ปตท.ลั่นครึ่งปีหลังเร่งลงทุนธุรกิจเสริมแกร่งรักษาระดับผลการดำเนินงาน  


เพิ่มเพื่อน    


ปตท. รับเศรษฐกิจโลก-เทรดวอร์ ฉุด ผลประกอบการครึ่งปีแรกปรับลดลง เล็กน้อย ประกาศครึ่งปีหลังพลอกวิกฤติเป็นโอกาส เร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อเสริมแกร่ง  รักษาระดับผลการดำเนินงาน  


16 ส.ค.62 -  นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) เปิดเผยผลประกอบการครึ่งปี 2562 ที่ปรับลดลงเล็กน้อยจากเป้าหมายเมื่อเทียบกับปีก่อนว่า เนื่องจากสถานการณ์สงครามทางการค้าระหว่างประเทศมหาอำนาจที่ยังไม่มีความชัดเจน ส่งผลให้การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกลดลง รวมถึงค่าการกลั่น (Gross Refinery Margins : GRM) และส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์กับวัตถุดิบของผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมและปิโตรเคมีเกือบทุกประเภทลดต่ำลงเช่นกัน ทำให้ผลการดำเนินงานโดยรวมของ ปตท. มีการปรับลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

 อย่างไรก็ตาม กลุ่ม ปตท. ได้มีการปรับสัดส่วนการลงทุนในธุรกิจต่างๆมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมและธุรกิจไฟฟ้า และเร่งการลงทุนในโครงการที่ได้รับการอนุมัติไปแล้ว ซึ่งทำให้ยังคงรักษาผลประกอบการได้ อีกทั้งแสวงหาโอกาสในการลงทุนพร้อมดำเนินมาตรการปรับปรุงผลประกอบการ (Productivity Improvement) เพิ่มเติมเพื่อลดผลกระทบที่เกิดขึ้น รวมถึงการลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นเร่งด่วนลง

  “เวลาเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง คนจะไม่กล้าลงทุน แต่ปตท.มีการตัดสินใจลงทุนไปแล้ว และเรามีเงินเหลือในการลงทุน ดังนั้น บริษัทฯก็จะเร่งรัดลงทุน เมื่อเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวกลับมาในอีก 2ปีข้างหน้า บริษัทก็สามารถรับรู้รายได้จากผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มของไออาร์พีซี และพีทีที โกลบอล เคมิคอล ”นายชาญศิลป์กล่าว

สำหรับผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งแรกของปี 2562 ปตท. และบริษัทย่อย มีรายได้จากการขายและให้บริการรวม 1,121,196 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9,437 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 1 จากช่วงเดียวกับของปีก่อน เพิ่มขึ้นจากกลุ่มก๊าซธรรมชาติโดยหลักจากธุรกิจจัดหาและจำหน่ายก๊าซฯ และธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมจากปริมาณขายเฉลี่ยและราคาขายเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้น รวมถึงธุรกิจเทคโนโลยีและวิศวกรรมจากการที่ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) (GPSC) เข้าซื้อบริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน) (GLOW)

อย่างไรก็ตาม ปตท. และบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิ 55,250 ล้านบาท ลดลง 14,567 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 21 จากผลการดำเนินงานของกลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่นปรับลดลง เนื่องจากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์กับวัตถุดิบของผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมและปิโตรเคมีเกือบทุกประเภทลดต่ำลง กำไรสต๊อกน้ำมันที่ลดลงตามราคาน้ำมันดิบ  รวมถึงกลุ่มธุรกิจก๊าซธรรมชาติมีผลการดำเนินงานลดลงเช่นกันจากหลักการของธุรกิจโรงแยกก๊าซธรรมชาติที่ราคาขายอ้างอิงราคาปิโตรเคมีปรับลดลง แต่ต้นทุนก๊าซฯ ปรับสูงขึ้น


" ในปีนี้บริษัทฯคาดว่ามีกำไรต่ำกว่าปี 2561 ที่มีกำไรสุทธิ 119,683.94 ล้านบาท แต่ไม่เลวร้ายเท่ากับปี 2558 ที่มีกำไรสุทธิ 19,936.42 ล้านบาท เนื่องจากครึ่งหลังปีนี้ ทิศทางราคาน้ำมันดิบจะอยู่ที่ 65-68 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ใกล้เคียงครึ่งปีแรกที่ราคาน้ำมันดิบเฉลี่ย 65 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล รวมทั้งค่าการกลั่นดีขึ้น และรับรู้รายได้เพิ่มขึ้นจากการเข้าซื้อกิจการแหล่งปิโตรเลียมของบมจ.ปตท .สำรวจและผลิตปิโตรเลียม ส่วนธุรกิจปิโตรเคมีพบว่ามาร์จินอ่อนตัวลง "

        


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"