ชี้กลุ่มเจะอารง ปล้นทองนาทวี


เพิ่มเพื่อน    


    รองโฆษกแจงเหตุปล้นร้านทองนาทวี 10 นาที ตำรวจยังไปไม่ถึง อ้างคนร้ายเตรียมการมาดี ดูแล้วปลอดโปร่งจึงลงมือ ระบุป็นกลุ่ม "เจะอารง" ก่อความไม่สงบใน 4 อำเภอชายแดนสงขลา คาดขนทรัพย์สิน 85 ล้านเข้ามาเลย์แล้ว นายกฯ ขอให้ใจเย็นๆ สั่งสอบเบื้องลึกเอาเงินไปใช้ป่วนใต้หรือไม่
    พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชี้แจงเมื่อวันที่ 26 สิงหาคมนี้ คดีคนร้ายบุกปล้นร้านทองใน อ.นาทวี จ.สงขลา ว่า คนร้ายที่ร่วมก่อเหตุน่าจะมีประมาณ 15-20 คน ทำกันเป็นขบวนการ แบ่งงานกันทำอย่างชัดเจน ส่วนแผนประทุษกรรมคล้ายกับเหตุปล้นเต็นท์รถมือสองที่ อ.นาทวี เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา โดยจับเจ้าของรถไว้แล้วนำรถไปก่อเหตุ หลังก่อเหตุพยายามปล้นรถจักรยานยนต์เพื่อหลบหนีอีก
    จากการสืบสวนทราบว่า ผู้ที่ร่วมก่อเหตุครั้งนี้มีผู้ต้องหาที่มีหมายจับค้างเก่าร่วมด้วยหลายคน ส่วนที่เชื่อมโยงกับเหตุการณ์พื้นที่ภาคใต้ เพราะ 4 อำเภอของ จ.สงขลา เป็นพื้นที่พิเศษ มีความสุ่มเสี่ยงที่ผู้เคยก่อความไม่สงบเข้ามาก่อเหตุ ส่วนมูลเหตุต้องการประสงค์ต่อทรัพย์หรือเรื่องของความมั่นคง โดยทรัพย์สินจะนำไปใช้ในการก่อเหตุต่อไปหรือไม่ ตอนนี้ยังตอบไม่ได้ แต่ขณะนี้คาดว่าคงยังไม่มีการจำหน่ายถ่ายเทออกไป เพราะทรัพย์สินมีมูลค่ามหาศาลพอสมควร 
    ผู้สื่อข่าวถามว่า คนร้ายใช้เวลาก่อเหตุถึง 10 นาที แต่ไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ  พ.ต.อ.กฤษณะกล่าวว่า จากที่ดูการก่อเหตุไม่ใช่เฉพาะคดีนี้ คนร้ายมีการเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี เมื่อเห็นว่ามีทางหนีรอดได้ก็ลงมือ เป็นเรื่องปกติ อย่างไรก็ตาม ต้องมีการปรับแผนออกตรวจให้มีความถี่มากขึ้น เพิ่มจำนวนสายตรวจมากขึ้น คดีนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องนำมาเป็นบทเรียน ปฏิบัติงานร่วมกับฝ่ายความมั่นคง รวมทั้งภาคประชาชน เจ้าหน้าที่ต้องปรับยุทธวิธี ส่วนคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนน่าจะมีข้อมูลอยู่แล้ว      
    ด้านสถานการณ์ในพื้นที่ พล.ต.ท.วิสนุ ปราสาททองโอสถ ผู้ช่วย ผบ.ตร.ไปติดตามความคืบหน้าการคลี่คลายคดี โดยไปตรวจจุดเกิดเหตุบริเวณหน้าร้านทองสุธาดา ก่อนจะไปยัง สภ.นาทวี ประชุมร่วมกับ พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภ.9, พล.ต.ต.ดำรัส วิริยะกุล รอง ผบช.ภาค 9, พล.ต.ต.ปรีดา เปี่ยมวารี ผบก.ภ.จว.สงขลา, พ.ต.อ.เอกรัฐ สวนเสน ผกก.สภ.นาทวี 
    หลังจากนั้น พล.ต.ท.วิสนุเปิดเผยว่า คดีมีความคืบหน้าไปมาก ทั้งการตรวจกล้องวงจรปิด และรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับคนร้าย ซึ่งผลการสืบสวนเป็นที่น่าพอใจ
    ขณะที่ พล.ต.ท.รณศิลป์กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้เก็บรายละเอียดทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลเชื่อมโยงกับเหตุปล้นร้านทองแห่งนี้เมื่อปี 48 แต่ยังบอกไม่ได้ว่าคนร้ายได้หลบหนีออกนอกประเทศไปแล้วหรือไม่ ส่วนที่ให้น้ำหนักไปที่กลุ่มก่อความไม่สงบ เพราะเหตุปล้นในครั้งนี้แผนประทุษกรรมเหมือนกัน ซึ่งครั้งนั้นก็เชื่อมโยงกับกลุ่มก่อความไม่สงบ ขณะนี้พอทราบแล้วว่ากลุ่มไหน รอเพียงหลักฐานที่ลงลึกในรายละเอียดให้มากกว่านี้ ก็จะชี้ชัดว่าคนวางแผนเป็นใคร ขณะนี้สอบพยานแวดล้อมไปแล้ว 11 ปาก และจากการตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดขณะคนร้ายลงมือก่อเหตุ พบว่าคนร้ายใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 จำนวน 6 กระบอก อาวุธปืนพกสั้น 5 กระบอก 
