สิระซัดตำรวจโอ๋ส้มหวาน


เพิ่มเพื่อน    

 "บิ๊กตู่" ไม่ชอบพฤติกรรม "สิระ" สั่ง ปธ.ยุทธศาสตร์พรรคพูดคุยตักเตือน ชี้การตรวจสอบมีขั้นตอน ขอเห็นใจ ตร.งานเยอะ "ธรรมนัส" ยันไม่มีนโยบาย ส.ส.ลงลุยงานข้ามเขต "ส.ส.ภูเก็ต" โวยเข้าพื้นที่ไม่ประสาน "สิระ" แจงวงประชุม พปชร.ขอโทษ "ปชช.-พรรค" ทำให้ไม่สบายใจ ย้ำไม่มีเจตนา ซัดตำรวจตอน "อนค." ไปดูแลเต็มไปหมด "ศรีสุวรรณ" เตรียมร้อง ป.ป.ช.สอบ 21 ส.ค.นี้

    ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 20 ส.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีคลิปนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ลงพื้นที่ตรวจสอบการก่อสร้างคอนโดมิเนียมในพื้นที่ อ.กะรน จ.ภูเก็ต จนมีปากเสียงกับตำรวจในพื้นที่ว่า ตักเตือนและสั่งไปแล้ว 
    ถามว่าต้องคุยกับนายสิระหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทำไมต้องคุย ตนไปเกี่ยวอะไรกับเขา ประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐได้เรียกมาคุยแล้ว และทางโฆษกพรรคก็ได้ออกมาขอโทษแล้ว มันคงไม่เข้าใจอะไรกันสักเรื่อง การทำงานของตำรวจก็ต้องเห็นใจเขา เพราะงานเขาเยอะ ฉะนั้นเขาไม่ได้มีกติกาไว้ว่าถ้า ส.ส.ไปต้องมีคนดูแล ถ้าอยากให้เขาดูแล ตัวเองกลัวอันตรายทำหนังสือขอเขา 
    "เขาไม่เข้าใจกันตรงนี้หรือเปล่า และอีกส่วนการที่จะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปจับคนนั้นคนนี้ มันไม่ได้หรอก เพราะต้องมีกระบวนการขั้นตอน ต้องมีการร้องทุกข์กล่าวโทษ คดีขั้นต้นตัดสินว่าอย่างไรจึงจะจับกุมเขาได้ ไม่ใช่อยู่ดีๆ ไปมองว่าไอ้นี่ผิดแล้วไปจับเลย มันทำได้ไหมไม่รู้นะ เราไม่ได้แก้ตัวแทนใครนะเนี่ย เพียงแต่ต้องหาทางเจอกันให้ได้ ก็ขอให้ลดบ้างอย่างนี้อย่าทำเลย ผมไม่เห็นชอบด้วย" นายกฯ กล่าว
    ส่วน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ยืนยันเรื่องนายสิระเป็นเรื่องส่วนตัว เชื่อว่าจะไม่กระทบต่อพรรค พปชร. รวมทั้งไม่มีแนวทางการดำเนินการ และไม่ต้องปราม ส.ส.คนอื่นในพรรค เพราะเขาไม่รู้เรื่อง ไม่รู้ว่านายสิระเขาพูดเรื่องอะไร เขามีจุดประสงค์อะไรก็ไม่รู้ แต่นายสิระมีเจตนาดีที่จะทำงานให้กับประเทศ
    ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ เชื่อว่าเรื่องนายสิระคงไม่กระทบภาพพจน์พรรค พปชร. เพราะเป็นเรื่องส่วนตัว และการลงพื้นที่นายสิระไม่ได้ไปในนามของพรรค และพรรค พปชร.ไม่มีนโยบายให้ ส.ส.ลงพื้นที่ข้ามเขตพื้นที่ของตนเอง 
