‘บิ๊กตู่’สั่งเฝ้าระวังท่วมกรุง พปชร.ซัดพท.แค่ผ้าเช็ดเท้า


เพิ่มเพื่อน    

 นายกฯ สั่งเฝ้าระวังเมืองกรุง  ติดตามสถานการณ์ปริมาณน้ำ จุดเสี่ยงน้ำรอระบาย หลังฝนถล่มทั้งวัน ส.ส.พลังประชารัฐซัดเพื่อไทยสร้างข่าวขยะทางการเมือง ติดแฮชแท็กเทวดาไปอุบล   โพสต์ภาพที่มีการรื้อเต็นท์ของประชาชนริมถนนออก ทั้งที่นายกฯ ไปคนละถนนกัน ด่ายับค่าเป็นได้แค่เพียงผ้าเช็ดเท้าที่ซึมซับได้แต่สิ่งสกปรกเท่านั้น 

    นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ห่วงใยพี่น้องชาว กทม. ได้สั่งการไปยัง พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้เร่งระบายน้ำที่ท่วมขังบนผิวการจราจร และโดยเฉพาะบริเวณหน้าบ้านเรือนที่พักประชาชนให้รวดเร็ว เนื่องจากยังมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ของกรุงเทพฯ 
    ขณะนี้ กทม.ประสานงานกับทุกส่วนราชการติดตามสถานการณ์ ปริมาณน้ำฝน เฝ้าระวังจุดเสี่ยงน้ำรอระบาย ตรวจสอบการระบายน้ำ ประตูน้ำ ท่อระบายน้ำ เร่งอำนวยความสะดวกการจราจร ประชาสัมพันธ์ และแจ้งเตือนประชาชนให้หลีกเลี่ยงเส้นทางที่อาจมีปัญหา
    โฆษกประจำสำนักนายกฯ ยังเปิดเผยว่า แม้นายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปปฏิบัติภารกิจเข้าร่วมการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ ครั้งที่ 74 ณ นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา แต่ได้สั่งการให้รายงานสถานการณ์น้ำและการช่วยเหลือประชาชนในทุกพื้นที่ให้ทราบทุกวันด้วย
    นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวหานายกรัฐมนตรีสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนระหว่างการลงพื้นที่เยี่ยมผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่จังหวัดอุบลราชธานีว่า เป็นพฤติกรรมของนักการเมืองน้ำเน่า ที่เอาเรื่องน้ำท่วมมาสร้างประโยชน์ทางการเมืองให้ตัวเอง โดยมีการอ้างว่าพรรคเพื่อไทยไปอุบลราชธานีเพื่อช่วยเหลือพี่น้องที่เดือดร้อน แต่นายกฯ ไปอุบลราชธานีนำความเดือดร้อนไปให้ พร้อมติดแฮชแท็กเทวดาไปอุบล โพสต์ภาพที่มีการรื้อเต็นท์ของประชาชนริมถนนออก และข้อความประกอบว่านายกฯ มาเอาเต็นท์เราไป ทั้งๆ ที่มีการชี้แจงแล้วว่าเส้นทางดังกล่าวไม่ใช่เส้นทางที่นายกรัฐมนตรีผ่าน 
    อีกทั้งการรื้อเต็นท์ก็เป็นการบริหารจัดการภายในของจังหวัด เพื่อความปลอดภัยของประชาชน แต่นายสุทินกลับนำข้อมูลเท็จที่มีการชี้แจงไปแล้วกลับมาโพสต์ใหม่ แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจที่จะบิดเบือนข้อเท็จจริงเพื่อกล่าวหานายกรัฐมนตรีแบบไร้ความรับผิดชอบทางการเมือง
 ผ้าเช็ดเท้าซึมซับได้แต่สิ่งสกปรก
    "ความจริงพรรคเพื่อไทยต้องขอบคุณนายกรัฐมนตรี เพราะหลังลงพื้นที่และสั่งสอนให้ ส.ส.พรรคเพื่อไทยดูแลชาวบ้าน วันรุ่งขึ้นก็ยกโขยงกันเกือบครึ่งพรรคลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีตามหลังนายกรัฐมนตรีทันที นายสุทินและแกนนำพรรคเพื่อไทยต้องทบทวนตัวเองใหม่ เลิกใช้สถานการณ์น้ำท่วม สร้างข่าวขยะทางการเมือง เพราะจะทำให้มีค่าเป็นได้แค่เพียงผ้าเช็ดเท้าที่ซึมซับได้แต่สิ่งสกปรกเท่านั้น แตกต่างจากนายกรัฐมนตรี ที่เป็นผ้าเช็ดหน้าซับน้ำตาให้กับประชาชน พยายามช่วยเหลืออย่างเต็มที่โดยไม่มีการแสวงหาผลประโยชน์ทางการเมืองใดๆ จึงไม่ควรบังอาจยกตัวเองมาเทียบชั้น และขอฝากว่าอย่าทำพฤติกรรมมือไม่พายเอาเท้าราน้ำ ประชาชนเขามองเห็นว่าใครทำอะไรเพื่อประเทศชาติ" นายสิระกล่าว
