
ยังไม่จบ แบ่งเค้กไม่ลงตัว "มงคลกิตติ์" สั่งเสือถอย! 5 พรรคเล็กเลิกร่วมรัฐบาล ขอเป็นฝ่ายค้านอิสระ ลั่นไม่ได้เป็นลูกน้อง "บิ๊กตู่" ขู่โหวตสวนรัฐบาลในสภา รับไม่ได้เหมือนมีหัวไว้คั่นหู ไปไกลไล่นายกฯลาออกได้แล้ว "ธรรมนัส" โยน "อุตตม-สนธิรัตน์" รับผิดชอบ
เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ เปิดเผยว่า พรรคเล็กมากกว่า 5 พรรค คือ พรรคไทยศรีวิไลย์ พรรคพลังไทยรักไทย พรรคประชาธิปไตยใหม่ พรรคประชาธรรมไทย และพรรคครูไทยเพื่อประชาชน เห็นไปในแนวทางเดียวกันที่จะทบทวนในการร่วมรัฐบาล โดยเป็นฝ่ายค้านในรัฐบาลหรือเป็นฝ่ายค้านอิสระ
เขาให้เหตุผลว่า เมื่อแต่งตั้ง ครม.แล้ว พวกเราได้รับการตอบสนองค่อนข้างน้อย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องนโยบายที่ไม่ชัดเจน และตามรัฐธรรมนูญเรามีตำแหน่งทางการเมืองไม่ได้อยู่แล้ว แต่เมื่อนโยบายของพรรคมีเข้าไปจริง แต่เหมือนเป็นอีแอบ
"เราไม่มีตัวแทนเข้าไปอยู่ในฝ่ายบริหารเพื่อขับเคลื่อนนโยบายของพรรคจึงเป็นอุปสรรค และการที่จะอภิปรายใดๆ ก็ตามในปัจจุบันค่อนข้างจะลำบาก เพราะเราติดสถานะความเป็นฝ่ายรัฐบาล เวลาพรรคเล็กจะยื่นปรึกษาหารือหรือตั้งกระทู้สดก็ต้องขอวิปรัฐบาล และเขาต้องดูข้อมูลก่อน ซึ่งเป็นเรื่องที่อึดอัด แต่ถ้าเป็นฝ่ายค้านอิสระ เรื่องพวกนี้จะไม่ถูกท้วงติง ความทุกข์ร้อนของประชาชนจะไม่ถูกสกรีน มีอะไรก็พูดตรงๆ โดยไม่ต้องหมางใจกัน"
นายมงคลกิตติ์กล่าวว่า เมื่อเราเปิดสวิตช์ประเทศไทยแล้ว รัฐนาวาของ พล.อ.ประยุทธ์จะเดินไปได้อีก 1 เดือน 4 เดือน 6 เดือน หรือ 4 ปี ก็อยู่ที่หัวหน้าและเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ จะแก้ไขปัญหาทางการเมืองนี้ได้ด้วยความสามารถเชิงการบริหารหรือไม่
"ขอย้ำว่าแก้วที่มันร้าวมากแล้ว บังเอิญกาวตราช้างก็ไม่มีประสาน จึงทำให้ต่อติดค่อนข้างลำบาก"
เมื่อถามว่า เป็นเพราะผู้บริหารพรรคพลังประชารัฐเข้ามาแทรกแซงการทำงานจนทำให้ 10 พรรคเล็กรู้สึกอึดอัดหรือไม่สบายใจหรือไม่ นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า ไม่แน่ใจว่านายรัฐมนตรีเกี่ยวข้องหรือไม่ แต่ตนคิดว่าการจัดการภายในพรรคการเมืองน่าจะเป็นหัวหน้าและเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐมากกว่า เพราะตอนมาเชิญ เชิญอย่างมีเกียรติ แต่ตอนนี้กลับไม่ให้เกียรติหัวหน้าพรรคเล็ก และเรื่องพวกนี้ไม่ใช่เรื่องการต่อรองผลประโยชน์ เรียกว่าเป็นการต่อรองการทำงานให้กับบ้านเมืองมากกว่า พวกตนไม่ใช่พนักงานบริษัท และไม่ใช่ลูกน้องของ พล.อ.ประยุทธ์ นายอุตตม หรือนายสนธิรัตน์
