ขายชาติ-ชักศึกเข้าบ้าน?


เพิ่มเพื่อน    

               คนไทยมองฮ่องกงในวันนี้แบบไหน

                กูรู กูรู้ เยอะแยะไปหมด มองในมุมที่ตัวเองอยากให้เป็น โดยไม่ย้อนกลับไปดูว่า ฮ่องกงก่อนและหลังกลับคืนเป็นของจีน เกิดอะไรขึ้นกับที่นี่บ้าง

                คำว่า "รากเหง้า" จึงสำคัญ เพราะการมองอดีตทำให้เห็นปัจจุบัน

                มีการพูดถึงคนรุ่นเก่าและคนรุ่นใหม่ โดยคนฮ่องกงเอง

                มีการพูดถึงการรับวัฒนธรรมตะวันตก มองข้ามความเป็นจีนของตนเอง

                ที่ต้องยกเรื่องนี้มา เพราะบางแง่มุมคล้ายกับไทยในเวลานี้ ที่คนรุ่นใหม่พยายามเปลี่ยนแปลงประเทศ โดยพยายามล้างรากเหง้าของตนเอง

                ใช้คำว่า "ประชาธิปไตย" ชี้นำทุกสิ่งอย่าง ไม่เว้นกระทั่ง วัฒนธรรมที่สืบต่อมานับร้อยๆ ปี

                มองว่าประเทศไทยต้องเดินอย่างตะวันตกเท่านั้น ไม่มีทางเลือกอื่น

                วันนี้จีนใช้ความอดทนอดกลั้นกับการชุมนุมในฮ่องกง 

                ไม่ใช่การอดกลั้นกับลูกหลานจีน แต่อดกลั้นกับประเทศตะวันตกที่พยายามหาทางเข้าแทรกแซง  โดยคนรุ่นใหม่ของฮ่องกงเป็นฝ่ายเชื้อเชิญ

                จีนอดทนกับอังกฤษและอเมริกา ที่พยายามหาช่องสอดแทรกเข้ามาภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ โดยเฉพาะอังกฤษที่ไข่ทิ้งไว้ในฮ่องกง และวันนี้ความชั่วร้ายนั้นกำเนิดแล้ว

                คนรุ่นใหม่ของฮ่องกงเรียกร้องประชาธิปไตย เพราะไม่อยากเป็นคอมมิวนิสต์แบบจีน ที่เชื่อว่าไร้ซึ่งอิสรเสรีภาพ

                ไม่มีโอกาสเลือกผู้นำด้วยตัวเอง

                ที่ผ่านมาฮ่องกงมีเสรีภาพที่ว่าจริงหรือไม่

                หลังใช้ฝิ่นเป็นเครื่องมือทำลายจีน อังกฤษบีบบังคับให้จีนทำสัญญาในปี พ.ศ.๒๔๔๑ เช่าเกาะฮ่องกง เป็นเวลา ๙๙ ปี กำหนดวันหมดสัญญาวันที่ ๓๐ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๔๐

                ปกครองฮ่องกงแบบอาณานิคม

                เกือบ ๑๐๐ ปี อังกฤษ ไม่ให้สิทธิคนฮ่องคนเลือกตั้งผู้นำเลย

                เมื่อใกล้ถึงเวลาครบสัญญาเช่า อังกฤษวางยา ให้มีการเลือกตั้งท้องถิ่นในปี ๒๕๓๑

                "คริส แพตเทน" คือผู้ว่าการเกาะฮ่องกงคนสุดท้ายที่ส่งตรงจาก ประเทศเจ้าอาณานิคม และหมากที่อังกฤษวางไว้ ในปี ๒๕๓๗ ให้คนฮ่องกงเลือกผู้นำของตนเอง ก่อนที่จะพ้นมืออังกฤษเพียง ๓ ปี

                และนั่นคือช่วงเวลาลืมตาดูโลกของคนรุ่นใหม่ในฮ่องกง ได้ซึมซับประชาธิปไตยแบบฉกฉวยของอังกฤษ รวมทั้งผู้นำม็อบอย่าง โจชัว หว่อง

                มันคือระเบิดเวลาที่อังกฤษทิ้งไว้

                ไม่ต่างจากกรณี โรฮีนจา ในพม่าสักเท่าไหร่

                อังกฤษต้องการเชื่อมอินเดียกับพม่าเป็นหนึ่งเดียว ขนชาวโรฮีนจาจากเบงกอล เข้าไปเป็นชนแปลกปลอมในรัฐยะไข่ โดยไม่สนใจว่าความต่างทางศาสนาจะนำมาซึ่งความขัดแย้งในอนาคต

                และวันนี้เดือดร้อนกันทั้งอาเซียน

                วันนี้คนไทยจำนวนหนึ่งจับแพะชนแกะเชียร์คนรุ่นใหม่ฮ่องกง และเห็นด้วยให้ตะวันตกเข้าแทรกแซง พร้อมกับชี้ว่าไทยเองควรจะเอาอย่างฮ่องกง

                เชื้อเชิญตะวันตกเข้ามา เพราะตัวเองบูชาลัทธิการปกครองแบบตะวันตก และพร้อมที่จะโค่นล้มรากเหง้าของตนเองหากมีโอกาส

                "เติ้ง เสี่ยวผิง" พยายามบอกลูกหลานจีนผ่าน การปกครองหนึ่งประเทศสองระบบ หมายความว่าจีนจะยิ่งใหญ่หากรวมเป็นหนึ่งเดียว แม้จะต่างระบบการเมือง เศรษฐกิจ

                การที่ผู้นำจีนรุ่นหลังเดินตาม "เติ้ง เสี่ยวผิง" อย่างเคร่งครัด ปล่อยให้การปกครองหนึ่งประเทศสองระบบ เดินหน้าต่อไป ในความหมายคือ ฮ่องกง มาเก๊า ไต้หวัน ไม่ได้ถูกกลืนเป็นคอมมิวนิสต์

                 ระบบการเมือง เศรษฐกิจ เป็นมาอย่างไรก็ปล่อยให้เดินไปอย่างนั้น

                แต่....คนฮ่องกงรุ่นหลังไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นคนจีน

                จึงไม่แปลกที่คนรุ่นเก่าในฮ่องกง บอกกับลูกหลานตัวเองว่า อย่าชักศึกเข้าบ้าน อย่าขายชาติ

                หากจะเทียบเคียงกับคนรุ่นใหม่บางกลุ่มในประเทศไทย

                การชักศึกเข้าบ้านคือความพยายามที่มีอยู่จริง. 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"