    "ยืนยันเป็นเรื่องส่วนตัว และให้เป็นเรื่องของผู้ใหญ่พิจารณา แต่บางคนที่มาพาดพิงถึงพรรค พปชร.เกินไปก็เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เพราะนายสิระไม่ได้กระทำการใดในนามของพรรค พปชร." ร.อ.ธรรมนัสกล่าว
    ขณะที่นายสิระกล่าวอีกครั้งว่า ตั้งใจไปทำงานเพื่อหวังที่จะทวงคืนที่ดินของประเทศกลับคืนมาจากกลุ่มนายทุน ก่อนที่จะเดินทางไปก็ได้มีการประสานกับทางผู้ว่าราชการจังหวัดไว้แล้ว แต่ปรากฏว่าขณะที่ไปตรวจสอบการก่อสร้าง ก็พบเจ้าหน้าที่ตำรวจนั่งดื่มกาแฟอยู่ในสำนักงานก่อสร้างแห่งนี้ ซึ่งยอมรับว่าเรารู้สึกเหมือนกันว่าเรามาทำงาน แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจกลับนั่งดื่มกาแฟในที่ดินพิพาทแบบไม่รู้ร้อนรู้หนาว ตอนนั้นก็มีคำถามว่าตำรวจทำหน้าที่ของเขาหรือยัง หากเขาปฏิบัติหน้าที่ดูแลประชาชนอยู่ตนจะไม่ยุ่งเลย
    “ผมเป็นคนพูดจาเสียงดัง แต่ขอยืนยันว่าไม่ได้ตั้งใจจะต่อว่าใคร หากเสียงของผมดังเกินไปก็ต้องขอโทษด้วย ผมน้อมรับทุกคำวิจารณ์ แต่นี่คือเนื้องานจริงที่ผมลงพื้นที่ เพื่อคนไทยทุกคน อย่าเพิ่งตัดสินผมเพียงแค่บางช่วงบางตอน ปัญหาของประเทศยังมีอีกมากมาย ที่ต้องลงไปแก้ไข" นายสิระกล่าว
    ส.ส.กทม.พรรค พปชร.รายนี้ระบุว่า มีคำถามว่าตนเป็น ส.ส.เขตหลักสี่ ทำไมไปช่วยเหลือนอกพื้นที่ ขอเรียนว่าปัญหาที่เกิดขึ้นที่นี่คือความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ ถ้าผมรู้ปัญหาและไม่สนใจ ผมทำไม่ได้ ผมต้องช่วยเท่าที่ผมทำได้ ขอบคุณทุกคำแนะนำ คำตำหนิและคำวิจารณ์ ผมยินดีรับฟังและพร้อมปรับปรุงแก้ไข และขอขอบคุณสำหรับทุกท่านที่ให้กำลังใจ
'สิระ'ขอโทษไม่เจตนา
    นายสุชาติ ชมกลิ่น ส.ส.จังหวัดชลบุรี พรรค พปชร. ในฐานะประธาน ส.ส. พรรค พปชร. กล่าวว่า กราบขอโทษในสิ่งที่ทำให้สังคมเกิดความไม่สบายใจกรณีนายสิระ ซึ่งในฐานะประธาน ส.ส. ตนมีหน้าที่โดยตรงในการประสานงานและควบคุมการทำงานของ ส.ส. และที่ผ่านมาได้พูดคุยกับนายสิระแล้ว ซึ่งนายสิระเองก็ได้เข้าใจบทบาทของตน ดังนั้นจึงขอสื่อมวลชนได้เข้าใจว่าทำงานโดยบทบาทของ ส.ส. บางครั้งอาจทำโดยรีบร้อนและเป็นบุคลิกส่วนตัว แต่ก็ทำโดยความหวังดี จึงอยากให้มองที่เป้าหมาย เพราะนายสิระไม่ได้ไปทำในเรื่องทุจริตหรือผิดกฎหมาย 
    ด้านนายนัทธี ถิ่นสาคู ส.ส.ภูเก็ต พรรค พปชร. กล่าวว่า ในฐานะเจ้าของพื้นที่ยืนยันนายสิระไม่ได้ประสานมาว่าจะลงพื้นที่ และเพิ่งทราบจากข่าวพร้อมกับทุกคน โดยเบื้องต้นได้โทรศัพท์ไปขอโทษ ผกก.และรอง ผกก.สภ.กะรน พร้อมยืนยันพรรคไม่มีส่วนรู้เห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ ซึ่งตนและพี่น้องชาวจังหวัดภูเก็ตรู้สึกเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น และไม่พอใจพฤติกรรมที่ทำให้เกิดข้อพิพาท และส่วนตัวไม่พอใจที่มี ส.ส.มาแสดงบทบาทในลักษณะอย่างนี้
