(แซนวิช-น้องลีออง-กานต์)

 

          ยังเป็นเรื่องวุ่นๆสำหรับครอบครัวของร็อกเกอร์ชื่อดัง เสก โลโซ หรือ เสกสรรค์ ศุขพิมาย ที่ก่อนหน้านี้ กานต์ วิภากร อดีตภรรยา และ แซนวิช ปภาดา ร่วมกันไล่ อีฟ-อภิสร์ญา พัฒนวรทรัพย์ ภรรยาคนที่ 3 ของเสกออกจากบ้านศุขพิมาย จนกลายเป็นกระแสวิจารณ์มากมาย ล่าสุด กานต์ และ แซนวิช ได้ควงคู่มาเปิดใจผ่านทางรายการ คุยแซ่บShow ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น

          โดย กานต์ เผยถึงเหตุกานต์เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาว่า "ที่มีการพูดว่ามีการจับมือกันไล่บุคคลอีกบุคคลออกจากบ้าน จริงๆเรื่องไล่มันเกิดขึ้นมาเกือบปีแล้ว ตั้งแต่เป็นข่าวใหญ่โต เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว แล้วกานต์ก็ไล่มาเป็นระยะอยู่แล้ว ตอนนั้นกานต์ไปบุกที่บ้านเดือนธันวาคม บุก 2 รอบ แล้วทางเสือก็พูดเป็นระยะอยู่แล้วว่าบ้านของใคร พ่อมีสิทธิ์อยู่ คนอื่นอยู่ไม่ได้นะ ก็ในรายการพูดว่าเสกมีสิทธิ์อยู่ แต่ไม่มีสิทธิ์มาสร้างครอบครัวในบ้านที่เป็นของลูก ก็คือมันไม่ใช่อยู่ดีๆมาวางแผน คือมันเป็นการไล่มาเป็นระยะ จนกระทั่งพีคถึงวันนั้น พี่ยืนยันว่าบ้านหลังนี้เป็นของน้องเสือ แล้วน้องเสือได้ทำหนังสือมอบอำนาจให้ไปขับไล่

          ที่มีแซนวิชเข้ามาด้วย จริงๆเรื่องก่อนหน้านี้คือเรามานอนเล่นกัน 2-3 อาทิตย์แล้วที่บ้าน ไม่ได้ทำแผนเลย คือเขากับลีอองมานอนเล่นที่บ้านกานต์อยู่แล้ว ประมาณ 2 อาทิตย์ แล้วมีคุยธุรกิจกัน ก็คือมีแพลนที่จะทำธุรกิจร่วมกัน ที่มาดีกันก็ก่อนที่ลีอองจะเกิดมันมีคนมาใส่ความเรื่องแซนวิช แล้วพอลีอองเกิดขึ้นมาลืมตาดูโลก กานต์เห็นรูปเขา แค่นั้นแหละกานต์หยุดเรื่องแซนวิชเลย เลิกถล่ม เลิกคือไม่เกี่ยวข้อง ไม่ทำร้ายเขาแล้ว คือที่ทำร้ายไปเพราะเขาใจผิดคือมีคนมาหลอก แบบว่าหลอกใช้ ต้องขอโทษน้องเขาด้วย

 

 

 

          วันที่เข้าไปคือเขาก็ขัดขืนไง ยื้อเวลาตลอด โทร.ตามคนนั้น คนนี้ อยู่ในห้องน้ำก็เกือบชั่วโมง คือแบบเยอะ แล้วเขาเอาลูกไปพูดไม่ดีอย่างนั้น อย่างนี้ คือทำร้ายน้องเสือ น้องกวาง ลอนดอน ลีออง เอาแค่นี้แบบหนักมาก แบบจิตใจชั่วช้า เลวบริสุทธิ์จริงๆ
          พอเราไปบุกบ้านเจอวัตถุที่คล้ายทำของไสยศาสตร์ ต้องบอกว่าเราไม่รู้ว่าคืออะไร ไลฟ์สดเพื่อจะถามเขา เรายังไม่ได้ตัดสินว่าคืออะไร ทุกคนเห็นพร้อมกานต์อยู่แล้วว่านี่อะไร คือของมันอยู่ในห้องนอน บนหัวเตียง แล้วอีกอย่างที่เป็นน้ำมันแล้วผงอะไรก็ไม่รู้ กานต์ก็ถามว่านี่อะไร กานต์ไม่มีความรู้เรื่องนี้ เขาก็ตอบมาว่าเป็นนั่นเป็นนี่ว่าเลี้ยงผี น้ำมันพราย เราก็เอาไปถามหลวงพ่อ พระพูดคำแรกว่าอันนี้เขาเลี้ยงผี แต่เอาไปเผาทิ้งไม่เป็นไร คือเผาได้เลย ก็เผาในวัดเลย
          ทางนั้นบอกว่าเป็นแค่กระทงสะเดาะเคราะห์ คือจริงๆกระทงสะเดาะเคาะห์เนี่ย เมื่อทำพิธีสะเดาะเคาะห์เสร็จเขาต้องเอาไปทิ้งที่ทางสามเพ่ง FC บอกนะ ไม่ใช่ให้เอาเข้าบ้าน แล้วอีกอย่างนึงที่ FC บอก น้ำมันพรายกับดิน 7 ป่าช่า เรายังไม่รู้ คือเขาบอกมา ก็เก็บไว้เลยว่าจะไปถามใครดี ตอนนี้ก็ยังเก็บอยู่ คือกานต์อยากรู้ว่ามันคืออะไร ว่าจะแกะดู บางคนก็บอกว่าอย่าเพิ่งแกะ"