    นอกจากนี้ ผลการตรวจสอบพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. ที่คนร้ายยิงขู่ชาวบ้านขณะชิงรถจักรยานยนต์หลบหนีในพื้นที่บ้านพอบิดใต้ หมู่ 4 ต.ท่าประดู่ อ.นาทวี จ.สงขลา หลังนำรถตู้ไปจอดทิ้งไว้ พบว่าเคยใช้ก่อเหตุความไม่สงบในพื้นที่ ต.ห้วยปลิง อ.เทพา จ.สงขลา เมื่อปี 61 จึงเชื่อว่ากลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุเหตุปล้นร้านทอง เป็นฝีมือของกลุ่มก่อความไม่สงบที่เคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่รอยต่อระหว่าง จ.ปัตตานี กับ 4 อำเภอชายแดนสงขลา
    "ในแนวทางการสืบสวนเป็นไปได้สูงว่าการปล้นร้านทองครั้งนี้เป็นฝีมือกลุ่มของนายเจะอารง เฮง อายุ 39 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่หมู่ 12 ต.นาทวี อ.นาทวี จ.สงขลา ซึ่งเป็นกลุ่มก่อความไม่สงบในระดับปฏิบัติการ รับผิดชอบเคลื่อนไหวในพื้นที่ 4 อำเภอชายแดนสงขลา โดยเฉพาะนาทวี และเป็นระดับมือยิง มีหมายจับติดตัวของ สภ.สะบ้าย้อย 1 รวม 8 ข้อหา เช่น ร่วมกันก่อการร้าย ร่วมกันมีระเบิดไว้ในครอบครอง ร่วมกันทำให้เกิดระเบิด"  
    ผบช.ภ.9 ระบุว่า เหตุผลที่เจ้าหน้าที่ให้น้ำหนักไปที่กลุ่มของนายเจะอารง เพราะการปล้นร้านทองในครั้งนี้ รูปแบบเหมือนกับการปล้นเต็นท์รถใน อ.นาทวี เมื่อปี 60 ทั้งการปล้นรถมาก่อเหตุ ลักษณะการลงมือที่ทำกันเป็นทีมซึ่งเป็นรูปแบบเดียวกัน และครั้งนั้นในทางการสืบสวนพบว่านายเจะอารงมีส่วนร่วมวางแผนด้วย  
    "เป็นไปได้ว่าคนร้ายอาจจะข้ามพรมแดนไปยังประเทศมาเลเซียพร้อมกับทองที่ปล้นไป เพราะแค่ขโมยรถจักรยานยนต์ของชาวบ้านขี่หลบหนีก็น่าจะไปไม่ไกล และพื้นที่เกิดเหตุก็อยู่ใกล้กับชายแดนไทยมาเลเซีย" ผบช.ภ.9 ระบุ
    ด้านนายสมัคร อนุจร อายุ 56 ปี เจ้าของห้างทองสุธาดา กล่าวว่า แม้จะเคยถูกปล้นมาแล้วถึง 2 ครั้ง และครั้งนี้คนร้ายได้ทองคำไปเกลี้ยงร้าน มูลค่าประมาณ 85 ล้านบาท ทางร้านก็ไม่ได้ทำประกันเอาไว้ ทุกอย่างหมดไม่มีเหลือ แต่ตนก็จะสู้ต่อ โดยหลังจากนี้จะเร่งซ่อมแซมร้านและกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งในอีก 1 สัปดาห์ เพราะยังมีลูกค้าที่ไว้ใจ และมีกำลังใจที่จะสู้ต่อไป
    พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงเหตุปล้นร้านทองใน อ.นาทวี จ.สงขลา ว่า จากสถานการณ์ที่มีการปล้นอะไรต่างๆ วันนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) สืบสวนสอบสวน เพราะมีกรณีอย่างนี้ในช่วงที่ผ่านมาหลายกรณีเหมือนกัน ต้องดูว่ามันยึดโยงเกี่ยวพันอะไรกันหรือไม่ เงินดังกล่าวเอาไปใช้ที่ไหน อย่างไร หรือเป็นแค่การกระทำความผิดทางอาญาอย่างเดียว
    “กำลังสอบกันอยู่นะจ๊ะ ขอให้ใจเย็นๆ ทุกเรื่องอยู่ในการสอบสวนทั้งสิ้น เพราะฉะนั้น ถ้าเราไม่ทำหรือหาหลักฐาน ไม่หาวัตถุพยาน หรือพยานบุคคล ท้ายสุดมันก็ดำเนินคดีไม่ได้สักที จึงต้องเป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"