ข้องใจขายประเทศ! บิ๊กป้อมเล็งสอบธนาธรจ้างล็อบบี้ยิสต์/ลุงตู่ช่ี้รู้เบื้องหลังม็อบ


เพิ่มเพื่อน    

 นายกฯ ถกเลขาฯ ยูเอ็นก่อนเดินทางกลับไทย เย้ยม็อบหัวแดงแสดงว่าต้องทำอะไรดีถึงมาประท้วง ลั่นต้องไปว่าคนอยู่เบื้องหลัง มีหลักฐานหมด ได้รับรายงานแล้วว่าต้องเจอแบบนี้ แต่ไม่กลัว "เพจ อนค." แจงจ้างบริษัทพีอาร์ใช้ประสานงานในการเยือนสหรัฐ ปัดสร้างสถานการณ์อื่นๆ "ป้อม" พร้อมตรวจสอบความเชื่อมโยง ข้องใจคนไทยจะขายประเทศได้ยังไง รองโฆษก พปชร.เตือนจ้างล็อบบี้ยิสต์ในนามพรรคผิด กม.เลือกตั้งเข้าข่ายยุบพรรค "สมชาย" ชี้ช่อง กกต.ตรวจสอบ นักวิชาการตอก อนค.อย่าแถ กังขาจ้างล็อบบี้ยิสต์เกือบ 2 ล้านบาท แต่ยังไม่ได้พบ ส.ส.สหรัฐ แล้วจ้างทำไมถึง 6 เดือนหรือสิ้นปี ขู่มีหลักฐานเด็ดหนาวแน่!  

