พบเด็ก3.6ล้านคนเกี่ยวข้องเล่นพนันออนไลน์ กว่าแสนคนติดหนี้ 335 ล้าน จิตแพทย์ชี้ อี-สปอร์ต อันตรายแฝงไม่แพ้เกมพนันอื่้นๆ  


เพิ่มเพื่อน    


12 ก.ย.62- มูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ (มสช.) ร่วมกับ สภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย สถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย โดยความร่วมมือจาก กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ จัดงาน “1ทศวรรษ รวมพลังป้องกันเด็กและเยาวชนจากการพนันออนไลน์”โดยวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ และประกาศเกียรติคุณแก่ 26 องค์กรภาคีร่วมขับเคลื่อนความร่วมมือการป้องกันและลดผลกระทบเด็กและเยาวชนจากการพนัน โดยมี ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานในพิธี พร้อมกล่าวปาฐกถาพิเศษเรื่อง “ยุทธศาสตร์ชาติกับการปกป้องคุ้มครองเด็กและเยาวชนจากพนันออนไลน์” ณ อาคารหอประชุม ชั้น 2 สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) โดยมีผู้สนใจเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก
    ดร.สาธิติกล่าวว่า สถานการณ์ปัญหาการพนันและการพนันออนไลน์ในปัจจุบันเป็นเรื่องที่น่าห่วงอย่างมาก โดยเฉพาะในเด็กและเยาวชนไทย  ตนมองว่าทางออกหนึ่งที่สำคัญที่จะช่วยแก้ไขปัญหา คือความอบอุ่นในครอบครัว และการใช้จิตวิทยาพูดคุยเพื่อปรับกระบวนการคิด การให้ความรู้แก่ผู้ปกครองและตัวเยาวชน โดยเฉพาะในเรื่องการพนันออนไลน์ที่ระบาดหนัก ต้องให้ความรู้สถาบันครอบครัว ว่าจะใช้เทคโนโลยีซึ่งเป็นตัวเชื่อมไปสู่การพนันออนไลน์อย่างไรให้ปลอดภัย ไม่ให้เด็กและเยาวชนหลงเข้าไปวงจรเล่นการพนันและติดการพนัน ซึ่งอยู่ในขอบเขตงานของ สธ.อยู่แล้ว โดยจะประสานให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเช่น กรมสุขภาพจิต เข้ามาดูแลให้เข้มข้นขึ้น ขณะที่งานในด้านการบังคับใช้กฎหมาย เพื่อจัดการเว็บไซต์และแอปพลิเคชันที่เข้าข่ายเป็นการพนันออนไลน์ ก็จะประสานไปยังกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) หามาตรการจัดการอย่างเด็ดขาดเพิ่มเติม


    นายพงศ์ธร จันทรัศมี ผู้จัดการศูนย์ข้อมูลนโยบายสาธารณะการลดปัญหาจากการพนัน มูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ (มสช.) กล่าวว่า ในช่วง 10ปีที่ผ่านมา หลายภาคส่วนทั้งภาครัฐ ประชาสังคม และกลุ่มนักวิชาการผู้เชี่ยวชาญ ได้ร่วมมือดำเนินการเพื่อป้องกันและลดผลกระทบเด็กและเยาวชนจากการพนันและการพนันออนไลน์อย่างต่อเนื่อง และจริงจังมากขึ้นในระยะ 1 ปีมานี้ ซึ่งผลสัมฤทธิ์ที่ได้ถือว่าน่าพอใจ เนื่องจากสามารถสร้างเครือข่ายเพื่อป้องกันและลดผลกระทบปัญหาดังกล่าว และผลักดันจนเกิด “ร่างแผนปฏิบัติการด้านการป้องกันและลดผลกระทบเด็กและเยาวชนจากการพนันออนไลน์  พ.ศ.2563-2569” จาก 3 คณะทำงาน ได้แก่ คณะทำงานยกร่างแผนการป้องกันและลดผลกระทบเด็กและเยาวชนจากการพนันออนไลน์ คณะอนุกรรมการส่งเสริมการปกป้องคุ้มครองเด็กและเยาวชนในการใช้สื่อออนไลน์ และคณะกรรมการส่งเสริมการพัฒนาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ พร้อมหาเจ้าภาพมาขับเคลื่อนในเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงศึกษา กระทรวงมหาดไทย เพื่อใช้เป็นแนวทาง ตั้งกลไก ในการควบคุม จัดการปัญหา และช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากการพนันและการพนันออนไลน์ 


