15 ส.ค.62 - ที่ห้องพิจารณาคดี 901 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 7 เป็นโจทก์ฟ้อง ด.ต.ประภาส เม่าทอง หรือจ่าหมี อายุ 51 ปี อดีต ผบ.หมู่ สภ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง เป็นจำเลย ในความผิดฐานกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบสามปีซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม, กระทำอนาจารเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปี พาเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปีไปเพื่อการอนาจาร และพรากเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดามารดา 

โจทก์ฟ้องว่า ระหว่างเดือน พ.ย. 2559 - มี.ค. 2560 วันเวลาใดไม่ปรากฏชัด จำเลยได้พราก ด.ช.เอ (นามสมมติ) ผู้เสียหายอายุ 11 ปี ไปเสียจากบิดามารดาเพื่อการอนาจาร ระหว่างเดือน พ.ย. 2559 จำเลยได้พา ด.ช.เอ ไปเพื่อการอนาจาร และเมื่อระหว่างเดือน พ.ค. 2560 - ต.ค. 2560 วันเวลาใดไม่ปรากฏชัด จำเลยได้กระทำอนาจารและพยายามกระทำชำเราแก่ ด.ช.เอ อันเป็นการลงมือกระทำชำเราไปตลอดเพื่อให้บรรลุ ทั้งนี้เพื่อสนองความใคร่ เหตุเกิดที่ ต.ป่าพะยอม อ.ป่าพะยอม ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 80, 91, 277, 279, 283 ทวิ 317 จำเลยให้การรับสารภาพ

ศาลพิพากษาว่า จำเลยกระทำผิดฐานพยายามกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกินสิบสามปี จำคุกกระทงละ 4 ปี 8 เดือน รวม 2 กระทง เป็นจำคุก 8 ปี 16 เดือน, ฐานกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกินสิบสามปี จำคุก 7 ปี, ฐานกระทำอนาจารเด็กอายุไม่เกินสิบสามปี จำคุกกระทงละ 3 ปี รวม 14 กระทง เป็นจำคุก 42 ปี ฐานพรากเด็กอายุไม่เกินสิบสามปีไปเพื่อการอนาจาร จำคุกกระทงละ 5 ปี รวม 17 กระทง เป็นจำคุก 85 ปี รวมจำคุก 142 ปี 16 เดือน

แม้จำเลยได้ชดใช้ค่าเสียหาย 250,000 บาท จนเป็นที่พอใจแก่บิดามารดาของผู้เสียหาย แต่เป็นเพียงทำให้ส่วนแพ่งยุติไป จำเลยเป็นเจ้าพนักงานตำรวจมากระทำผิดเสียเอง ทั้งรูปคดีไม่อยู่ในเกณฑ์ที่จะรอการลงโทษจำคุกให้ได้ ที่จำเลยให้การรับสารภาพ นับว่าเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ฐานพยายามกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกินสิบสามปี คงจำคุก 4 ปี 8 เดือน ฐานกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกินสิบสามปีคงจำคุก 3 ปี 6 เดือน ฐานกระทำอนาจารเด็กอายุไม่เกินสิบสามปีคงจำคุก 21 ปี ฐานพรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบสามปีเพื่อการอนาจาร คงจำคุก 42 ปี 6 เดือน รวมจำคุก 71 ปี 8 เดือน แต่คงลงโทษจำคุกสูงสุดได้ 50 ปี ตามที่กฎหมายกำหนด