ถามว่า การลงมติในสภาจากนี้จะเป็นอย่างไร หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ตอบว่า ถ้ารัฐบาลชี้แจงไม่ได้เราก็ลงมติสวน เพราะมีหลายเรื่องที่เชื่อว่าประชาชนรับไม่ได้ แต่ถ้ารัฐบาลชี้แจงได้เราจะไปลงมติสวนก็ไม่ได้ แต่เชื่อว่าประชาชนรับไม่ได้กับความคิดที่ไร้ซึ่งมันสมอง เหมือนมีหัวไว้คั่นหู
"ผมไม่แน่ใจว่าฝ่ายค้านยื่นเรื่องนายกรัฐมนตรีถวายสัตย์ฯ ไม่ครบหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้โดยส่วนตัวมองว่าการที่นายกฯ และ ครม.ถวายสัตย์ฯ ไม่ครบก็ถือว่าผิดรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว และนายกฯ ต้องลาออก ถ้าเป็นนายกฯ ผมจะลาออกทันที" นายมงคลกิตติ์กล่าว
ด้าน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องส่วนตัว แต่ทุกอย่างย่อมมีที่มาที่ไป ไม่ใช่สักแต่พูดไปวันๆ ซึ่งตนกับพรรคเล็กเป็นพี่น้องกันมาตลอด ทั้งนี้ ถ้าเราไม่เข้าใจธรรมชาติของนักการเมืองก็คงอยู่ด้วยกันไม่ได้ ส.ส.ทุกคนก็มีความคิดเป็นของตัวเอง เราไม่สามารถไปบังคับใครได้
"เสถียรภาพในการทำงานของรัฐบาลนั้นก็คงไม่กระทบ ไม่ปริ่มน้ำ เพราะผมดูแลตรงนี้อยู่ แต่บางเรื่องบางราวนั้นผมคงพูดไม่ได้ แต่พี่น้องที่มาร่วมรัฐบาลกันก็ควรต้องฟังเขาบ้าง ซึ่งผมไม่ได้เข้าข้าง 10 พรรคเล็ก แต่ควรต้องฟังเขาบ้าง ไม่ใช่ว่าไม่ฟังอะไรเลย จะทำอะไรก็ทำ ถ้าไม่แคร์เสียงเล็กเสียงน้อยก็ต้องไปแก้ปัญหาเอาเอง"
ร.อ.ธรรมนัสย้ำว่า พรรคเล็กเสียสละมามากพอแล้ว ควรให้ความสำคัญกับเขาบ้าง เขาเซ็นสัญญาเอ็มโอยูกับใคร คนคนนั้นควรจะรับผิดชอบ พรรคเล็กเขาทำข้อเสนอไปแล้วว่าเขาต้องการอะไร และส่งไปที่พรรคเรียบร้อยแล้ว ได้เจอกับผู้ใหญ่แล้ว ผู้ใหญ่จะคุยอะไรก็ต้องพูดกับเขาให้ชัดเจน วันนี้มันจบแล้ว และทุกคนก็ส่งตัวแทนมาดำรงตำแหน่งทางการเมืองแล้ว ยกเว้น 10 พรรคเล็กที่ยังไม่ได้รับการดูแล
นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่า ตำแหน่งมีจำกัด นายกฯ ก็พยายามบริหารจัดการให้สัดส่วนลงตัวที่สุด และสามารถเดินหน้ารัฐบาลไปสู่การบริหารราชการแผ่นดินได้ เราก็เห็นใจพรรคเล็ก เพราะร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกันมา และทุกคะแนนของพรรคร่วมก็มีความสำคัญ ดังนั้นทุกเสียงสะท้อนก็ต้องรับฟัง เนื่องจากเรามาจากพรรคร่วมหลายพรรค จะให้ได้ทั้งหมดก็คงไม่ได้
ด้าน นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังธรรมใหม่ ในฐานะหัวหน้าพรรค กล่าวว่าวันนี้ตำแหน่งทางการเมืองไม่ใช่เรื่องสำคัญสำหรับพรรคพลังธรรมใหม่ แต่รัฐบาลน่าจะให้โอกาสคนของพรรคเล็ก 10 พรรคเข้าไปร่วมขับเคลื่อนการบริหาร และนำนโยบายของพรรคแต่ละพรรคเข้าไปสานต่อให้เกิดประโยชน์บ้าง เพราะที่ผ่านมาพรรคเล็กก็เสียสละมา 2 ครั้งแล้ว