    นายนัทธีกล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นนอกจากกระทบกับตัว ส.ส. และยังกระทบความเชื่อมั่นต่อพรรค พปชร. ซึ่งส่วนตัวเข้าใจว่าหวังดีกับจังหวัดภูเก็ต แต่ก็ขอให้หวังดีอยู่ในขอบเขตบนข้อเท็จจริงหาข้อมูลให้ครบถ้วนด้วย เนื่องจากกรณีที่นายสิระลงไปตรวจสอบมีปัญหาอยู่ 2 เรื่อง คือเรื่องเอกสารสิทธิได้มาชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ซึ่งศาลชั้นต้นตัดสินไปแล้ว และอยู่ระหว่างการอุทธรณ์ในชั้นศาลปกครองสูงสุด ส่วนอีกเรื่องคือใบอนุญาตการก่อสร้างอาคาร ก็อยู่ระหว่างสอบสวนหาข้อเท็จจริง ดังนั้นทั้งสองเรื่องอยู่ระหว่างการดำเนินการอยู่แล้ว โดยบทบาทของ ส.ส.คิดว่าไม่จำเป็นต้องเข้าไปยุ่งเรื่องนี้อีก 
    "ถ้าผมจะลงพื้นที่ กทม. อันดับแรกต้องโทร.ถามเจ้าของเขตก่อนว่าเป็นอย่างไร และเข้าใจว่าธุระของประชาชนก็คือธุระของ ส.ส. แต่ถ้าเราจะกระโดดเข้าไปทุกเรื่องทุกสถานที่ คงไม่มีอะไรที่เราจะทำได้ดี เรื่องนี้ได้พูดคุยกับประธาน ส.ส. ก็ได้รับคำแนะนำ คำปลอบใจว่าขอให้ทำใจ เพราะเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้ และคงไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น และน่าจะมีการพูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเหมือนที่จังหวัดภูเก็ตอีก" ส.ส.ภูเก็ต พรรค พปชร.กล่าว
    ที่พรรค พปชร. เวลา 17.00 น. นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค เป็นประธานประชุม ส.ส. ซึ่งในระหว่างรอ พล.อ.ประวิตรเดินทางมาพรรค นายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาล ได้เปิดโอกาสให้นายสิระชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างลงพื้นที่ จ.ภูเก็ต ให้กับเพื่อน ส.ส.ฟัง 
    โดยนายสิระอธิบายว่า เพราะประชาชนได้รับผลกระทบจากโครงการดังกล่าว เนื่องจากเดิมบริเวณนั้นเป็นป่า ส่วนที่ตนถูกขู่ว่าหากเดินไป จ.ภูเก็ต จะเป็นศพที่ 3 นั้น ได้ประสานกับตำรวจ โดยคิดว่าตำรวจมีแผนรับสถานการณ์และการข่าวที่ดี แต่เมื่อไปถึงกลับไม่มีตำรวจสักนาย ต่างจากพรรคอนาคตใหม่ที่ตำรวจเต็มไปหมด ซึ่งไม่เป็นไร 
    "หากเกิดความไม่สบายใจ ผมต้องขอโทษประชาชนทั้งประเทศ ไม่มีเจตนาทำร้ายใคร มีเจตนาจะเอาแผ่นดินของชาติคืนมาเท่านั้น ทั้งนี้ผู้บังคับบัญชาของพรรคได้ขอให้ผมเบาลง ผมก็จะเบาลง" นายสิระบอกในที่ประชุม
