เล็กๆ มิต้าไม่-ใหญ่ๆ มิต้าทำ


เพิ่มเพื่อน    

 

ฮื่ออ์อ์อ์...มันจะเป็นเพราะจักรราศี โชคชะตาราศี หรืออิทธิพลของดวงดาวหรือไม่ อย่างไร ก็มิอาจสรุปได้ การออกเรือสู่อ่าว สู่ทะเล ของ เรือแป๊ะ เลยถึงต้องซัดๆ ส่ายๆ ตั้งแต่เริ่มแรก เรื่องของการ ถวายสัตย์ฯ ที่ดันตกๆ  หล่นๆ ด้วยเพราะอันใดก็มิอาจทราบได้ มันเลยออกอาการคล้าย กิ้งกือ ทำท่าว่าจะ ตกท่อ อะไรประมาณนั้น...

                                                               ----------------------------------------------------

                คืออันที่จริง...หลังจากที่มีพระบรมราโชวาท มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างก็น่าจะเป็นอันเสร็จสิ้นไปตามกระบวนความ ไปตามขั้นตอน อย่างไม่น่าจะหยิบมารื้อฟื้น มาตั้งข้อสังเกตอะไรมากมายนัก แต่ก็นั่นแหละการเผอิญตกๆ หล่นๆ ข้อความบางข้อความ ไปโดยเหตุผลกลใดก็แล้วแต่ เมื่อถูกหยิบเอามารื้อฟื้นขึ้นมาใหม่ มันก็ออกจะเป็นอะไรที่ คาใจ  ต่อผู้คนโดยทั่วไปอย่างมิอาจปฏิเสธได้ ยิ่งท่านรองนายกฯ ฝ่ายกฎหมาย เนติบริกรที่มีขีดความสามารถในการสร้าง  ปาฏิหาริย์ทางกฎหมาย คราวแล้ว คราวเล่า ท่านออกมาให้สัมภาษณ์แบบสองแง่ สองง่าม ชนิดต้องตีความ แปลความ กันประมาณ 2 ชั้น 3 ชั้น หรือ 8 ชั้น อะไรทำนองนั้น ไอ้ที่คาๆ ใจ มันเลยยิ่ง คันใจ กระยุกกระยิก หนักขึ้นไปใหญ่...

                                                               ----------------------------------------------------

                ยิ่งเมื่อมีการสืบสาวย้อนหลัง แบบประเภทนักกฎหมายทั้งหลายที่ชอบหยิบยกเอา ฎีกา มาอ้างอิงประมาณนั้น บรรดา นักสืบ ที่ไปหยิบเอาคำพูด คำจา ของรองนายกฯ เนติบริกรรายเดียวกัน ซึ่งเคยพูดๆ เอาไว้เมื่อแต่ครั้งอดีต ในเรื่องรายละเอียดและขั้นตอนของการถวายสัตย์ฯ ที่จะเกิดอาการตกๆ หล่นๆ แม้แต่คำว่า และ หรือคำว่า หรือ ไม่ได้เอาเลยทีเดียว มันก็เลยเป็นเรื่องยิ่งคันคะเยอเข้าไปใหญ่ เพราะในเมื่อ ลูกศรที่หลุดจากปาก เมื่อครั้งอดีต กลับ ลูกศรที่เพิ่งกลับมาแผลงใหม่ มันออกจะเป็น คนละเรื่องเดียวกัน ชนิดไม่ว่าตีความ แปลความ ไปในลักษณะไหน ก็น่าจะเป็นผลเสียต่อรัฐบาลไปด้วยกันทั้งนั้น...

                                                                ---------------------------------------------------

                อันนี้นี่แหละ...ที่มันเลยต้องกลาย เป็นเรื่อง ขึ้นมาจนได้ หรือทำให้ เรือแป๊ะ ชักออกอาการซัดๆ ส่ายๆ ปานประดุจคล้าย กิ้งกือ กำลังจะตกท่ออะไรทำนองนั้น แต่ก็ต้องถือเป็นเรื่องชอบแล้ว เหมาะแล้ว ที่ท่านนายกรัฐมนตรี บิ๊กตู่ ท่านได้แอ่นอกออกมาแสดงความรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว ส่วนขั้นตอนและรายละเอียดของการแสดงออกถึงความรับผิดชอบ จะเป็นไปเช่นไรนั้น คงต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรี ท่านจะไปเคาะสนิม ปะผุ พ่นสี ตามแบบฉบับของท่านไปตามสภาพ...

