โหนปล้นทอง-ฆ่าตัวตาย อัด'บิ๊กตู่'แก้เศรษฐกิจอืด


เพิ่มเพื่อน    


    พท.โหนฆ่าตัวตายพ่วงปล้นร้านทองขย่ม "บิ๊กตู่" 5 ปีแก้เศรษฐกิจล้มเหลว บี้เลิกแจกเงินผ่านมือคนจนเข้ากระเป๋าเจ้าสัว ตั้งศูนย์ป้องกันฆ่าตัวตายเร่งเยียวยา ปชช. อนาคตร่วมขยี้ กระตุ้น 3 แสนล้านแค่ภาพลวงตา คลังจ่อถกอุตสาหกรรมช่วยชาวอ้อย ชงประกันราคาข้าวโพด
    เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ได้โพสต์เฟซบุ๊กสะท้อนผลกระทบจากพิษเศรษฐกิจว่า สัปดาห์ที่ผ่านมาเพียงไม่กี่วันมีข่าวการฆ่าตัวตายเพราะพิษเศรษฐกิจแล้วถึง 5 ข่าว น่าเศร้า รู้สึกเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นอย่างยิ่ง ทั้งกับชะตากรรมของผู้เสียชีวิต และพี่น้องชาวไทยที่ยังต้องสู้กันต่อไป โปรดอดทนและอย่าท้อ เรื่องแบบนี้เคยเกิดขึ้นมาก่อนในช่วงปี 2540 หลังจากช่วงวิกฤติ 2540 ไทยรักไทยได้มาเป็นรัฐบาลในปี 2544 โดยการนำของนายทักษิณ ชินวัตร และพี่น้องชาวไทยได้ร่วมแรงร่วมใจกัน จนเราฟื้นประเทศได้อย่างรวดเร็ว สามารถชำระหนี้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ได้ก่อนกำหนด และเริ่มยกฐานะมาเป็นผู้นำอาเซียน ทั้งในแง่เศรษฐกิจที่ดีและภาวะการนำในภูมิภาค แต่ในวันนี้ เรากลับก้าวเดินย้อนกลับมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร 
    "สิ่งที่เสียใจยิ่งกว่านั้น คือรัฐบาลนี้ทำเหมือนความทุกข์ของประชาชนเรื่องเศรษฐกิจไม่ได้เกิดขึ้นจริง เป็นเพียงเรื่องที่ฝ่ายค้านนำมาโจมตี ขอถามค่ะใครคิดว่าเศรษฐกิจในขณะนี้ดีบ้าง ที่ดิฉันพยายามติดตามมาตรการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ก็เพราะต้องการให้เม็ดเงินถึงมือประชาชน เพื่อนำไปกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างแท้จริง ไม่ใช่ไปเข้ากระเป๋าเจ้าสัวไม่กี่คนอย่างที่ผ่านมา 5 ปี จนทำให้ความเหลื่อมล้ำของไทยสูงสุดติดอันดับโลกในช่วง 5 ปีที่รัฐบาลทหารบริหารประเทศ ขณะนี้เศรษฐีที่รวยที่สุด 50 คนแรกของไทย รวยขึ้น 19% ในขณะที่จีดีพีของคนทั้งประเทศโตขึ้นเพียง 3-4% และจีดีพีภาคการเกษตรติดลบ แปลว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 5 ปีที่ผ่านมา มันล้มเหลวสิ้นเชิง เงินกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลทุ่มเทลงไป ไหลกลับคืนไปสู่กระเป๋านายทุนไม่กี่ราย" คุณหญิงสุดารัตน์ระบุ
    ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ในฐานะหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ จะยังใช้วิธีเดิมที่ล้มเหลวมาตลอด 5 ปี มาทำต่อ การแจกเงินอย่างไม่มีประสิทธิภาพ เอาเงินงบประมาณแผ่นดินจำนวนมหาศาลมากระตุ้นเศรษฐกิจ โดยมาแค่ผ่านมือคนจน แล้วไหลกลับคืนไปสู่กระเป๋านายทุนไม่กี่ราย ต้องเลิกทำ พอรัฐบาลประกาศแจกเงินไปไม่กี่วันนี้เอง ได้เห็นโฆษณาของห้างใหญ่บอกว่าพร้อมรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ไปรูดปรื๊ดทันทีแล้ว อย่างนี้ไม่เรียกว่าเอาเงินผ่านมือคนจนไปกระตุ้นเศรษฐกิจคนรวยได้อย่างไร
    อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ควรทำกลับไม่ทำ อย่างการยกเลิกวีซ่าจีนและอินเดียกลับถูกตีตก อ้างความมั่นคง โดยไม่ได้ห่วงสภาพเศรษฐกิจที่คนไทยส่วนใหญ่จะตายกันหมดแล้ว ถ้าเพื่อไทยเป็นรัฐบาลจะยกเลิกวีซ่านักท่องเที่ยวจีนและอินเดียทันที เพราะธุรกิจท่องเที่ยวเป็นตัวหาเงินด่วนที่สร้างรายได้ให้ประเทศ ได้เร็วและไม่ต้องใช้เงินลงทุนมากมาย พูดแล้วก็เหนื่อยกับวิธีคิดของรัฐบาลนี้จริงๆ 
    นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า มีข่าวสะเทือนขวัญที่สะท้อนถึงบ้านเมืองเข้าสู่ยุคข้าวยากหมากแพง คนไม่มีจะกินจะใช้ จำต้องก่ออาชญากรรมปล้นชิงโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย หนังสือพิมพ์พาดหัวข่าวหน้าหนึ่ง 5 คนร้ายแต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่ทหารใช้อาวุธสงครามระดับมหากาฬ กวาดทองรูปพรรณหนัก 5 กิโลกรัม มูลค่า 22 ล้านบาท หนีไปได้ เหตุเกิดย่านตลาดนาทวี จ.สงขลา เมื่อวันที่ 24 ส.ค. ขณะเดียวกันจากปัญหาหนี้สินรุมเร้าหาทางออกไม่ได้ ทำให้คนคิดสั้นฆ่าตัวตาย เฉพาะเดือน ส.ค.เกิดเหตุถึง 5 กรณี มีคนเสียชีวิตถึง 7 ราย เป็นเหตุการณ์ที่สะเทือนใจอย่างยิ่ง
    นางลดาวัลลิ์กล่าวว่า ปัญหาเศรษฐกิจที่สั่งสมมาตลอด 5 ปีกว่า ตั้งแต่ยุค คสช.บริหารประเทศจนถึงบัดนี้ มีการเลือกตั้งและมีรัฐบาลใหม่ เกิดขึ้นแล้วก็ตามแต่ปัญหาปากท้องของชาวบ้านยังเป็นวิกฤตการณ์ที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์แก้ไม่ตก การก่ออาชญากรรมปล้นจี้และการฆ่าตัวตายเพื่อหนีหนี้เกิดขึ้นแทบไม่เว้นแต่ละวัน รัฐบาลควรจะเอกซเรย์ลงไปในพื้นที่ทั่วประเทศเพื่อสำรวจว่าครอบครัวใดมีหนี้นอกระบบ หรือมีภาวะยากจนขัดสนไม่มีข้าวจะกิน หรือเจ็บป่วยเรื้อรังขาดคนดูแล จากนั้นยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือทันทีเพื่อบรรเทาทุกข์ เป็นการทำงานเชิงรุก ป้องกันมิให้เกิดการฆ่าตัวตายขึ้นมาอีก
    นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า รัฐบาลควรตั้งศูนย์ป้องกันการฆ่าตัวตายจากพิษเศรษฐกิจให้เป็นรูปธรรมโดยเร่งด่วน เพื่อเป็นช่องทางช่วยเหลือเยียวยาและป้องกันการฆ่าตัวตายจากพิษเศรษฐกิจ
    น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ และผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า หากดูข้อมูลที่รัฐบาลเปิดเผยออกมา จีดีพีของปี 2562 อาจจะขยายตัวร้อยละ 2.3 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว ก็ไม่ได้อยู่ในระดับวิกฤติ แต่ถ้าดูข้อมูลว่า ประชาชนมีเงินในกระเป๋าจริงๆ เท่าไหร่ จากข้อมูลรายได้ของเกษตรกรที่ปลูกข้าวนั้นพบว่าลดลงร้อยละ 28.7 เทียบกับไตรมาส 2 ของปีที่แล้ว ในส่วนของหนี้เสียภาคธุรกิจเอสเอ็มอี ตอนนี้คือพุ่งสูงที่สุดเกือบร้อยละ 5 เมื่อเทียบกับธุรกิจขนาดใหญ่กับหนี้ส่วนบุคคล ไม่ใช่ปัญหาของเจ้าใดเจ้าหนึ่งที่ทำให้เขาฆ่าตัวตาย แต่เป็นทั้งระบบที่ทำให้สัดส่วนของหนี้เสียสูงขึ้น 
