ชัดแล้ว!'ชัชชาติ'ทิ้งเพื่อไทยร่วม'กลุ่มกรุงเทพที่ดีกว่าเดิม'ลงชิงผู้ว่าฯกทม.


เพิ่มเพื่อน    

16 ก.ย.62 - ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ อำนรรฆสรเดช อดีตผู้สมัครส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย ในฐานะสมาชิกกลุ่มกรุงเทพที่ดีกว่าเดิม เปิดเผยว่า กลุ่มกรุงเทพที่ดีกว่าเดิม เป็นการรวมตัวของ นักวิชาการ นักธุรกิจ และประชาชน ที่อยากเห็นกรุงเทพดีกว่าเดิม มีการแก้ไขปัญหาเรื่องรถติด ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก ปัญหาน้ำท่วมขัง 

"จึงรวมตัวกันให้การสนับสนุนนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีตแคนดิเดตนายกฯของพรรคเพื่อไทย ที่ตัดสินใจจะลงสมัครผู้ว่ากทม.ในนามอิสระ เพราะต้องการร่วมมือการทำงานกับทุกภาคส่วนให้ทุกพรรคเข้ามามีส่วนร่วมในการทำงาน โดยจะทำงานอย่างอิสระจริงๆไม่มีพรรคอยู่เบื้องหลัง เพราะเมื่อประกาศลงอิสระแล้ว เราก็ยินดีทำงานร่วมกับทุกพรรคทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล เชื่อว่าการลงสมัครอิสระจะทำให้สามารถแชร์ข้อมูลข่าวสารได้อย่างเต็มที่ ตอนนี้ทางกลุ่มเดินสายไปตามมหาวิทยาลัยต่างๆเพื่อรวบรวมข้อมูลมาจัดทำเป็นนโยบายแก้ไขปัญหาให้กับกทม. ที่ผ่านมาหลายองค์กรมีข้อมูลดี แต่ไม่ได้นำมาใช้ เมื่อเราลงอิสระทุกองค์กรยินดีแชร์ข้อมูลมาให้เรา"

เมื่อถามว่า การตัดสินใจเช่นนี้ทางพรรคเพื่อไทยว่าอย่างไรบ้าง ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ ตอบว่า ตอบแทนพรรคไม่ได้แต่เป็นสิทธ์ของท่านที่จะลงอิสระ

ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ กล่าวอีกว่า เมื่อวันเสาร์ที่14ก.ย. ฝนตกในช่วงค่ำ ไม่กี่ชม. ปริมาณน้ำฝนไม่ถึง 60 มิลลิเมตร  แต่กลับส่งผลให้น้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ ซึ่งเป็นพื้นที่เดิม ที่ถือเป็นจุดเสี่ยงน้ำท่วมขัง 14 จุด  ได้แก่ 1.ถนนแจ้งวัฒนะ จากคลองประปาถึงคลองเปรมประชากร  2.ถนนรัชดาภิเษก ช่วงหน้าธนาคารกรุงเทพ 3.ถนนพหลโยธินช่วงหน้าตลาดอมรพันธ์และแยกเกษตร 4.ถนนประชาราษฎร์สาย 2 ช่วงแยกเตาปูน 5.ถนนราชวิถีช่วงหน้าราชภัฏสวนดุสิตและเชิงสะพานกรุงธน 6.ถนนพญาไท ช่วงหน้ากรมปศุสัตว์ 7.ถนนศรีอยุธยาช่วงหน้า สน.พญาไท  8.ถนนจันทน์ จากซอยบำเพ็ญกุศล-ไปรษณีย์ยานนาวา 9.ถนนสวนพลูจากถนนสาทรใต้-ถนนนางลิ้นจี่ 10.ถนนสาธุประดิษฐ์บริเวณแยกตัดถนนจันทน์ 11.ถนนสุวินทวงศ์ช่วงจากคลองสามวา-คลองแสนแสบ 12.ถนนเพชรเกษมจากคลองทวีวัฒนา-คลองราชมนตรี 13.ถนนหมู่บ้านเศรษฐกิจ 14.ซอยเอกมัย และ 15.ถนนบางขุนเทียน จากถนนพระราม 2-ถนนบางขุนเทียนชายทะเล

ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ กล่าวว่า ปัญหาน้ำท่วมขังของกทม. จะไม่สามารถแก้ไขให้เด็ดขาดและลุล่วงไปได้เลยหากเราไม่แก้ไขทั้งระบบ หากเปรียบเทียบอุโมงยักษ์เป็นเส้นเลือดใหญ่ ซึ่งอาจส่งเลือดไปเลี้ยงร่างกายเราได้ เปรียบเทียบท่อส่วนใหญ่ในกทม.เป็นเส้นเลือดฝอย ที่มีขนาดเล็กกว่าปรกติ มีการอุดตันจำนวนมาก แน่นอนเลือดคงไม่สามารถไปเลี้ยงสมองและร่างกายเราได้  ซึ่งระบบการระบายน้ำของกทม. มีทั้งอุโมงยักษ์ ระบบดันท่อลอดใต้ดิน ธนาคารน้ำ และแก้มลิง ซึ่งกทม. ทุ่มงบประมาณไปหลายหมื่นล้านบาท แต่ก็ยังไม่ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ ดังนั้นหากกทม.อยากแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังคงต้องเข้าใจถึงปัญหา และควรบูรณาการระบบใหม่อย่างเร่งด่วน  โดยเริ่มต้นจากจุดสุ่มเสี่ยงก่อนแล้วค่อยกระจายการแก้ปัญหาไปตามถนนและตรอกซอกซอยต่างๆ อาทิ จัดการขยายท่อต่างๆ เช่นท่อระบายน้ำ ให้มีขนาดใหญ่ขึ้น รณรงค์ให้ประชาชนเข้าใจการคัดแยกขยะและทิ้งขยะให้ถูกที่ เพิ่มจำนวนถุงดักขยะทุกคลองในกทม. และที่ขาดไม่ได้คือการขุดลอกคูคลอง โดยใช้นักโทษ หรือผู้ที่ชำนาญการ ซึ่งในปัจจุบันบริษัทที่ดำเนินการอยู่ผลงานที่ทำไม่เป็นที่น่าพึงพอใจเท่าที่ควร ควรมีการขุดลอกคูคลองและท่อระบายน้ำอย่างน้อยทุกไตรมาส 

พร้อมทั้งควรมีการตรวจเช็คในทุกส่วนของทางเดินน้ำว่ามีสิ่งใดกีดขวางทำให้ประสิทธิภาพในการระบายน้ำลดลงหรือไม่ และจากการตรวจสอบในบางพื้นที่พบว่า มีกองดินจากการก่อสร้างเขื่อน ค.ส.ล. ริมคลอง และขยะจากการก่อสร้างบ้านมั่นคงที่ปล่อยให้ผู้รับเหมาโกยทิ้งลงในคลองลาดพร้าว-บางซื่อ จนทำให้ขัดขวางการระบายน้ำ ทางกลุ่มฯ อยากทราบว่าเป็นเพราะเหตุใดทาง พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นผู้ว่ากทม. และรองผู้ว่ากทม. มากว่า 6 ปี จึงไม่เแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง  ส่งผลให้เกิดปัญหาเดิมๆ ซ้ำซากจำเจ จึงทำให้ชาว กทม. ไม่มีวันลืมวลี น้ำรอการระบาย และหากไม่อยากน้ำท่วมให้ไปอยู่บนดอยได้เลย.
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"