 

(อีฟ - เสก โลโซ)

 

          ด้าน แซนวิช เผยว่า "ที่คลิปไลฟ์สดวันนั้นยาว 2 ชั่วโมง แซนอยู่ข้างๆนี่แหละ คือแซนจะเป็นคนที่เย็น แต่พี่กานต์เขาจะเป็นคนใจร้อนนิดนึง แซนก็จะคอยบอกว่าค่อยๆประนีประนอมกันนะ อย่าให้มันเกิดเรื่องที่มันร้ายแรงอะไรอย่างนี้ เพราะว่าเหตุผลอย่างเดียวพี่กานต์ต้องการความถูกต้อง ให้เขาไปคบกันที่อื่น ไปอยู่กันที่อื่นอะไรอย่างนี้ แล้วแซนก็มีความรู้สึกว่าถ้าแซนอยู่ตรงนั้นเหตุการณ์จะซอฟลง เพราะว่าเราสามารถคุยทางนี้ให้ซอฟ ทางนี้ให้ซอฟลงอะไรอย่างนี้
          บุกไปอีกรอบคือได้มีการคุยกันหลายครั้งกับทางอีกฝ่ายหนึ่งว่าตกลงอย่างนี้นะว่าคุณไปสร้างครอบครัวอีกที่ ที่ไม่ใช่ตรงนี้ แต่ระยะเวลามันก็นานไปเรื่อยๆจนแบบว่าทั้งพี่กานต์ น้องเสือได้มีการคุยกันว่าโอเคถ้าตกลงกันไม่ได้ค่อยว่ากันอีกทีว่าจะเอายังไง ก็ไปคุยกับฝ่ายชายว่ายังไง ก็ประนีประนอมกันไปก็ยังไม่ได้บทสรุปอะไร มันก็ช้า ยืดเยื้อไปเรื่อยๆ ที่เขายอมไป ก็ตามในไลฟ์นั้นแหละค่ะ คือเราให้เหตุผลว่ากลับบ้านเถอะ อย่าให้ต้องมีปัญหากันมากกว่านี้ คือก่อนหน้านี้คุณบอกว่าคุณกลับไม่ได้ฝ่ายชายยื้อไว้ แต่ตอนนี้ออกไปได้ง่ายๆเลย คุณก็กลับไป แล้วเดี๋ยวยังไงมีอะไรค่อยคุยกับเขาว่าคุณจะเอายังไงต่อ ตอนนี้กลับบ้านไปก่อน อย่าให้มันเกิดเหตุการณ์ที่มันรุนแรงไปมากกว่านี้เลย เขาก็โอเคกลับ

 

 

          ตอนนั้นพี่เสกอยู่ไหน คือคืนนั้นไปคอนเสิร์ตนครสวรรค์ แล้วแซนไปด้วย พอกลับมาประมาณตี 4 เขาบอกว่าเดี๋ยวเขาไปนอนบ้านพี่กานต์นะ แล้วแซนก็นอนที่นั่น สรุปพี่กานต์กลับมาประมาณตี5 แล้วก็ชวนแซนไป 6 โมงแต่เขาก็นอนอยู่ที่นั่นแหละ เขาหลับอยู่ ตอนเขารู้เขาก็ไม่ได้พูดอะไรมาก เขาบอกว่าลูกน้องเขาเล่าให้ฟัง แล้วเขามาถามแซนว่ามันเกิดอะไรขึ้น เขาไม่เคยโมโหหรือว่าอารมณ์เสียใส่เลย เราให้เหตุผลเขาคือเราก็คุยกับเขา เขาถามว่าเกิดเหตุการร้ายแรงอะไรไหม เราก็บอกว่าไม่มีเหตุการณ์อะไรร้ายแรง แต่พี่กานต์ต้องไลฟ์สดเพราะเขากลัวว่าเกิดอะไรขึ้นจะได้มีหลักฐาน
          ประเด็นที่พี่กานต์ต้องเข้าไปเนี่ย เพราะว่ามันมีผลกระทบมาทางเขา เขาเลยต้องมาปกป้องสิทธิ์ของเขา แต่ถ้าเกิดต่างคนต่างอยู่ คุณอยู่ในจุดของคุณแค่สองคนนะ คุณอย่ามาก้าวก่ายลูก หรือบุคคลที่หนึ่ง สอง คือถ้ามีการก้าวก่ายลูกทุกคนก็ต้องปกป้องลูก คือถ้าไม่มีอะไรที่มากระทบความรู้สึกหรือไม่มาก้าวก่ายไม่มีใครเขาไปยุ่งกับเขาหรอก"