"สุวิทย์"ตั้งกก.ชุดพิเศษขับเคลื่อนปลดล็อกอุปสรรคข้อจำกัดมหาวิทยาลัย ดึงผู้เชี่ยวชาญเสริมทัพ คาด 3เดือนเห็นผล


เพิ่มเพื่อน    

8 ส.ค.62-นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (รมว.อว.) กล่าวว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ตนได้ตั้งคณะทำงานพิเศษเพื่อขับเคลื่อนนโยบาย รมว.อว. โดยมีนายพีระพงศ์ ทีฆสกุล จากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.)  เป็นประธาน และกรรมการชุดนี้จะประกอบด้วยอธิการบดีมหาวิทยาลัย ผู้แทนมหาวิทยาลัย และผู้บริหาร อว. และในปัจจุบันอุดมศึกษามีปัญหาหลายเรื่องที่จำเป็นต้องแก้ไข เพื่อให้สามารถเป็นหัวจักรขับเคลื่อนประเทศได้จริง และตนได้ให้สัญญาไว้ว่าจะทำการปฏิรูปอุดมศึกษา จึงได้มีการตั้งคณะทำงานย่อย 3 ชุด ได้แก่1. คณะทำงานด้านตำแหน่งวิชาการและความก้าวหน้า มีนางศันสนีย์ ไชยโรจน์ เป็นประธาน ทำหน้าที่แก้ไขปัญหาที่เป็นอุปสรรคกับอาจารย์ในมหาวิทยาลัยเป็นการด่วน โดยเฉพาะเรื่องของตำแหน่งวิชาการ  ที่ปัจจุบันระเบียบการขอตำแหน่งยังไม่ตอบโจทย์และไม่ทันสมัย รวมถึงลดขั้นตอนความยุ่งยากที่ไม่จำเป็นในการขอตำแหน่งวิชาการด้วย ทั้งนี้ สิ่งแรกที่จะปลดล็อค คือ การยกเลิกการแบ่งเปอร์เซ็นต์การมีส่วนร่วมในผลงานวิจัย ซึ่งเป็นแนวคิดที่ล้าสมัย ไม่ส่งเสริมให้อาจารย์ นักวิจัยทำงานร่วมกัน หรือการกำหนดว่าผลงานที่ทำมาก่อนได้ตำแหน่งหนึ่งจะเอามาขอตำแหน่งต่อๆ ไปไม่ได้ หรือที่บางท่านเรียกว่าผลงานมีระยะเวลาเน่าเสีย เป็นต้น โดยจะนำเรื่องเข้าที่ประชุม คณะกรรมการข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา (ก.พ.อ.) ในเร็วๆ นี้

นายสุวิทย์ กล่าวต่อว่า 2.คณะทำงานด้านกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษา (มคอ.) มี นายสุรศักดิ์ วงศ์รัตนชีวิน เป็นประธาน มีหน้าที่ศึกษาแนวทางการปรับ มคอ. ให้เน้นผลสัมฤทธิ์ของการปฏิบัติงานที่สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาอุดมศึกษาของประเทศ การประกันคุณภาพหลักสูตรที่เป็นสากลและกระชับ ลดขั้นตอนความยุ่งยากหรือการกรอกข้อมูล ที่ไม่จำเป็นอันเป็นภาระของอาจารย์ หรือผู้บริหารหลักสูตร ซึ่งในเบื้องต้นเรื่องนี้ ตนมอบหมายให้ นพ.สรนิต ศิลธรรม ปลัด อว. หาแนวทางปลดล็อค มคอ. เบื้องต้นแล้ว โดยปลัด อว.ได้เสนอแนวทางไว้หลายข้อ เช่น เรื่อง มคอ. 3-6 ซึ่งหากมหาวิทยาลัยไม่จำเป็นต้องทำก็สามารถยกเลิกได้ทันที ส่วนมหาวิทยาลัยใดที่เห็นว่ามีความจำเป็นอยู่ ก็ให้ปรับให้กระชับและลดภาระการกรอกสิ่งที่ไม่จำเป็นออก ซึ่งเรื่องนี้ก็เคยแจ้งแก่มหาวิทยาลัยไปแล้วแต่จะสื่อสารให้ชัดเจนอีกครั้ง


 นอกจากนี้ในส่วนของการรับทราบหลักสูตรที่แต่เดิม สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ใช้เวลานานในการรับทราบ ก็จะให้กระทรวงดูเฉพาะความครบถ้วนของหัวข้อต่างๆ ส่วนเนื้อหาก็เป็นความรับผิดชอบของสภามหาวิทยาลัยที่พิจารณามาอย่างถี่ถ้วน โดยกำหนดให้ใช้เวลาที่ อว.ไม่เกิน 1 สัปดาห์ ซึ่งคณะทำงานชุดนี้จะทำงานประสานกับ ปลัด อว.เพื่อให้ได้ระบบที่ดีและตอบโจทย์ การพัฒนาคุณภาพหลักสูตรและการเรียนการสอน และสุดท้าย 3.คณะทำงานด้านคุณภาพอุดมศึกษา มีนายรัฐชาติ มงคลนาวิน เป็นประธาน ทำหน้าที่ดูภาพใหญ่ของการอุดมศึกษาทั้งระบบ มีหน้าที่ศึกษาและเสนอแนวทางการแบ่งกลุ่มประเภทของสถาบันอุดมศึกษาตามจุดเน้น และความเข้มแข็งของแต่ละสถาบัน เพื่อให้สามารถขับเคลื่อนประเทศตาม แนวทางที่แต่ละมหาวิทยาลัยถนัด  ซึ่งในส่วนของเรื่องคุณภาพการปฏิบัติงานตนได้มอบหมายในนำระบบ OKR หรือ Objective and Key Results มาใช้ในการตั้งเป้าใหญ่ ๆ และเน้นที่ผลลัพธ์ที่สำคัญ ๆ ในระดับกระทรวงและสนับสนุนให้มหาวิทยาลัยนำไปใช้แทนการใช้ KPI เดิมที่เน้นการกำหนดตัวชี้วัดแบบ top-down โดยมีนายนภดล ร่มโพธิ์ เป็นหลักในการดำเนินการเรื่องนี้


“อย่างไรก็ตาม เรื่องที่สำคัญเร่งด่วน คือ เรื่องของธรรมาภิบาลมหาวิทยาลัย ซึ่งปัจจุบันมีปัญหาเป็นอย่างมาก เช่น เรื่องของการเกาหลังกันระหว่างสภามหาวิทยาลัยและฝ่ายบริหาร เรื่องนี้ผมได้รับมอบหมายให้ นายพีระพงศ์ เป็นประธานร่วมกับ ปลัด อว. ทำการศึกษาแนวทางที่จะทำให้ระบบการบริหารมหาวิทยาลัยมีธรรมาภิบาลอย่างแท้จริง เพื่อให้มหาวิทยาลัยสามารถเข้าไปสู่ศตวรรษใหม่และตอบโจทย์ของประเทศตามที่รัฐบาลได้ตั้งความหวังไว้ต่อไป ผมได้ให้เวลาคณะทำงาน 3 เดือนและจะต้องสามารถนำผลงานไปใช้ได้ทันที”รมว.อว.กล่าว


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"