเดิมที่ผมหมายถึงก็คือกลุ่มเดิมที่เป็นมาสเตอร์มายด์ หรือผู้อยู่เบื้องหลังนั้น มีความคิดที่จะก่อเหตุในทุกรูปแบบ ซึ่งปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นการทำระเบิดหรือการทำข่าวปลอม ก็ถือเป็นการบ่อนทำลายประเทศอีกแบบหนึ่งเหมือนกัน" พล.อ.อภิรัชต์กล่าว
    ถามว่าใช่ฝ่ายตรงกันข้ามกับรัฐบาลหรือไม่ พล.อ.อภิรัชต์กล่าวว่า ตนไม่ได้อยู่ในฐานะนักการเมือง เนื่องจากตอนนี้ไม่มี คสช.แล้ว พูดในส่วนของความมั่นคงไม่ได้อ้างอิงเกี่ยวกับการเมือง แต่เราก็คนไทยด้วยกันหากประเทศเดินไปได้ในทุกเรื่องก็น่าจะเกิดความเรียบร้อย แต่การที่ยังมีมาสเตอร์มายด์ ที่มีความคิดที่ไม่ยอมรับและไม่เคารพกติกาตอนนี้ ก็ขอให้ไปเล่นกันในสภา
    ซักอีกว่า ผู้วางแผนหรือผู้บงการอยู่ในหรือนอกประเทศ ผบ.ทบ.กล่าวว่า มันอยู่ได้ทุกที่ ทุกหนทุกแห่งในโลก หรืออาจจะอยู่ในโลกออนไลน์ก็ได้ อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนเป็นหูเป็นตาดูแลบ้านของทุกคน หากเห็นวัตถุต้องสงสัยก็ขอให้แจ้งมา เพราะประชาชนถือว่าเป็นส่วนสำคัญที่สุด เราต้องช่วยกันดูแลบ้าน เพราะประเทศไทยคือบ้านของพวกเราทุกคน
เค้นสอบ 9 ผู้ต้องสงสัย
    มีรายงานว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมผู้ต้องสงสัยลอบวางระเบิดในพื้นที่ กทม.ได้แล้วรวม 9 ราย คือ นายลูไอ แซแง อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 66/6 หมู่ 4 ตำบลรือเสาะออก อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส และนายวิลดัน มาหะ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 65 หมู่ 2 ตำบลสาวอ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ที่ จ.ชุมพร ขณะนั่งรถทัวร์ลงพื้นที่ชายแดนใต้, นายอิสมะแอ หรืออาแบ ไม่ทราบนามสกุล เป็นคู่เขยกับนายวิลดัน เป็นชาว อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ถูกเชิญตัวจากบ้านใน อ.รือเสาะ, นายมูฮัมหมัดอิลฮัม อายุ 28 ปี ภูมิลำเนา อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส เป็นคู่เขยกับนายอิสมะแอ ถูกไล่จับขณะกำลังซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ข้ามแดน บริเวณด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส, นายมูฮำหมัด ฮาซัน อายุ 22 ปี อยู่ที่ อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส เป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ที่มีนายมูฮัมหมัดอิลฮัม สะอิ นั่งซ้อนท้ายข้ามแดน, นายอิลมี ไม่ทราบอายุและภูมิลำเนา, นายซูลกิฟลี อายุ 38 ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่ ต.สุวารี อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส และนายมูฮัมหมัด สาอิ รวมทั้งชายอีก 1 ราย ซึ่งทั้งหมดอยู่ระหว่างการสอบสวนหาผู้อยู่เบื้องหลังก่อเหตุทั้งหมด
    ที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บก.สส.บช.น.) พ.ต.อ.กำธร อุ่ยเจริญ รอง ผบก.สปพ. พร้อมเจ้าหน้าที่กลุ่มงานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด หรืออีโอดี เดินทางมายัง กก.สส.บช.น. เพื่อซักถามข้อมูลเกี่ยวกับรูปแบบและชนิดของระเบิดในครั้งนี้ และเปรียบเทียบกับเหตุการณ์ที่เคยเกิดก่อนหน้านี้ทั้งหมด 
    พ.ต.อ.กำธรปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลใดๆ บอกแต่เพียงว่าขอให้ผู้บังคับบัญชาให้ข้อมูลเท่านั้น 
    มีรายงานว่า ข้อมูลจากอีโอดีที่นำมาให้ข้อมูลกับชุดคลี่คลายคดี หลังตรวจสอบที่เกิดเหตุแต่ละจุดพบมีหลักฐานหลายอย่าง หนึ่งในนั้นคือไอซีไทเมอร์ หรือไอซีตั้งเวลา ที่เมื่อนำไปเทียบเคียงกลับพบว่ารูปแบบการประกอบระเบิดและวัสดุที่นำมาใช้ในครั้งนี้คล้ายกับเหตุระเบิดในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้แทบจะทั้งหมด  ซึ่งข้อมูลทั้งหมดเป็นหนึ่งในพยานหลักฐานสำคัญที่ตำรวจใช้ประกอบสำนวนคดี เพื่อเตรียมขอศาลออกหมายจับผู้ก่อเหตุในคดีนี้
    นอกจากนี้ แนวทางการสืบสวนเจ้าหน้าที่จะเน้นไปที่การรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ของนายลูไซ แซแง และนายวิลดัน มาหะ ผู้ต้องสงสัยที่ถูกจับกุมได้ เช่น เสื้อผ้าสวมที่สวมใส่และใช้เปลี่ยนเพื่ออำพรางตัวเอง และพยานแวดล้อมที่เกี่ยวข้อง มาประกอบสำนวนการสอบสวนให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน ตามอำนาจในการควบคุมตัว ซึ่งแนวทางการดำเนินคดีสามารถชี้แจงได้ว่าผู้ต้องสงสัยทั้ง 2 คน เริ่มต้นเข้ามาก่อเหตุอย่างไร และเพราะเหตุใดตำรวจจึงสามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นผู้ก่อเหตุ รวมถึงบุคคลต่างๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องที่ให้การช่วยเหลือทั้งทางตรงและทางอ้อม
    วันเดียวกัน นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวว่า กระทู้ถามเรื่องเหตุระเบิดป่วนเมืองในวันที่ 7 ส.ค.นั้น หากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย จะเป็นผู้ตั้งกระทู้ถามในสัปดาห์นี้
    ร.ท.หญิงสุณิสา ทิวากรดำรง สมาชิกพรรค พท. กล่าวว่า เห็นด้วย พล.อ.อภิรัชต์บอกว่า Mastermind ที่บ่อนทำลายประเทศมีอยู่ทุกหนทุกแห่ง ทั้งในประเทศ ต่างประเทศ และในโลกออนไลน์ แต่ท่านกลับไม่ได้พูดถึง Mastermind หรือจอมบงการในกองทัพ ที่เด่นชัดกว่าบทบาทด้านการป้องกันประเทศเลย.