    ด้าน พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคภูมิใจไทย แถลงว่า ที่ผ่านมามีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงการบริจาคเงินของ ส.ส.และรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทยจำนวน 5.6 ล้านบาท เป็นการสร้างความนิยมทางการเมือง ยืนยันแทนเพื่อน ส.ส.และสมาชิกพรรคภูมิใจไทยทุกคนได้เลยว่าสิ่งที่เราทำ ทุกอย่างมาจากความตั้งใจจริงของเราที่ต้องการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนผู้ประสบภัย แม้จะถูกโจมตีทางการเมืองก็ตาม แต่ผมอยากให้พี่น้องคนไทยได้เห็นใจซึ่งกันและกัน เมื่อพี่น้องคนไทยถึงคราวลำบาก เราในฐานะพรรคการเมืองก็ต้องให้ความช่วยเหลือ 
    "ไม่ใช่เฉพาะพรรคภูมิใจไทยเท่านั้น พรรคการเมืองอื่นก็ร่วมให้ความช่วยเหลือเช่นกัน ผมขอร้องว่าอย่าเอาเรื่องความจริงใจในการช่วยเหลือประชาชนมาเป็นตัวประกัน โดยนำมาใช้เป็นประเด็นโจมตีกันทางการเมืองเลย” พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์กล่าว
    ผู้สื่อข่าวรายงานการให้ความช่วยเหลือชาวบ้านที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ จ.อุบลราชธานี ว่าถึงแม้สถานการณ์ระดับน้ำในแม่น้ำมูลพจะลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่ยังคงมีหลายชุมชนที่อยู่ในพื้นที่ริมแม่น้ำมูล ถูกน้ำท่วมขังเพราะเป็นพื้นที่ต่ำ
    โดยในชุมชนบ้านทัพไทย ม.7 ต.แจระแม อ.เมืองอุบลราชธานี ซึ่งอยู่ติดกับถนนเส้น 231 ถึงแม้ระดับน้ำจากถนนเส้นนี้จะลดลงและใช้สัญจรได้ตามปกติแล้ว แต่ตั้งแต่ปากทางเข้าหมู่บ้านยังคงท่วมขังยาวเข้าไปในชุมชนจนถึงแม่น้ำมูล ซึ่งมีบ้านเรือนกว่า 100 หลังคาเรือนยังมีน้ำท่วมขัง และบางส่วนไม่ยอมย้ายออกจากบ้านเรือนไปอยู่ที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว ซึ่งยังถือว่ามีความต้องการของใช้ที่จำเป็นอยู่
    เจ้าหน้าที่กู้ภัยรวมใจโนนก่อได้นำอาหาร น้ำดื่ม สิ่งของใช้จำเป็น เช่น ยากันยุง เทียน ผ้าอนามัย อาหารแห้ง ที่ได้รับบริจาคมาจากหลายหน่วยงานในพื้นที่อุบลราชธานีและจาก จ.ชลบุรี นำมาแพ็กสิ่งของที่จำเป็นให้ที่หน้าปากทางเข้าหมู่บ้าน เพื่อจะใช้เรือท้องแบนของมูลนิธิจี้กงอุบลราชธานีนำไปมอบให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในบ้าน แต่ปัญหาในการช่วยเหลือเกิดจากฝนที่ตกลงมา จึงเป็นอุปสรรคในการบรรจุสิ่งของ โดยในจุดที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยรวมใจโนนก่อบรรจุสิ่งของอยู่ มีประชาชนจากที่ต่างๆ นำมาสมทบให้อย่างต่อเนื่องเช่นกัน
ตำรวจก็เฝ้าระวังน้ำท่วม
    พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยว่า ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาได้พยากรณ์อากาศในวันที่ 20 ก.ย.2562 ประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักและฝนที่ตกสะสมไว้ด้วย 
