30ส.ค.62- ที่ เซ็นทรัลพลาซ่า จ.นครราชสีมา นายสำคัญ จงโกเย็น เลขาธิการศูนย์ประสานงานการแก้ปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษาแห่งประเทศไทย(ศกอท.) และคณะได้มายื่นหนังสือการแก้ปัญหาหนี้ของครูจำนวนทั่วประเทศจำนวน 4.2 แสนคนต่อ ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ที่ได้เดินทางมาเปิดงานวิชาการ"Smart Farming 47 Aggie by STI" ของวิทยาลัยเกษตรกรรม และเทคโลยีและวิทยาลัยประมง47แห่ง

โดยนายสำคัญ กล่าวว่า มายื่นหนังสือให้ท่านรัฐมนตรีช่วยฯดำเนินการช่วยเหลือครูให้พ้นจากภาวะหนี้ขั้นวิกฤตกันแล้วพร้อมนี้ได้มอบหนังสือที่เคยยื่นอดีตรัฐมนตรีได้พิจารณา สกสค.ธนาคารออมสิน และทิพยประกันภัยส่อว่าน่าจะมีความไม่ชอบพากลในการทำประกันอุบัติเหตุและสุขภาพ แทนการประกันชีวิต ทั้งๆที่ มติ ครม.เมื่อปี2551 ให้ทำประกันชีวิตไม่ใช่ประกันวินาศภัยหรือประกันอุบัติเหตุ แล้วเก็บค่าประกันภัยล่วงหน้าหักยอดเงินไป 3หมื่นถึง1แสนกว่าบาท ตามยอดเงินที่กู้ยืมไปจำนวน6 หมื่นถึง3ล้านบาท ทำให้สงสัยควรตรวจสอบดูว่า เงินที่โอนไปยังธนาคารออมสินสาขาบางกะปิ เลขที่บัญชีค่าเบี้ยประกันวาขาบางกะปิ 790010091738 มีจำนวนเท่าใด ที่สำคัญควรตรวจสอบดูที่กรมสรรพากรว่า "รับรู้รายได้" เพื่อเสียภาษีหรือไม่ หรือรับรู้เป็นปีๆ เพื่อเสียภาษีน้อย หรือรับรู้รายได้จำนวน9ปีคิดรวมแล้วมากกว่า 3 หมื่นล้านบาท สังคมจะได้รับรู้ว่าไม่มีการทุจริตอย่างเด็ดขาด ตามที่นายกรัฐมนตรีพูดอยู่เสมอ

"อีกไม่นานพวกผมจะไปขอความกรุณากับรัฐมนตรีว่าการฯ เพื่อขอตรวจสอบบรรดากองทุนต่างๆ ใน สกสค.โดยเฉพาะเงินที่ธนาคารออมสินโอนให้ 0.5-1.00 เปอร์เซ็นต์ เราทราบเพียงผู้ตรวจสอบราชการคนหนึ่งที่เข้าไปตรวจสอบพบว่ามีการโอนไปชำระหนี้แทนครูที่ขาดส่งเงินงวดชำระหนี้สามเดือน แต่ความจริงตามมติ ครม.ต้องให้ประโยชน์แก่ครูลูกค้าชั้นดี ผู้ตรวจคนนั้นเห็นว่าเป็นการใช้เงินผิดวัตถุประสงค์ในข้อตกลงระหว่าง สกสค.กับธนาคารออมสิน" นายสำคัญกล่าว พร้อมมอบหนังสือที่เคยยื่นให้เลขาธิการสกสค.กับคุณหญิงกัลยา

ด้านนายสุวัช ศรีสด ประธานชมรมครูชีวิตใหม่แห่งชาติ ซึ่งเคลื่อนไหวเรื่องครูจะถูกฟ้องจำนวนกว่า 1,700 คนกล่าวว่า ครูหนี้วิกฤตลงทะเบียนกับสกสค. ถึง 12,000 คน กำลังจะถูกฟ้องและนำไปสู่การล้มละลาย ผมเคยไปเสนอแนวทางต่อรัฐมนตรีว่าการมาแล้วสามคน เขาบอกว่าทำไม่ได้ผิดระเบียบท่านกำลังผลักครูไปสู่ความตาย ชีวิตครูตอนนี้น่าสงสารมากบางคนไปขอข้าวพระกิน ครูไม่มีที่ซุกหัวนอน ครูวิกฤตต้องหาเงินซื้อข้าวเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เราต้องยอมรับจริงๆ ว่ากว่าสิบปีมาแล้วที่รัฐบาลไม่สนใจแก้ปัญหาหนี้สินครู มีแต่จะทุจริตเช่น นำเงินครูไปซื้อโซลาร์เซลล์ถึง2,500 ล้านบาท เขากล่าวในที่สุด

ทางด้านนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ผู้ประสานงานกลุ่มยุติธรรมภิวัฒน์ กล่าวว่า กำลังศึกษาเรื่องนี้โดยละเอียดอีกครั้งหนึ่งโดยพุ่งเป้าไปที่หน่วยงานของรัฐคือคปภ.ทำไมจึงอนุมัติให้ประกันภัยเก็บเงินรวมยอดครั้งเดียว9ปีเคยตรวจสอบทุจริตของบริษัทประกันภัยนี้หรือไม่ แล้วสั่งให้จ่ายเงินสินไหมหรือไม่ ต้องเปิดเผยข้อมูลการตรวจสอบต่อสาธารณะและกรมสรรพากรได้รับรู้รายได้เป็นรายปีหรือรายรวม 9 ปีของเบี้ยประกันในสาขาบางกะปิเพื่อเสียภาษี จากบริษัทอย่างใด หรือไม่ และคาดว่าครูจะลงนามร้องเรียนและฟ้องร้องจำนวนมาก.