    “การดำเนินงานหลังจากนี้ ก็จะนำร่างแผนปฏิบัติการดังกล่าวเสนอเข้าคณะกรรมการส่งเสริมการพัฒนาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ หรือ กดยช. เพื่อพิจารณาลงมติเห็นชอบ และมอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินงานและบังคับใช้กฎหมายตามร่างแผนปฏิบัติการต่อไป ไม่ว่าจะเป็น การตั้งศูนย์ให้คำปรึกษาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการพนันและการพนันออนไลน์ การสร้างเครือข่ายเฝ้าระวัง สร้างเสริมองค์ความรู้เรื่องการพนันในทุกมิติในหลักสูตรการเรียนการสอน และการปราบปราม ทั้งนี้ ร่างแผนปฏิบัติการฯ นับเป็นเครื่องมือหนึ่ง ที่จะมาช่วยจัดการและบรรเทาปัญหาการพนันบอลออนไลน์ในช่วงฤดูกาลฟุตบอลยูโรในเดือนมิถุนายนปี63”


    นายพชรพรรษ์ ประจวบลาภ เลขาธิการสถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า สิ่งที่อยากให้เพิ่มเติมในการขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาพนันและพนันออนไลน์ในเยาวชน คือการรณรงค์บนสื่อออนไลน์และโซเชียลมีเดียให้มากขึ้น เนื่องจากเด็กและเยาวชนอยู่บนแพลตฟอร์มนี้เยอะมาก ผลสำรวจจากหนังสือกลไกเชิงพื้นที่ในการป้องกันและลดผลกระทบจากการพนัน : บทเรียนทรงพลัง พบว่า  มีเด็กและเยาวชนเล่นการพนันสูงถึงร้อยละ 36.9 หรือ 3,649,303 คน แบ่งเป็นผู้ชาย 2,048,874 คน ผู้หญิง 1,600,429 คน และในจำนวนนี้กว่า 1 แสนคนติดหนี้พนัน เป็นเงินราว 335 ล้านบาท เฉลี่ยรายละ 3,512 บาท และที่เน้นการรณรงค์ผ่านการสื่อสารบนสื่อมัลติมีเดีย เพราะพบว่าการรณรงค์ผ่านการสื่อสารในแบบ 3on ช่วยให้เกิดการรับรู้และลดการเล่นพนันได้ โดย 3 on ประกอบด้วย 1..on ground การสื่อสารแบบลงพื้นที่ ตอกย้ำพิษภัยของการพนันและการพนันออนไลน์แก่คนที่ไม่เล่นโซเชียล 2.online เพื่อชี้ให้เห็นโทษของการพนันแก่เด็กและเยาวชน และ 3.on broadcast ในช่องทางสื่อเก่า เช่น โทรทัศน์ วิทยุ และหนังสือพิมพ์ เพื่อสื่อสารกับผู้ใหญ่ ผู้ปกครอง และผู้กำหนดนโยบายในบ้านเมือง


    ขณะที่ พญ.มธุรดา สุวรรณโพธิ์ ผู้อำนวยการสถาบันราชานุกูล กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า แม้ว่าการทำงานเพื่อเดินหน้าแก้ไขปัญหาพนันและพนันออนไลน์ในเด็กและเยาวชนไทยตลอด 1 ทศวรรษที่ผ่าน มีทิศทางในการขับเคลื่อนป้องกันได้ดีและมากขึ้น แต่ก็ยังเป็นห่วงในแง่ปริมาณนักพนันวัยเยาว์ที่เพิ่มจำนวนมากขึ้นตามเว็บไซต์และแอปพลิเคชันพนันออนไลน์ ซึ่งการทำงานต่อเนื่องในทศวรรษที่ 2 จะเป็นไปในลักษณะ “เล่นพนันได้ แต่ต้องมีความรับชอบ” ทั้งตัวผู้เล่นและเจ้าของธุรกิจพนันในรูปแบบต่างๆ และเยาวชนเองต้องตระหนักให้มากขึ้น และลุกขึ้นมาเป็นหนึ่งแกนนำในการจัดการปัญหา ในการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับเด็กและเยาวชนด้วยกันเอง 