"ก่อนการตัดสินใจเข้าร่วมกับรัฐบาล ทางพรรคก็ฟังเสียงของสมาชิกทั่วประเทศ การตัดสินใจจะออกจากพรรคร่วมหรือไม่นั้น เนื่องจากเป็นเรื่องสำคัญ หัวหน้าพรรคไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจด้วยตัวเอง เราก็ต้องกลับไปฟังเสียงสมาชิกจากทั่วประเทศอีกครั้งหนึ่งว่าจะตัดสินใจอย่างไร นี่คือหลักปฏิบัติสำคัญสำหรับพรรคพลังธรรมใหม่" นพ.ระวีกล่าว
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การจะไปทำหน้าที่ฝ่ายค้านอิสระ หมายถึงฝ่ายค้านที่ไม่ร่วมกับฝ่ายค้านในสภา เพื่อรอเจรจาต่อรองกันจบ แล้วจะได้เข้าไปร่วมรัฐบาลใหม่หรือไม่ ที่ขู่แบบนี้เพราะทุกพรรคทราบดีว่ารัฐบาลเสียงปริ่มน้ำมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองสูงมาก ใครจะเจ็บป่วยหรือลุกเข้าห้องน้ำในเวลาลงมติกฎหมายสำคัญๆ แทบจะทำไม่ได้ ทุกคนต้องเฝ้าระวัง เพราะโอกาสพลาดสูงมาก
วันเดียวกันนี้ ระหว่างการพิจารณาร่างข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม และเมื่อพิจารณามาถึงข้อที่ 9 ที่ระบุถึงการทำหน้าที่ของประธานสภาฯ จะต้องวางตัวเป็นกลาง ส.ส.พรรคฝ่ายค้านได้ถือโอกาสวิพากษ์วิจารณ์การทำหน้าที่ของนายชวน ว่าที่ผ่านมาทำหน้าที่ไม่เป็นกลางหลายกรณี
จากนั้นนายชวนชี้แจงว่า ตนเป็นนักการเมืองเก่า แต่ก็ยังภาคภูมิใจว่าไม่เคยซื้อเสียง และไม่เห็นด้วยกับการซื้อเสียง บางคนพูดดี แต่เบื้องหลังทุจริตซื้อเสียงมา ฉะนั้นสิ่งสำคัญคือเราจะทำอย่างไรให้การเมืองดีขึ้น ตนไม่ใช่คนดีแต่ปาก ในสายตาของตนถ้าไม่มีศาลรัฐธรรมนูญบ้านเมืองเราคงเหลวแหลก เละเทะหมด ถ้าเราไปอยู่กับพวกโกงบ้านโกงเมือง ก็จะมองว่าศาลรัฐธรรมนูญไม่น่านับถือ
“ผมเข้ามาเล่นการเมืองไม่ใช่ไม่มีงานทำ แต่ตัดสินใจเพื่อเป็นนักการเมือง โดยเป็นหนี้บุญคุณคน จ.ตรัง เป็นหนี้บุญคุณคนภาคใต้ เป็นหนี้บุญคุณพี่น้องทั้งประเทศ เพื่อมาทำงานการเมือง ฉะนั้น ท่านอย่าประเมินว่าคนที่มาแบบนี้ไม่น่าเชื่อถือ ผมอยากให้ใครก็ตามย้อนกลับดูตัวเอง ว่าแต่ละคนไม่เหมือนกัน อย่าไปหวังว่าทุกคนจะเหมือนกัน เราอย่าไปตำหนิคนอื่น เพราะสำคัญที่ตัวเราเอง อย่าประพฤติปฏิบัติแบบที่เราไม่เห็นด้วย ผมไม่ใช่พวกพูดอย่างลับหลังอย่าง ปากบอกสุจริตลับหลังซื้อเสียง” นายชวน กล่าว.
|
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
| อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
| 'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
| ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
| วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
| "การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
| เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |