กกพ.เร่งสรุปตั้งโรงไฟฟ้าชุมชน ขีดเส้นเคาะพื้นที่นำร่องธ.ค.นี้


เพิ่มเพื่อน    

4 ก.ย. 2562 นายเสมอใจ ศุขสุเมฆ ประธานกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.) เปิดเผยภายหลังเปิดตัวโครงการรณรงค์"กกพ.กำกับความสุขให้คนไทย" ว่าความคืบหน้าโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนตามนโยบายของนายสินธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน ขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณากำหนดหลักกเกณฑ์การตั้งโรงไฟฟ้าชุมชนในแต่ละพื้นที่ให้มีความเหมาะสม เบื้องต้นจะตั้งอยู่ในพื้นที่ห่างไกล ไม่มีความมั่นคงด้านพลังงาน พื้นที่ที่มีความต้องการใช้พลังงานในอนาคตสูง เป็นพื้นที่ที่เชื้อเพลิงมีความพร้อม คาดจะสามารถกำหนดพื้นที่นำร่องโรงไฟฟ้าชุมชนได้ 1 แห่งภายในเดือนธ.ค.2562

“ที่สำคัญชุมชนต้องมีส่วนร่วม และจะเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วม โดยเฉพาะการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.) และการไฟฟ้านครหลวง(กฟน.) ที่รับซื้อไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าชุมชนตามแผนพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก (เออีดีพี) ภายใต้เงื่อนไขอัตรารับซื้อไฟฟ้าจะต้องส่งกระทบต่อค่าไฟฟ้าที่เรียกเก็บกับประชาชนน้อยที่สุด”นายเสมอใจ กล่าว

นอกจากนี้ กกพ.กำลังพิจารณาแนวทางการนำเงินของกองทุนอนุรักษ์พลังงานเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน และกองทุนพัฒนาไฟฟ้ามาสนับสนุนการดำเนินกิจการของโรงไฟฟ้าชุมชน ซึ่งสุดท้ายจะเป็นรูปแบบใดกำลังพิจารณารายละเอียดให้มีความชัดเจนก่อนเสนอให้คณะกรรมการรนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.) พิจารณาเห็นชอบต่อไป เพื่อให้เกิดการสนับสนุนให้ใช้เชื้อเพลิงในพื้นที่ และสามารถลดต้นทุนการก่อสร้างสายส่ง

นางสาวนฤภัทร อมรโฆษิต โฆษกสำนักงาน กกพ. กล่าวว่า ความคืบหน้านโยบายการให้ใช้ไฟฟ้าฟรีสำหรับชุมชนรอบโรงไฟฟ้า โดยปัจจุบันกำลังศึกษาในรายละเอียดเพื่อกำหนดการใช้เงินกองทุนพัฒนาไฟฟ้าที่ปัจจุบันมีเงินเข้ามาอยู่ที่ 2,000 ล้านบาทต่อปี ซึ่งจะต้องจัดสรรออกมาว่าจะสนับสนุนในจำนวนเท่าไหร่ รวมถึงศึกษาพื้นที่ที่จะได้รับการสนับสนุน โดยคาดว่าจะมีการสรุปภายใน 1-2 เดือนนี้ ก่อนที่จะเสนอให้คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.)รับทราบ

"ตอนนี้เราก็อยากจะทำให้เร็วที่สุด แต่ก็ต้องดูในหลายส่วน ซึ่งจะตัองจัดสรรเงินกองทุนฯ ที่จะมาใช้ เนื่องจากต้องมีกิจกรรมอื่น ๆ ที่ทำควบคู่ไปด้วยตามข้อกำหนด ซึ่งเราอาจจะสนับสนุนเป็นเงินส่วนลดหรือการกำหนดโควต้าการใช้ไฟ และกำหนดในพื้นที่ไม่เกิน 1 กิโลเมตรในรัศมีรอบโรงไฟฟ้า"นางสาวนฤภัทร กล่าว

นางสาวนฤภัทร กล่าวถึงกรณีที่มีการปรับเปลี่ยนแผนพิจารณาทบทวนการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว(แอลเอ็นจี) 1.5 ล้านตัน ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) ว่าปัจจุบันยังต้องรอการสรุปแผนมาจากกระทรวงพลังงาน โดย กกพ.เป็นผู้กำหนดอัตราการใช้ท่อก๊าซ แต่ไม่ได้เป็นผู้กำหนดนโยบาย ขณะที่แผนของบริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน)ที่จะมีการพัฒนาท่อก๊าซธรรมชาติเหลว(แอลเอ็นจี)ใน 2 แห่งจากนครราชสีมา-ขอนแก่น และพระนครใต้-บางปะกง ตอนนี้ยังไม่ได้รับการเสนอมาจาก ปตท. ก็ต้องรอความชัดเจนก่อน

นอกจากน กกพ.พร้อมด้วยภาคีเครือข่ายความร่วมมือ ได้แก่ จังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส สงขลา และผู้แทนภาคประชาชนสังคม เปิดโครงการรณรงค์ “กกพ.กำกับความสุขให้คนไทย” ในโอกาสครบรอบการก่อตั้ง 12 ปี โดยมีกิจกรรมหลัก 3 โครงการ ได้แก่ 10 ล้านดวงใจส่งแสงสว่างสู่พี่น้อง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้, โครงการรักษ์พลังงาน บ่มเพาะพลังงานปัญญา และ3.เดิน-วิ่งการกุศล “Run for Sustainable Community” เพื่อเป็นการส่งสัญญาณการผลักดันนโยบายให้ กกพ. ก้าวสู่การเป็นองค์การกำกับพลังงานเพื่อพัฒนาที่ยั่งยืนและส่งเสริมการแข่งขันให้เหมาะสมอย่างเป็นธรรมภายใน 5 ปี


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"