    “ต้องเรียนว่าจากการศึกษาวิจัยที่ผ่านมา ในส่วนของเยาวชนเขาติดเกมไม่ได้ติดพนัน แต่เกมในปัจจุบันส่วนมากจะมีเรื่องพนันเข้ามาแอบแฝง สมองของวัยรุ่นเองก็มีธรรมชาติที่ชอบเข้าไปหาความเสี่ยง อยู่ตามธรรมชาติ โดยเฉพาะเมื่อเห็นว่าความเสี่ยงนั้นอาจทําให้ได้รางวัล หากว่าสมองของเด็กและวัยรุ่นถูกกระตุ้นด้วยการพนันรูปแบบต่างๆ สมองส่วน Striatum ซึ่งเปรียบเสมือนคันเร่งจะถูกใช้งานบ่อย เปรียบได้ เหมือนเป็นการฝึกฝนตั้งแต่อายุน้อยทำให้ สมองส่วนนนี้มีความว่องไวในการทำงานมากขึ้น จนเป็นไปได้ว่าสมองส่วนหน้า PFC : Prefrontal cortex ที่เปรียบเสมือนเบรค  ไม่สามารถพัฒนาแข่งขันกับสมองส่วนคันเร่ง ได้ ซึ่งอาจมีผลให้เด็กหรือวัยรุ่นเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ขาดวุฒิภาวะอย่างถาวร”  


    พญ.มธุรดา กล่าวอีกว่าที่น่าจับตาต่อไปคือ อีสปอร์ต (e -Sport) หรือกิจกรรมการแข่งขันเกม (Game Competition) เพื่อร่วมเพื่อชิงเงินรางวัล ของรางวัล หรือเพื่อเสริมความรู้สึกทางจิตใจ การพนันบนอี-สปอร์ตมีความเสี่ยงที่จะชักนำนักเล่นรายใหม่ ไปสู่การเล่นพนันเช่นเดียวกับการทายผลกีฬาในโลกออนไลน์ ปัญหาคือการที่ผู้เล่นพนันมีความนิยมชมชอบกีฬาอีสปอร์ตหรือเกมอีสปอร์ต ก็จะทำให้มีการแทงพนันกับทีมนั้น เกมนั้น โดยไม่สนใจว่ากำลังเล่นพนันหรือเสพติดพนัน อีกทั้ง ลักษณะการพนันในอี-สปอร์ตมีการเชื่อมโยงเกมและอินเทอร์เน็ตเข้าด้วยกัน สามารถกระทำผ่านอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือ ผ่านตัวโปรแกรม แอปพลิเคชัน เป็นกิจกรรมส่วนตัวที่ผู้เล่นสามารถทำได้ทั้งเล่นเกม ซื้อของ สนทนา จ่ายเงิน หรือรับชมการแข่งขันทัวร์นาเมนท์ต่างๆ ไปได้พร้อมกับการแทงพนันได้ทันที และผู้เล่น เกมส่วนมากเป็นเด็กและเยาวชนที่ยังไม่เท่าทัน และตระหนักรู้ว่าเกมหรืออี-สปอร์ตนั้น มีส่วนเชื่อมโยงกับธุรกิจ การพนันออนไลน์ 


    " นอกจากการป้องกันแล้ว งานดูแลและคุ้มครองเด็กและเยาวชนที่ติดพนันก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะองค์การอนามัยโลก (WHO) กำหนดให้พฤติกรรมติดการพนันเป็นความผิดปกติทางจิตชนิดหนึ่งเรียกว่า Pathological Gambling หรือโรคติดพนัน อาการคือแม้ผู้เล่นการพนันจะมีความทุกข์จาก การเล่นพนัน แต่ก็ หยุดไม่ได้ยังคงต้องเล่นต่อไป  ผู้ที่มีปัญหาจากการพนันหรือผู้ติดการพนัน คือผู้ที่ได้รับการวินิจฉัยตามเกณฑ์ การวินิจฉัยของสมาคมจิตแพทย์อเมริกัน ในทางการแพทย์เรียกว่าโรคติดพนัน(Gambling Disorder)  จัดอยู่ในกลุ่มโรคเดียวกับโรคที่เกี่ยวกับสารเสพติด(Substance-related and Addictive Disorders) ที่ภาครัฐอย่าง สธ.และภาคีที่เกี่ยวข้องต้องเข้ามาดูแลแก้ไขอย่างใกล้ชิด"


    ด้าน นายวิเชษฐ์ พิชัยรัตน์ กรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า การพนันได้ถูกยกระดับให้เป็นปัญหาสุขภาพสำคัญที่มีผลกระทบต่อเด็กเยาวชน ครอบครัว ชุนชน สังคม รวมทั้งเศรษฐกิจของประเทศเกิดเป็นปัญหาอาชญากรรมและปัญหาหนี้สิน เช่น ปี พ.ศ. 2660 พบว่ามีผู้เล่นพนันมีหนี้สินประมาณ 1.2 หมื่นล้านบาท เฉลี่ยที่ประมาณ 1.3หมื่นบาท/คน
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"