    "เป็นเรื่องที่น่าเสียใจที่พิษเศรษฐกิจทำให้คนต้องมีปัญหาทางสุขภาพจิต และฆ่าตัวตาย จึงอยากให้ถอดบทเรียนเรื่องนี้ออกมาว่า มาตรการที่จะใช้พยุงเศรษฐกิจต่างๆ สามารถตอบโจทย์และแก้ปัญหาเหล่านี้ได้หรือไม่ อนาคตใหม่ไม่เห็นด้วยกับนโยบายที่รัฐบาลออกมา เพราะมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ออกมาเป็นการยิงกราด มีกระสุนหรือเม็ดเงินจำกัด และเงินที่นำออกมาใช้ก็เป็นเพียงภาพลวงตา ช่วยแก้ปัญหาได้ชั่วคราว คือจีดีพีโต แต่ไม่ยกระดับคุณภาพชีวิตหรือแก้ปัญหาปากท้องของประชาชนได้อย่างยั่งยืน" น.ส.ศิริกัญญาระบุ
    วันเดียวกัน นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือดีอี เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงดีอีได้พยายามเพิ่มมิติในการทำงานโดยการนำเทคโนโลยีดิจิทัลที่ทันสมัยเข้าไปช่วยเหลือเกษตรกรและผู้มีรายได้น้อย เพราะที่ผ่านมาเกษตรกรและผู้มีรายได้น้อยมักเข้าไม่ถึงเทคโนโลยีดิจิทัล ซึ่งสวนทางกับการค้าขายแบบใหม่ ไม่ว่าจะเป็นอีคอมเมิร์ซ การค้าขายออนไลน์ ฯลฯ ดังนั้น เราจึงนำเทคโนโลยีเข้าไปสนับสนุนให้กลุ่มคนเหล่านี้ได้เข้าถึงการใช้เทคโนโลยีมากขึ้น
    นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า จากการลงพื้นที่เพื่อรับฟังปัญหาจากเกษตรกรจังหวัดเพชรบูรณ์ ถึงปัญหาด้านการเกษตรตกต่ำและการสำรวจเหมืองแร่ในพื้นที่ พบว่าชาวไร่อ้อยและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์กำลังประสบปัญหาผลผลิตราคาตกต่ำและผลกระทบจากภัยแล้งอย่างหนัก โดยเฉพาะปัญหาของราคาอ้อย ได้ลดลงต่ำกว่าตันละ 700 บาท ซึ่งจะนำเรื่องเสนอให้ รมว.อุตสาหกรรม พิจารณาหาแนวทางในการแก้ไข ขณะที่ปัญหาราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่เกิดโรคระบาด จะนำเรื่องเสนอถึงนายกรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป
    สำหรับปัญหาของเกษตรกรชาวไร่ข้าวโพดขณะนี้คือ ปัญหาการระบาดของหนอนกระทู้ลายจุดที่ระบาดเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ทำให้เกษตรกรต้องใช้ยาปราบศัตรูพืชมากขึ้น จึงทำให้ต้นทุนของเกษตรกรเพิ่มอีกไร่ละ 1,000 บาท ดังนั้นขอให้รัฐบาลเข้ามาช่วยเหลือด้วยการประกันราคาข้าวโพดที่กิโลกรัม (กก.) ละ 9 บาท และจ่ายเงินชดเชยปัญหาภัยแล้งอีกไร่ 1,000 บาท เพราะปัจจุบันราคาตกลงมาเหลือแค่ กก. 6-7 บาทเท่านั้น
    ด้านนายถนอม โพธิ์พิกุล นายกสมาคมชาวไร่อ้อย จังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวว่า ขณะนี้ราคาอ้อยตกต่ำมาก เหลือแค่ 700 บาทต่อตัน ต่ำกว่าต้นทุนของเกษตรกร ซึ่งราคาที่คิดว่าเหมาะสมควรไม่ต่ำกว่า 1,000 บาทต่อตัน นอกจากนี้ เกษตรกรยังประสบปัญหาราคาอ้อยไฟไหม้ที่ราคาตกลง 5-15% จะทำให้ราคาขายลดต่ำกว่า 700 บาทต่อตันอีก จึงขอให้รัฐบาลเห็นใจ และเร่งหามาตรการเข้ามาช่วยเหลือเป็นการด่วน.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"