'ศรีฯ'จ่อยื่นปปช.สอบ
    วันเดียวกัน สำนักวิจัยซูเปอร์โพล เปิดเผยผลสำรวจภาคสนาม เรื่องพฤติกรรม ส.ส.กทม.พรรคพปชร. กับตำรวจภูเก็ต พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 98.65 ไม่เห็นด้วยกับ ส.ส.ที่พูดจาตำหนิตำรวจภูเก็ตที่ไม่มาดูแล ส.ส. มีเพียงร้อยละ 1.35 เห็นด้วย ในทางตรงกันข้าม ประชาชนในโลกโซเชียลส่วนใหญ่หรือร้อยละ 97.84 ชื่นชมตำรวจ มีเพียงร้อยละ 2.16 ที่ไม่ชื่นชมตำรวจ
    นอกจากนี้ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 98.50 ระบุมีปัญหาด้านคุณธรรม จริยธรรมของ ส.ส. ในขณะที่ร้อยละ 1.50 ระบุไม่มีปัญหา และที่น่าพิจารณาคือ เกินครึ่งหรือร้อยละ 50.27 ระบุความรับผิดชอบของ ส.ส. คือควรขอโทษตำรวจภูเก็ตแบบไทยๆ ที่ ส.ส.ขอให้ตำรวจขอโทษ ส.ส.แบบไทยๆ เช่นกัน ในขณะที่ร้อยละ 48.53 ระบุควรลาออก และร้อยละ 1.20 ไม่ต้องรับผิดชอบอะไร
    ในส่วนนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย กล่าวว่า ในวันที่ 21 ส.ค.นี้ เวลา 10.00 น. จะนำเรื่องดังกล่าวไปร้องเรียนต่อ ป.ป.ช.ให้ไต่สวนและมีความเห็นในเรื่องดังกล่าวตามรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย ป.ป.ช.ต่อไป
    ด้านนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า พฤติกรรมของนายสิระถือเป็นเรื่องใหญ่และขัดแย้งกับสิ่งที่ ส.ส.พึงกระทำ นอกเหนือจากการใช้กลไกตรวจสอบของสภา โดยการขอให้กรรมการสอบประมวลจริยธรรมของ ส.ส.สอบสวน ต้องมีการยื่นเรื่องให้องค์กรตรวจสอบได้วินิจฉัยการกระทำดังกล่าวที่อาจจะขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 185
    ที่ จ.ภูเก็ต นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าฯ ภูเก็ต กล่าวถึงการตรวจสอบการก่อสร้างคอนโดฯ เดอะพีค  เรสซิเดนท์ ที่กะตะน้อย ว่าต้องรอกระบวนการของศาลปกครองสูงสุดนครศรีธรรมราช คงใช้เวลาไม่นาน จะต้องทราบผลของศาลพิจารณา ซึ่งมีกฎหมายที่เกี่ยวข้องในประมวลกฎหมายที่ดิน ความชอบหรือไม่ชอบในที่ดินแปลงนี้เรื่องอยู่ที่ศาลปกครองสูงสุด ทางกรมที่ดินต้องอุทธรณ์คำสั่งไปยังศาลปกครองสูงสุดทุกกรณี ถัดมา เป็น พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร ในการที่ผู้ประกอบการเสนอขอก่อสร้างอาคาร ไม่จำเป็นต้องเป็นโฉนด มี นส. 3 สามารถขอได้ เมื่อได้รับใบอนุญาตไปก่อสร้างปกติ ตอนนี้ต้องรอคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดจะชี้ประเด็นใด. 
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"