    เนื่องด้วยพายุโซนร้อน "เผห์ผ่า" (TAPAH) บริเวณด้านตะวันออกของเกาะไต้หวัน มีแนวโน้มจะเคลื่อนเข้าประเทศญี่ปุ่นตอนใต้ในช่วงวันที่ 22-23 ก.ย.62 ทำให้ประเทศไทยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก รวมถึงกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งกับลมกระโชกแรง สำหรับในช่วงวันที่ 22-26 กันยายน 2562 
    พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้รับทราบถึงสถานการณ์ดังกล่าว มีความเป็นห่วงเป็นใยพี่น้องประชาชน ที่อาจได้รับผลกระทบดังกล่าวต่อเส้นทางการจราจรในหลายพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นจุดที่มีน้ำท่วมขัง จุดเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุ และจุดที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรในทุกพื้นที่ ออกปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัด ทั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และในพื้นที่ต่างจังหวัด โดยเน้นให้มีการบูรณาการกำลังร่วมกันในการอำนวยความสะดวกการจราจรกับกองบังคับการตำรวจจราจรกลาง  กองบังคับการตำรวจทางหลวง และหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ในถนนที่มีการจราจรหนาแน่น เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ใช้รถใช้ถนนสัญจรไปมา และในการเร่งระบายรถอย่างเต็มกำลังในชั่วโมงเร่งด่วน รวมไปถึงการจัดชุดเฉพาะกิจเคลื่อนที่เร็ว บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดูแลช่องทางจราจร เคลื่อนย้ายสิ่งกีดขวาง อาทิ กิ่งไม้หัก ต้นไม้ หรือเสาไฟฟ้าโค่นล้ม
    รองโฆษก ตร.กล่าวต่ออีกว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์  ได้ฝากขอบคุณถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนาย ชุดตำรวจจิตอาสาและจิตอาสาทุกภาคส่วน ที่น้อมนำพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการมีจิตสาธารณะและปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็ง ด้วยความเสียสละและทำงานกันอย่างหนัก ในการอำนวยความสะดวกด้านการจราจรในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งมีพายุฝนฟ้าคะนองบ่อยครั้ง และขอให้พี่น้องประชาชนเป็นกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ในครั้งนี้อีกด้วย    
    พร้อมกันนี้ ขอประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนพี่น้องประชาชนเตรียมพร้อมรับมือและระมัดระวังอันตรายจากสถานการณ์ภัยทางธรรมชาติ โดยให้ติดตามพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนภัยอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ประชาชนนั้นสามารถรับทราบถึงสถานการณ์ที่ทันต่อเหตุการณ์ รวมไปถึงการสร้างช่องทางการรับรู้ คำแนะนำแก่ประชาชนก่อนและขณะเกิดพายุฝน ทั้งนี้ ขอความร่วมมือให้ตรวจเช็กสภาพรถ เครื่องยนต์ สภาพอากาศและเส้นทางก่อนออกเดินทาง เติมน้ำมันให้พร้อมเพียงพอต่อการเดินทาง เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง และสามารถสอบถามข้อมูลเส้นทางการจราจร หรือแจ้งอุบัติเหตุ ขอความช่วยเหลือรถเสีย ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร ได้ที่สายด่วน บก.จร. 1197 ตลอด 24 ชั่วโมง และสำหรับผู้ที่เดินทางในพื้นที่ต่างจังหวัด สามารถติดต่อสายด่วน ตำรวจทางหลวง 1193 ตลอด 24 ชั่วโมง.


 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"