                                                                  ----------------------------------------------------

                คือโดยสรุปรวมความแล้ว...มันคงไม่ถึงกับทำให้ เรือแป๊ะ ต้อง ล่มปากอ่าว ไปซะก่อนกำหนดการ ยังน่าจะเดินหน้าต่อไปได้ตามปกติ เพราะไม่ว่าเครื่องยนต์ หางเสือ ลำเรือ ยังคงใช้การได้ไปด้วยกันทั้งสิ้น เพียงแค่มีรอยกะเทาะ รอยกระแทก ตามลำเรือ หรือบริเวณขอบเรืออยู่บ้างในบางจุด แต่ถึงกระนั้น...ก็ต้องถือเป็นอุทาหรณ์สอนใจครั้งสำคัญ ว่าแม้แต่รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ก็คงเป็นเรื่องที่มิอาจมองข้ามได้โดยเด็ดขาด โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ชอบพูดหวัดๆ จนอาจติดเป็นนิสัย เพราะความเป็นนายกรัฐมนตรีภายใต้ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขนั้น ด้วยเหตุเพราะยังติดนิสัย ชิมไป-บ่นไป เท่านั้นเอง ยังเคยต้อง หลับกลางอากาศ มาแล้วก่อนหน้านั้น...

                                                                 -----------------------------------------------------

                ส่วนบรรดาผู้ที่ยังคาใจ คันใจ ในเมื่อท่านนายกรัฐมนตรีท่านออกมาแสดงความรับผิดชอบด้วยตัวท่านเองแต่เพียงผู้เดียว ก็น่าจะเลิกคาใจ คันใจ ได้บ้างแล้ว เอาเวลามาสนใจกับเรื่องคลื่นลมในทะเล ที่กำลังก่อตัวเป็นพายุใหญ่ ไม่รู้จะกี่ลูกต่อกี่ลูกน่าจะเหมาะกว่าเป็นไหนๆ เพราะจำนวนพายุ และอัตราความหนักหน่วง รุนแรง ในเที่ยวนี้ ต้องเรียกว่า...ต้องอาศัยแรงกายแรงใจผู้คนทั้งลำเรือเอาเลยโน่นแหละ มันจะพอ หะเบสสมอพลัน-ฝ่าสันดอนไป ได้อย่างเป็นจริง เป็นจัง จะมามัวพึ่งพาแต่ กะปิตัน มัวแต่คอยจับสังเกต เช็กโน่น เช็กนี่ เผลอๆ...อาจพังไปทั้งเรือหรือจมไปทั้งลำ ขึ้นมาเมื่อไหร่ก็ย่อมได้...

                                                                  -------------------------------------------------------

                การตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก ของประเทศไทย อินตะระเดีย นิวซีแลนด์ ไปพร้อมๆ กัน เมื่อช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา อันนั้นนั่นแหละ ถือเป็นเรื่องสำคัญ ที่คงต้องหันไปให้ความสนใจให้มากๆ เข้าไว้ ส่วนอะไรที่มันออกไปทางหีดๆ หุ้ยๆ อย่างเช่นเรื่อง น้องช่อ กับ น้องเอ๋ ไล่ข่วน ไล่หยิบ ไล่ฟ้อนเล็บใส่กันและกัน ถ้าหากเพลาๆ ลงไปซะมั่ง ก็น่าจะเป็นผลดีต่อส่วนรวมมิใช่น้อย โดยเฉพาะบรรดา สื่อ ทั้งหลาย ที่หันไปกระโดดงับเรื่องที่ออกจะหนักไปทาง ส่วนตั๊ว...ส่วนตัว เอามานำเสนอให้กับส่วนรวมได้รับรู้ รับทราบ ชนิดยืดยาวอีเหลนเป๋น ร่วมๆ ชั่วโมง ครึ่งชั่วโมง เอาเลยถึงขั้นนั้น...

                                                                   ------------------------------------------------------

                ส่งผลให้บรรดา ผู้บริโภค หรือบรรดาชาวบ้าน ชาวช่องทั้งหลาย เลยต้องเกิดอาการ สมองฝ่อ ตามไปด้วยอย่างช่วยไม่ได้ โอกาสที่จะหันมาคิดในเรื่องใหญ่ๆ หันมาสร้างศักยภาพตัวเองกันในระดับ เล็กๆ มิต้าไม่-ใหญ่ๆ มิต้าทำ มันจึงมิอาจเป็นไปได้เลย และนั่นเองที่จะส่งผลให้สิ่งที่เรียกขานกันในนาม เครือข่ายป้องกันทางสังคม มันจึงมิอาจเป็นไปได้อย่างจริงๆ จังๆ เมื่อเจอกับคลื่นลูกใด ลูกหนึ่ง ขึ้นมาเมื่อไหร่ โอกาสที่จะพังไปทั้งลำ หรือจมไปทั้งเรือ ย่อมมีความเป็นไปได้ยิ่งขึ้นเท่านั้น...

                                                                  ------------------------------------------------------

                ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Franklin P. Jones ... The difference between news and gossip lies in whether you raise your voice or lower it. – ความแตกต่างระหว่างข่าวกับคำนินทานั้น อยู่ที่ท่านจะพูดเสียงดัง หรือกระซิบค่อยๆ...

                                                                   ------------------------------------------------------

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"