ธรรมชาติทุนนิยมกับธรรมชาติแห่งความถูกต้อง


เพิ่มเพื่อน    

 

             แม้ว่าโดยภาพรวม โดยพื้นฐานทางเศรษฐกิจของบ้านเรา น่าจะแข็งแกร่งมิใช่น้อย แต่ลึกๆ ลงไปในรายละเอียด มันคงมีความยุ่งยาก ลำบาก อยู่พอสมควรเหมือนกัน ถึงได้ทำให้รัฐบาลท่านต้องหันไปทุ่มเท หันไปมั่ว อยู่กับการคิดจะกระตุก คิดจะกระตุ้น อะไรต่อมิอะไรกันชนิดเหงื่อไหล ไคลย้อย เมื่อยแขน เมื่อยมือ ไปตามๆ กัน...

                                                           -------------------------------------------------

                อย่างที่คิดกระตุก คิดกระตุ้น "การท่องเที่ยว” มาถึง ณ บัดนี้...ก็ยังไม่รู้ว่าจะออกหัว-ออกก้อย ไปในแนวไหน สำหรับความคิด ความอ่าน ของกระทรวงการคลัง ที่เกิด ไอเดียกระฉูด ขึ้นมาในแบบไหน อย่างไร ก็มิอาจทราบได้ ถึงขั้นคิดจะควักเม็ดเงินงบประมาณ ราวๆ 1,500 ล้านบาท มาแจกให้เด็กวัยรุ่น หรือคนหนุ่ม-คนสาว อายุ 18 ปี คนละ 1,500 บาท ให้เอาไปเที่ยวที่ไหน แบบไหน อย่างไร ก็ย่อมได้ ขอให้เป็นพื้นที่ท่องเที่ยวในเขตที่เรียกว่า เมืองรอง หรือ จังหวัดรองๆ ไปจนถึงคิดจะให้ใครก็ได้ ไม่จำกัดเพศ ไม่จำกัดอายุ สามารถนำเอาค่าใช้จ่ายจากท่องเที่ยว มาหักลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา  ฯลฯลฯ เอาเลยถึงขั้นนั้น...

                                                           -----------------------------------------------------

                แต่เห็นว่า ไอเดีย ดังกล่าว...ดันถูก กระตุก หรือถูก เบรก ด้วยใคร? หรือด้วยเหตุผลกลใดก็มิอาจทราบได้ การกระตุก การกระตุ้น ในแบบหยาบๆ ง่ายๆ ที่ว่านี้ ก็เลยยังคงยักตื้นติดกึก-ยักลึกติดกัก  ยังไม่ถึงกับส่งผลให้คนหนุ่ม-คนสาว อายุ 18 ปี สามารถ ออร์กัสซัม กันไปได้ทั้งบ้าน ทั้งเมือง แต่ถ้าหากการกระตุก การกระตุ้น ในแนวนี้ไม่อาจอุบัติขึ้นมาได้ รัฐบาลหรือกระทรวงการคลัง ท่านก็คงต้องพยายามหันไปหาวิธีกระตุก วิธีกระตุ้น ในรูปแบบใหม่ๆ กันจนได้ โดยอาจมีกรรมวิธี ลีลา ที่ประณีต นิ่มนวล ยิ่งไปกว่านั้น หรือไม่ถึงกับกระทอกไป กระทอกมา ซึ่งจะเป็นอะไรนั้น...คงต้องติดตามกันต่อไป...

                                                              ------------------------------------------------------

                คือด้วยเหตุเพราะการกระตุก หรือการกระตุ้นนั้น...อาจถือเป็น ยาสารพัดโรค ในตำราเศรษฐศาสตร์กระแสหลัก เรียกว่าอาจพอๆ กับ กัญชา ของ เสธ.ไพศาล เอาเลยก็ว่าได้ สามารถใช้ดม-อม-หยอด-สอด-เสียบ อะไรต่อมิอะไรได้เสมอๆ ตามแนวคิด ทฤษฎี ของอภิมหานักเศรษฐศาสตร์กระแสหลักชาวอังกฤษ ผู้มีชื่อว่า จอห์น เมย์นาร์ด เคนส์ ที่เคยกระตุก เคยกระตุ้น อะไรต่อมิอะไรได้ผลสำเร็จมาเป็นจำนวนไม่น้อย การกระตุก การกระตุ้น จึงถือเป็น คาถาศักดิ์สิทธิ์ สำหรับบรรดานักเศรษฐศาสตร์ ที่เห็นอะไรไม่ชอบมา พากล ขึ้นมาเมื่อไหร่ ก็มักหันไปอาศัย คาถาศักดิ์สิทธิ์ หรือ ยาสารพัดโรค ที่ว่านี้ มาเป็นเครื่องมือในการแก้ปัญหา โดยเฉพาะปัญหาในระบบเศรษฐกิจแบบ ทุนนิยม  อันเป็นระบบเศรษฐกิจที่ผู้ซึ่งอาจไม่ใช่นักเศรษฐศาสตร์ แต่เป็น นักการศาสนา อย่างท่าน ทะไล ลามะ ท่านเคยสรุปเอาไว้ว่า เป็นระบบที่ ขัดแย้งกับธรรมชาติ มาตั้งแต่ระดับพื้นฐาน...

                                                                --------------------------------------------------------

                ด้วยเหตุเพราะ ธรรมชาติของทุนนิยม นั่นเอง...ที่มันเป็นตัวทำร้าย ทำลาย ธรรมชาติที่เป็นจริง ชนิดต้องฉิบหาย วายวอด มาโดยตลอด ไม่ว่าป่าไม้ ภูเขา ต้นน้ำ ลำธาร ไปจนถึงท้องฟ้า อากาศ โน่นเลย เท่าที่ต้องฉิบหายกับฉิบหาย อยู่ในทุกวันนี้ ก็ด้วยเหตุเพราะใครต่อใครหันมา เดินในแนวทางทุนนิยม ไปด้วยกันแทบจะหมดทั้งโลกนั่นแล และในเมื่อบรรดาประเทศทั้งหลายต่างต้อง อนุวัตรไปตามโลก ไม่อาจฝืนข้อเท็จจริง หรือฝืนธรรมชาติของทุนนิยมได้ การกระตุก การกระตุ้น มันจึงกลายเป็นส่วนหนึ่ง และส่วนสำคัญ ของระบบเศรษฐกิจในแต่ละประเทศ อย่างมิอาจปฏิเสธและหลีกเลี่ยงได้...

                                                                  --------------------------------------------------------

                แต่แม้ไม่อาจหลีกเลี่ยงหรือปฏิเสธ แต่บรรดาแต่ละประเทศ ก็ยังพอมี ทางเลือก ว่าจะ อนุวัตรไปตามโลก กันในลักษณะไหน จะไหลไปตามโลกแบบไม่คิดจะบันยะบันยัง เห็นช้างขี้ ต้องขี้ด้วย เห็นใครเป็นเสือ ก็เลยคิดแปลงกายเป็นสัตว์ไปกับเค้ามั่ง หรือจะค่อยๆ เลื่อน ค่อยๆ ไหล ไปในแบบ รู้เท่าทัน อาศัยความมีเหตุมีผล ความพอเหมาะ พอประมาณ สร้างทางเลือกใหม่ๆ ที่อาจไม่ถึงกับฝืน ธรรมชาติของทุนนิยม มากมายเกินไปนัก แต่ก็ไม่ถึงกับทำร้าย ทำลาย ธรรมชาติที่เป็นจริง โดยเฉพาะธรรมชาติที่จะนำไปสู่ ครรลอง-คลองธรรม ทั้งในแง่การเมือง-เศรษฐกิจ-สังคม แม้ต้องอาศัยเวลาอยู่บ้าง หรือต้องอาศัยความประณีต ละเอียดอ่อน ความลึกซึ้ง ในแบบ เข้าถึง-เข้าใจ อย่างเป็นพิเศษ...

                                                                 -------------------------------------------------------------

                เพราะการหันไปมั่วอยู่กับการกระตุก กระตุ้นเศรษฐกิจ กระตุ้นจีดีพีล้วนๆ ถ้าว่ากันให้ถึงที่สุดแล้ว...มันออกจะเป็นอะไรที่ไม่น่าจะ เข้าท่า กันซักเท่าไหร่นัก เพราะยิ่งกระตุ้นไป-กระตุ้นมา อาจยิ่งกลายเป็นการทำลาย ธรรมชาติที่เป็นจริง หรือ ธรรมชาติที่ถูกต้อง ยิ่งขึ้นไปเท่านั้น ชนิดถึงขั้นต้องอาศัยสิ่งที่ไม่พึงปรารถนาของมวลมนุษย์ อย่างเช่น สงคราม เป็นต้น เป็นเครื่องมือในการกระตุ้นเอาเลยก็มี  มันเลยถึงได้ทำให้เกิดแนวคิดทฤษฎีที่เรียกๆ กันว่า เคนส์เนเชียนทางทหาร อุบัติขึ้นมาจนนำพาโลกทั้งโลก ไปสู่สงครามระดับโลกกันจนได้...

                                                                   --------------------------------------------------------

                การอาศัย ทางเลือก ใหม่ๆ ที่มีความมีเหตุมีผล ความพอเหมาะ พอประมาณ เป็นพื้นฐาน จึงค่อนข้างให้ความสำคัญกับการกระตุก การกระตุ้น ลงไปถึง จิตสำนึก ของผู้คนนั่นแหละเป็นหลัก ไม่ว่าจะกระตุก จะกระตุ้นเศรษฐกิจ จีดีพี หรือตัวเลขต่างๆ กันยังไงก็ตาม แต่ที่ขาดไม่ได้โดยเด็ดขาด!!! ก็คือต้องหันมากระตุ้น ธรรมชาติที่ถูกต้อง อันได้แก่ ศีลธรรม คุณธรรม หรือบรรดาธรรมๆ ทั้งหลาย นั่นแล...

                                                                     --------------------------------------------------------

                ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Socrates...He is the richest who is content with the least, for content is the wealth of nature. - ผู้ที่มีความพอใจต่อสิ่งเล็กๆ น้อยที่ตัวเองมีอยู่ คือผู้ที่ร่ำรวยที่สุด เพราะความสันโดษ (พอเพียง) คือทรัพย์ของธรรมชาติ...”

                                                                          ----------------------------------------------------- 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"