พระราชทานพระราโชบายแก้น้ำท่วม


เพิ่มเพื่อน    

  "บิ๊กตู่" เผย "ในหลวง" ทรงห่วงสถานการณ์อุทกภัย พระราชทานพระราโชบายแก้ปัญหาน้ำท่วม รัฐบาลน้อมรับใส่เกล้าฯ พร้อมลงพื้นที่เยี่ยมชาวอุบลฯ รอบ 2 ยันไม่ขี้เหนียวจ่ายเงิน แต่ต้องทำตาม กม. บอกเตรียมงบไว้ดูแลฟื้นฟูหลังพ้นวิกฤติแล้ว ถามหา ส.ส.เพื่อไทยไม่มาดูแล ปชช. เหน็บเอาแต่เลื่อยขา "เทวัญ" เล็งตั้งวอร์รูมช่วยน้ำท่วมแจงข้อมูลข่าวสาร "โฆษก พท." โต้นายกฯ ไม่ไปเสนอหน้าสร้างภาพ เพราะลุยน้ำช่วยชาวบ้าน "ศรีสุวรรณ" จ่อร้อง สตง.สอบเงินบริจาคหน่วยงานรัฐช่วยน้ำท่วม

    ตั้งแต่เวลา 11.40 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม พร้อมด้วยคณะ  อาทิ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข, พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย, นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์, นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจผู้ประสบอุทกภัยที่จังหวัดอุบลราชธานี
    พล.อ.ประยุทธ์กล่าวก่อนเดินทางว่า ไปเยี่ยมจังหวัดอุบลฯ เพราะยังมีความเดือดร้อนอยู่จริงๆ แล้วขณะนี้มี 4 จังหวัดที่ยังค่อนข้างจะหนักอยู่ ก็ได้สั่งการให้มีการยกระดับศูนย์บรรเทาสาธารณภัย ซึ่งมีขั้นตอนของเขา รัฐบาลรับผิดชอบในภาพรวมทั้งหมดอยู่แล้ว มีบางจังหวัดอยู่ในขั้น 2 บางจังหวัดอยู่ในขั้น 3 ซึ่งกระทรวงมหาดไทยจะเป็นผู้บูรณาการตรงนี้ เพราะความเดือดร้อนยังคงมีอยู่ น้ำยังคงไม่ลดระดับ 100% แต่ก็ยังดีที่ว่าน้ำลดระดับลงไปบ้าง 
    พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ที่ต้องเดินทางไปอุบลฯ รอบสอง เพราะอยู่ในขั้นตอนการเตรียมการฟื้นฟู โดยจะลงไปดูว่ามีมาตรการใดเพิ่มเติมได้อีกบ้าง สามารถที่จะเพิ่มเติมจากบรรทัดฐานปกติได้หรือไม่ มีงบประมาณใช้ได้หรือไม่ เพราะปัญหาต้องช่วยกัน โดยได้ปรับแผนการทำงานในการตรวจเยี่ยมประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วมหลายอัน ซึ่งจริงๆ นายกฯ มีงานทุกวันอยู่แล้ว คำว่างานไม่ได้หมายถึงไปจ๊อบนั้นจ๊อบนี้ แต่เป็นงานเอกสารต่างๆ ของทุกกระทรวงที่จะต้องลงนามและอ่านเอกสารทั้งวัน 
    "สิ่งสำคัญที่สุดคือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระราโชบายในการแก้ปัญหาน้ำท่วมมาให้กับรัฐบาลด้วย นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ซึ่งเราได้เริ่มดำเนินการตามแผนมาทั้งหมด และได้กราบบังคมทูลให้พระองค์ทรงทราบแล้ว พระองค์ทรงห่วงใยและให้กำลังใจกับเจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะจิตอาสาที่ช่วยพี่น้องประชาชน" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
    นายกฯ กล่าวว่า วันนี้ทุกคนต้องมีกำลังใจร่วมกัน ในพระมหากรุณาธิคุณที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมลงมา พระองค์พระราชทานมาอย่างต่อเนื่อง ทุกอย่างทุกเรื่อง พระองค์ทรงให้กำลังใจรัฐบาล เสนอแนวทางในการปฏิบัติ ซึ่งเราก็รับใส่เกล้าฯ นำมาสู่ในการปฏิบัติ พระองค์ทรงห่วงใย และให้เราทำงานอย่างมีแบบแผน เหมือนที่ทหารทำ
    พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ขั้นตอนที่ยากที่สุดคือขั้นตอนระหว่างเกิดภัย ประชาชนไม่มีความสุข ใจก็เครียด รัฐบาลก็ยิ่งเครียด เพราะคิดว่าจะทำอย่างไรที่จะแก้ปัญหาไปให้ได้พร้อมๆ กัน ดังนั้นจึงคาดหวังจากสื่อที่จะช่วยกัน อะไรที่เป็นเรื่องไม่ได้สาระไม่จำเป็น ก็อย่าไปขุดคุ้ยให้มากมาย เพราะเป็นการทำให้สังคมไม่สงบ แทนที่รัฐบาลจะใช้เวลาแก้ปัญหา ใช้สมองสติปัญญาในการแก้ปัญหา กลับต้องไปแก้ตรงอื่นอีก ขอให้ลดลาวาศอกกันไปบ้าง ขอให้ย้อนกลับดูว่าสิ่งที่พูดกันมาทำความเสียหายอะไรบ้างในอดีต อย่าลืมอดีต
    “มีคนบางคนพยายามจะให้ลืมอดีตที่เกิดความเสียหาย แล้ววันนี้มาเป็นคนดีทั้งหมด มันใช่-ไม่ใช่ไม่รู้ ก็อาจจะดีก็ได้ อาจจะใช่ก็ได้ แต่ต้องถามเจตนารมณ์ว่าบริสุทธิ์ใจแค่ไหนอย่างไรในสิ่งที่ทำที่ผ่านมา ดูพฤติกรรมก็แล้วกัน ขอร้อง” นายกฯ กล่าว
ร.10 ทรงห่วงผู้ประสบอุทกภัย
    ต่อมาเวลา 13.45 น. พล.อ.ประยุทธ์พร้อมคณะ เดินทางถึง จ.อุบลราชธานี โดยมีผู้ว่าฯ จ.อุบลราชธานีและหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องมาต้อนรับ ทั้งนี้นายกฯ กล่าวว่า ให้มารับกันแต่น้อย และอยู่ในพื้นที่ อย่าให้เสียงานในการช่วยเหลือประชาชน แล้วขึ้นรถตู้โตโยต้าอัลพาร์ด สีขาว ทะเบียน กข 2002 อุบลราชธานี ไปเยี่ยมผู้ประสบอุทกภัย ณ ศูนย์พักพิงชั่วคราว บ้านหนองกินเพล อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี โดยมี ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ นายอิสสระ สมชัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ, น.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย ส.ส.อุบลราชธานี เขต 8 และได้มีอดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ น.ส.โยธากาญจน์ ฟองงาม บุตรสาวนายสุพล ฟองงาม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พลังประชารัฐ, น.ส.ตวงทิพย์ จินตะเวช บุตรสาวนายตุน จินตะเวช มาต้อนรับ โดยนายกฯ รับฟังรายงานและมอบยาเวชภัณฑ์ให้ประชาชน
    พล.อ.ประยุทธ์กล่าวให้กำลังใจประชาชนว่า สวัสดีพ่อแม่พี่น้องเด้อ วันนี้มาเยี่ยมเยียนหมู่เฮาถึงบ้าน มีรองนายกฯ และรัฐมนตรีหลายท่าน คนที่ไม่มาก็ส่งตัวแทนมาร่วมกับนายกฯ มาวันนี้เพื่อนำความห่วงใยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รวมถึงของรัฐบาลมาให้ประชาชน ซึ่งในหลวงรับสั่งให้รัฐบาลรายงานสถานการณ์ทุกวัน ว่าได้ช่วยเหลือไปถึงไหน วันนี้ต่อให้พายุเข้า ก็เชื่อว่าทุกคนไม่กลัว เชื่อว่าใจเราพร้อมที่จะสู้กับธรรมชาติ เพราะมีรัฐบาลที่ใส่ใจแบบนี้ แต่อาจจะถูกใจบ้างไม่ถูกใจบ้าง สิ่งสำคัญคือพวกเราเอาหัวใจมาฝาก เพราะมาครั้งที่แล้วได้เอาหัวใจมาทิ้งที่นี่ เก็บไว้ให้นายกฯ ด้วย
    นายกฯ ยังได้พูดถึงการทำงานของ ส.ส.ในพื้นที่ว่า พื้นที่นี้เป็นของพรรคการเมืองใหญ่ 2 พรรคคือพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาธิปัตย์ วันนี้มี ส.ส.คน ไหนมาบ้าง โดยระหว่างนั้น ส.ส.พรรค ปชป.ได้ลุกขึ้นสวัสดีทักทายประชาชน ก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์จะกล่าวเพิ่มเติมว่า “พรรคประชาธิปัตย์มา พรรคเพื่อไทยมาหรือไม่ ไปไหนหมด เลือกเขามาใช่หรือไม่ แล้วไปไหนหมด หรือจะคอยมาเลื่อยขาผม ไม่ได้ เพราะอะไรที่เป็นความเดือดร้อนของประชาชน ทุกพรรคการเมืองต้องช่วยกัน ไม่ใช่อะไรก็ไม่ถูกใจ แต่กลับไม่ช่วยคิดช่วยทำ”
    พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า สิ่งที่รัฐบาลจะต้องทำมีมากมายมหาศาล แต่เรามีประสบการณ์มาแล้วเมื่อปี 2553-2554 เกิดน้ำท่วมทั่วประเทศ รัฐบาลไหนก็ไม่รู้ แต่น้ำท่วมฝนตกไม่เลือกรัฐบาล แต่เลือก ส.ส. อย่างไรก็ตาม แม้ไม่เลือกเรา เราก็ยิ่งต้องดูแล ยืนยันว่าเราพร้อมจ่าย ขอเพียงมีข้อมูลมา เราจ่ายได้เลย แต่จะให้แจกเงินคนละ 1,000 หรือ 5,000 บาทคงไม่ได้ เพราะไม่ทั่วถึง จึงค่อยมาดูแลตอนซ่อมแซมบ้านเรือน รัฐบาลนี้ไม่ใช่รัฐบาลขี้เหนียว แต่ต้องรอบคอบ เพราะถ้าเกิดมีปัญหาทางคดีความ แล้วใครจะทำให้ ถ้าใช้เงินผิดประเภท ภาษีจากประชาชนต้องใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด 
    ช่วงหนึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ถามประชาชนว่า วันนี้ใครเจอหน้านายกฯ แล้วเหมือนเจอจำเลยบ้าง นายกฯรับทุกเรื่อง จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์บอกชาวบ้านให้ปรบมือให้กับ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ที่มาต้อนรับ โดยระบุว่า แม้จะเป็นคนละเขต แต่ก็ยังเดินทางมา ซึ่งถือว่าสนใจประชาชน แต่ ส.ส.เขตนี้ยังไม่เห็นมาเลย วันนี้พรรคร่วมรัฐบาลหลักคือ พลังประชารัฐ ประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทย พรรคร่วมยังมีพรรคเล็กๆ อีก 10 กว่าพรรค แม้แต่ ส.ส.ฝ่ายค้านก็ต้องดูแล ถ้าเขามาร่วมกับผม ผมก็ไม่ได้ไปว่าอะไรเขา มาช่วยเหลือประชาชนกัน ขอให้มาได้เลย แต่ไม่ใช่มาจับผิด เพราะไม่มีใครได้อะไรเลย
    พล.อ.ประยุทธ์ยังได้ถามหาคนของพรรค พปชร.ซึ่งอยู่นอกเต็นท์จัดงาน ก่อนบอกว่า แม้ไม่ได้รับเลือกนายกฯ ก็มา แล้วแซวอดีตผู้สมัคร ส.ส.พปชร.ว่า "แบบนี้ถึงไม่ได้รับเลือก เพราะไม่ชอบเสนอหน้า"
พท.สวน'บิ๊กตู่'สร้างภาพ
    พล.อ.ประยุทธ์ยังถามประชาชนอีกว่า ไหนวันนี้มีใครมาต่อว่านายกฯ ให้ฟังบ้างหรือไม่ว่าทำงานชักช้า ใช้ไม่ได้ ไม่ได้เรื่อง เห็นบางคนมาถ่ายรูปลุยช่วยน้ำท่วม แล้วมีสุนัขเดินในน้ำ น้ำยังไม่พ้นขาเลย โอ้โหซาบซึ้งกันใหญ่ แต่นี่ทุกคนมาลุยน้ำคักๆ โดนด่าทั้งปี มันไม่ใช่ นี่ตนไม่ได้ว่าใครนะ วันนี้จะโกธรเกลียดใครไม่ว่า เกลียดนายกฯ คนเดียวพอ เรื่องการเมืองอย่าไปสนใจเดี๋ยวตนแก้เอง ทำให้ประชาชนตะโกนบอกว่า “ไม่เกลียด แต่รักนายกฯ” โดย พล.อ.ประยุทธ์บอกว่า “ปากหวานจริงใจ เราต้องจริงใจต่อกัน”
    เวลา 16.00 น. นายกฯ และคณะได้ลงเรือท้องแบนไปยังบ้านกุดชุม ต.หนองกินเพล อ.วารินชำราบ โดยระยะทางผ่านกว่า 4 กม. เป็นพื้นที่นาข้าวของชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วมขังสูงกว่า 3 เมตร โดยระหว่างทางที่พบชาวบ้านติดอยู่ในบ้าน นายกฯ ได้ใช้โทรโข่งทักทายชาวบ้านเป็นระยะว่า "สวัสดีนะจ๊ะ วันนี้เอาความห่วงใย เอากำลังใจมาฝาก ถ้าใครมีความเดือดร้อนอะไร ก็บอกกำนันผู้ใหญ่บ้านเขาได้นะ"
    อย่างไรก็ตาม ก่อนขึ้นรถเดินทางกลับ มีนักข่าวท้องถิ่นถามนายกฯ เครียดหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ผมไม่เครียด ถ้าผมเครียดชาวบ้านเขาจะเป็นอย่างไร ผมไม่เครียดหรอก” จากนั้นนายกฯ และคณะเดินทางกลับกรุงเทพฯ
    ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้ตนมีแนวคิดจะตั้งวอร์รูมที่ทำเนียบรัฐบาลในวันจันทร์ที่ 23 ก.ย. เพื่อทำหน้าที่รับเรื่อง ประสานงาน และประชาสัมพันธ์ เช่น แจ้งข่าวว่ารัฐมนตรีท่านใดจะลงพื้นที่ หน่วยงานใดจะเข้าไปทำงานในพื้นที่อย่างไร และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง จะประชาสัมพันธ์ทุกวันว่าเงินที่ได้รับบริจาคมาถูกแจกจ่ายไปที่ใคร จำนวนเท่าไร เพราะการที่คนทั่วไปไม่ทราบรายละเอียดตรงนี้ ทำให้ตั้งคำถามว่าทำไมเราดำเนินการล่าช้า
    "นายกฯ ไม่ได้บ่น แต่บางครั้งแค่น้อยใจว่าท่านลงพื้นที่เยอะและทำงานเต็มที่ แต่ข่าวสารที่ออกไปอาจไม่ทัน" นายเทวัญกล่าว
    เช่นเดียวกับพรรค พปชร. น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรค พปชร. พร้อมด้วย น.ส.ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์ ส.ส.กทม.และ น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกพรรค ร่วมแถลงข่าวเปิดศูนย์อำนวยการช่วยเหลือภัยพิบัติพรรคพลังประชารัฐ
    น.ส.วทันยากล่าวว่า จากการลงพื้นที่ทำงานช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้เห็นถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในแต่ละพื้นที่ โดยเฉพาะภัยธรรมชาติทุกรูปแบบ จึงคิดว่าควรจะจัดตั้งศูนย์อำนวยการภัยพิบัติและทีมทำงานขึ้นมา เพื่อให้เวลาเกิดภัยพิบัติต่างๆ พรรค พปชร.จะสามารถเข้าช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้อย่างเต็มความสามารถและทันท่วงที
    ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรค พท. กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ระบุระหว่างลงพื้นที่ถามหา ส.ส.ของพรรคว่า ขอเรียนว่าส.ส.พรรค พท.ทุกคน ไม่มีเวลาไปต้อนรับ พล.อ.ประยุทธ์ในเต็นท์อำนวยการ เพราะ ส.ส.และบุคลากรทางการเมืองของพรรคทุกคนทำงานแข่งกับเวลา ลงพื้นที่ออกเรือ ลอยคอ ลุยน้ำ มอบถุงยังชีพให้กับพี่น้องประชาชนที่ประสบภัยพิบัติน้ำท่วมในทุกพื้นที่ ไม่มีใครสะดวกไปเป็นผักชี หรือเป็นองค์ประกอบภาพให้ พล.อ.ประยุทธ์ เพราะปัญหาของพี่น้องประชาชนที่จมน้ำมากว่า 20 วัน ไม่สามารถแก้ไขด้วยการสร้างภาพ 
    "น่าเสียดายที่ พล.อ.ประยุทธ์ลงพื้นที่ แต่ไม่ได้ลุยน้ำแจกจ่ายถุงยังชีพให้กับพี่น้องประชาชนถึงบ้านเรือนที่จมน้ำ เห็นแต่ภาพข่าวนั่งอยู่ในเต็นท์บัญชาการ ซึ่งวิธีการทำงานของพรรค พท.กับรัฐบาลนั้นแตกต่างกันอยู่แล้ว" นายอนุสรณ์กล่าว
    โฆษกพรรค พท.กล่าวว่า สิ่งที่ประชาชนอยากเห็นคือมาตรการในการช่วยเหลือเยียวยาและฟื้นฟูพี่น้องประชาชนที่ประสบปัญหาภัยน้ำท่วมอย่างเป็นรูปธรรม รวมถึงมาตรการในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่เห็นผลโดยเร็ว ไม่ใช่มาสร้างภาพหรือมาเพราะต้องมาเพียงเท่านั้น
    ส่วนนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย กล่าวว่า ในวันที่ 19 ก.ย. เวลา 10.30 น. จะเดินทางไปที่สำนักงาน สตง. เพื่อยื่นร้องให้ตรวจสอบหน่วยงานราชการต่างๆ ที่นำเงินแผ่นดินมาสร้างภาพออกรายการพิเศษ “ร่วมใจพี่น้องไทย ช่วยภัยน้ำท่วม” ของรัฐบาลมีที่มาอย่างไร เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่อย่างไร. 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"