ช่วงนี้ตั้งพรรคการเมืองกันคึกคัก 
    ฟังนักการเมืองรุ่นใหม่พูดถึงการเมืองแล้วรู้สึกจั๊กจี้หัวใจจริงๆ 
    คงเพราะประเทศไทยตกอยู่ในวังวนแห่งความขัดแย้งมานานนับสิบปี นั่นส่งผลให้...ไม่ว่าหน้าไหนออกมา ก็ยังเป็น ๒ ฝ่ายเสมอ 
    ฝ่ายทักษิณ ไม่เอา คสช. 
    ฝ่ายไม่เอาทักษิณ เชียร์บิ๊กตู่
    ฝ่ายล้มเจ้า
    ฝ่ายจงรักภักดีสถาบัน
    การตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง ก็จะยังคงเป็นไปตามแนวนี้
    พรรคใหม่หลายพรรคออกตัวแรง เชียร์ลุงตู่ เป็นนายกฯ คนนอก 
    บางพรรคที่อ้างว่าเป็นฝ่ายประชาธิปไตย ก็ชัดเจนว่า...ไม่เอา
    แต่จะมีพรรคการเมืองที่วางตัวเป็นกลาง หรือจะเรียกให้ถูกพรรคจอมกั๊กทั้งหลาย จะกลายเป็นพรรคการเมืองที่มีอำนาจต่อรองสูงกว่าใครเพื่อน 
    แต่ที่เหนือกว่านั้นอาจเป็น "ลุงตู่" ที่มีเสียงของ ส.ว.อยู่ในมือแน่ๆ แล้ว ๒๕๐ เสียง 
    ฉะนั้นการเมืองหลังเลือกตั้งยังฟันธงยาก เพราะมีเงื่อนไขใหม่ๆ มากมายเข้ามาเป็นองค์ประกอบที่ไม่คุ้นเคย     
    เห็นพรรคการเมืองบอกว่าหนุนไม่หนุน "บิ๊กตู่" มาเยอะแล้ว ลองมาดูอีกมุม 
    จะบอกว่าเก๋าเกมก็น่าจะได้ "บิ๊กตู่" วางสเปกพรรคที่จะมาสนับสนุนตัวเองเรียบร้อยแล้วเช่นกัน 
    "จะต้องดูนโยบายของแต่ละคน แต่ละพรรคการเมือง ต้องคิดแบบประชาชน และประชาชนเองก็ต้องคิดแบบนี้ ต้องดูทั้งนโยบายพรรค คนที่อยู่ในพรรค ว่าเป็นอย่างไร มีความน่าเชื่อถือแค่ไหน มีความบริสุทธิ์ ยุติธรรม รอบรู้แค่ไหน 
    การเป็นรัฐบาลไม่ใช่จะเป็นเพียงแค่ ส.ส.ที่ไปรับฟังเสียงจากชาวบ้าน แล้วยื่นขออนุมัติโครงการจากรัฐบาล แต่ทุกคนจะต้องรู้ระบบงบประมาณของประเทศ ว่าเงินงบประมาณจะมาจากไหน รายรับรายจ่ายของประเทศมาจากไหน ไม่ใช่คิดแต่รายจ่ายอย่างเดียว จะต้องหาเงินด้วยวิธีการที่ถูกต้อง ทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น ไม่ใช่ปล่อยปละละเลย ปล่อยให้คนทำผิดกฎหมาย และได้เงินจากการทำผิดกฎหมายไปมากพอสมควร"
    ไปไกลถึงการจัดทำงบประมาณแผ่นดินกันเลยทีเดียว 
    จะว่าเป็นเรื่องบังเอิญก็ไม่น่าจะใช่ 
    หลังจากปลดล็อกการเมืองหมดแล้ว "บิ๊กตู่" จะเชิญพรรคการเมืองมาพูดคุย 
    เพิ่งรู้ว่า...เรื่องที่คุยนั้นจะพูดถึงการจัดทำงบประมาณแผ่นดินด้วย 
    ถือเป็นเรื่องใหม่ เพราะไม่เคยปรากฏมาก่อนว่า นายกรัฐมนตรีที่จะพ้นตำแหน่ง เรียกพรรคการเมืองคุยเรื่องการจัดทำงบประมาณในปีถัดๆ ไป 
    ทำไมต้องคุยเรื่องงบประมาณแผ่นดิน?  
    "บิ๊กตู่" รู้ตัวว่าโอกาสเป็นนายกฯ รอบสองนั้นยาก จึงฝากให้นักการเมืองช่วยดูแต่เนิ่นๆ อย่างนั้นหรือ?
    ไม่น่าจะใช้ อย่างที่บอกมี ส.ว. ๒๕๐ เสียงอยู่ในมือ ถือเป็นพรรคขนาดใหญ่เลยทีเดียว และการจะหาพรรคการเมืองมารวมเสียงให้เกินกึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนฯ ก็ไม่น่าจะยากมาก 
    เพราะพรรคจอมเสียบคงจะพรึ่บ! แน่ๆ ด้วยเหตุผลรัฐธรรมนูญฉบับนี้เอื้อให้มีพรรคขนาดกลางเกิดเป็นดอกเห็ด 
    หากไปฟัง "บิ๊กตู่" พูดให้ละเอียด มีการโยงไปถึง การจัดทำแผนโครงการยุทธศาสตร์ชาติด้วย 
    ก็หมายความว่า ยุทธศาสตร์ชาติซึ่งกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญนั้นใครจะเปลี่ยนไม่ได้ จึงต้องผูกกับการจัดทำงบประมาณแผ่นดินที่ชัดเจน
    นี่ "บิ๊กตู่" ทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีสมัยสองก่อนการเลือกตั้งเลยหรือ?  
    หล่อเลือกได้จริงๆ.