     เมื่อวันที่ 26 กันยายน เวลา 08.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ณ อาคารสำนักเลขาธิการ สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้พบหารือกับนายอันโตนิอู กุแตเรซ เลขาธิการสหประชาชาติ โดยนายกรัฐมนตรีชื่นชมบทบาทของเลขาธิการสหประชาชาติ ที่พยายามผลักดันการปฏิรูปองค์กรในด้านต่างๆ เพื่อพัฒนาการทำงานของสหประชาชาติให้มีประสิทธิภาพ และเกิดผลลัพธ์อย่างเป็นรูปธรรมเพื่อประโยชน์ของประชาชนในโลก 
    โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการพัฒนา การบริหารจัดการองค์กร ตลอดจนการเสริมสร้างสันติภาพและความมั่นคง ประเทศไทยพร้อมสนับสนุนการดำเนินนโยบายเพื่อการปฏิรูปดังกล่าว เพื่อช่วยเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันการพัฒนาสหประชาชาติ 
    ทั้งนี้ ไทยพร้อมมีบทบาทที่เข้มแข็งอย่างต่อเนื่องในประเด็นท้าทายที่ไทยให้ความสำคัญ อาทิ การพัฒนาที่ยั่งยืน การสาธารณสุข และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และพร้อมแสดงบทบาทในการเป็นสมาชิก Ecosoc ในปีหน้า 
     เลขาธิการสหประชาชาติขอบคุณบทบาทที่ชัดเจนของไทยในเวทีระหว่างประเทศ ทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลก ทั้งนี้ ชื่นชมไทยในฐานะประธานอาเซียนที่ได้ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมความยั่งยืนเช่นเดียวกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ
     นายกรัฐมนตรียืนยันแนวทางของไทยในการส่งเสริมให้อาเซียนเป็นประชาคมที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง และพร้อมขับเคลื่อนวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน 2573 (ค.ศ.2030) ซึ่งไทยมีแนวทางการดำเนินงานด้านการพัฒนาตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ทั้งนี้ นายกฯ ย้ำว่าการแก้ปัญหาในโลกไม่มีประเทศใดทำได้ลำพัง ต้องมีความร่วมมือกัน ไม่ใช่เพียงแต่ทวิภาคี แต่ต้องดำเนินการแบบไตรภาคีและพหุภาคีด้วย
    จากนั้นเวลา 12.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น นายกรัฐมนตรีและภริยา พร้อมด้วยคณะเดินทางออกจากท่าอากาศยานนานาชาติจอห์น เอฟ. เคนเนดี นครนิวยอร์ก เพื่อเดินทางกลับประเทศไทย และจะเดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิในวันศุกร์ที่ 27 ก.ย. เวลา 21.55 น.
    นายกฯ ได้ให้สัมภาษณ์ "วีโอเอไทย" ระหว่างการเดินทางเยือนสหรัฐซึ่งเป็นการเดินทางมาร่วมประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ หรือ UNGA ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 หลังจากเคยมาร่วมประชุมครั้งที่แล้วเมื่อปี ค.ศ.2015 ในฐานะหัวหน้า คสช. ซึ่งนายกฯ กล่าวถึงความแตกต่างของการเดินทางมาประชุมยูเอ็นทั้งสองครั้งนี้ว่า
    "การมาทุกครั้งของผมไม่เห็นความแตกต่าง ไม่ว่าจะมาในฐานะไหนก็ตาม จะเห็นได้ว่าครั้งก่อนผมมีโอกาสได้พบท่านประธานาธิบดีทรัมป์ ก็ได้รับเกียรติหลายอย่างด้วยกัน ซึ่งผมคิดว่าเป็นสิ่งที่น่าภูมิใจ ไม่ใช่เฉพาะแต่ตัวผม แต่ภูมิใจแทนประเทศไทย ซึ่งในครั้งนี้ก็ได้เจอผู้นำประเทศต่างๆ อีก 197 ประเทศ ทุกคนก็ตอบรับผมเป็นอย่างดี" 
มีหลักฐานเบื้องหลังจ้างม็อบ
    นายกฯ ยังได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับป้ายรณรงค์เพื่อประชาธิปไตยและต่อต้านรัฐบาลไทย ที่ติดไว้หน้าทางเข้ายูเอ็น รวมทั้งการประท้วงของกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งบริเวณหน้าโรงแรมที่พักของคณะเจ้าหน้าที่ไทยด้วย
    "ผมไม่สนใจเรื่องการประท้วง ถ้ามีการประท้วงแสดงว่าผมทำได้ดี ถ้าผมทำไม่ดีเขาก็คงเฉยๆ เขาก็ปล่อยให้ผมตายไป... แสดงว่าผมต้องทำอะไรดีเขาถึงมาประท้วง แล้วไปดูสิว่าคนประท้วงคนไทยรึเปล่า มาจากไหนยังไม่รู้เลย ประเทศไทยอยู่ตรงไหนก็ไม่รู้... ต้องไปว่าคนอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ ผมมีหลักฐานหมด แต่ผมไม่สนใจ จริงๆ มีคนรายงานแล้วว่ามาที่นี่ต้องเจอแบบนี้ แต่ผมไม่กลัว" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
    พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ในรายการ Government Weekly ถ่ายทอดสดทางเพจไทยคู่ฟ้าของรัฐบาล โดยเป็นเทปบันทึกภาพที่นครนิวยอร์กว่า การเดินทางมาเข้าร่วมประชุมครั้งนี้ประสบผลสำเร็จ และไม่เหนื่อย เพราะเป็นการเดินทางมาทำงานเพื่อส่วนรวม เพื่อประเทศไทยของทุกคน นายกฯ เหนื่อยไม่ได้ ก็พยายามหาเวลาพักผ่อน ยอมรับว่าคิดถึงเมืองไทย เพราะเราเป็นคนไทย ไม่คิดถึงประเทศไทยได้อย่างไร 
    ในช่วงท้าย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า วันนี้เราต้องมีการสร้างการรับรู้ใหม่ๆ ไม่ใช่จะให้นายกฯ ไปยืนพูดตัวแข็งเหมือนเมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา คงใช้ไม่ได้แล้ว คงจะต้องใช้ในลักษณะการพูดผ่านโซเชียลมีเดีย หรือเวลาไปต่างประเทศก็จะมีการสรุปผลสำเร็จการเดินทางผ่านเพจไทยคู่ฟ้า ซึ่งปัจจุบันต่างประเทศก็ใช้กันหมดแล้ว 
    “แต่ต้องยอมรับว่าคนถ้าไม่ชอบนายกฯ ทำอย่างไรก็ไม่ชอบ พูดดีก็โดนอยู่ดี แต่ผมต้องการสร้างการรับรู้กับคนที่เข้าใจ คนที่รักประเทศไทย และอยากให้ประเทศไทยก้าวหน้าไปในทางที่ดี รัฐธรรมนูญก็คือรัฐธรรมนูญ เรามีกฎหมายลูกเยอะแยะไปหมด จึงอยากให้ทุกคนไปสนใจที่กฎหมายลูก เพราะเป็นกฎหมายในเชิงปฏิบัติ กฎหมายใหญ่เป็นกรอบในการทำงาน ซึ่งมีความสำคัญในทุกฉบับ” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
    เมื่อถามว่า นายกฯ ยังมีกำลังใจในการทำงานอยู่ใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอย่างอารมณ์ดีว่า “ยังมีกำลังใจดี โธ่! มีเกินร้อย มีกำลังใจจากคนไทย” 
    ขณะที่ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้หารือทวิภาคีกับนายนาสเซอร์ โบริตา รัฐมนตรีต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศโมร็อกโก และหารือทวิภาคีกับนายปีเตอร์ ชาร์ลส์ เดวิด รัฐมนตรีต่างประเทศและรัฐมนตรีแรงงานของประเทศเกรเนดา ในระหว่างเดินทางมาร่วมประชุมสมัชชาสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก 
     โดย น.ส.บุษฎี สันติพิทักษ์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยถึงผลการหารือทวิภาคีกับทั้ง 2 ประเทศว่า ทั้ง 2 ฝ่ายต้องการเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกันให้มากขึ้น และไม่ได้มีใครสอบถามกรณีที่มีกลุ่มคนมาเคลื่อนไหวประท้วงนายกรัฐมนตรี และไม่ได้มีใครสอบถามถึงสถานการณ์การเมืองในไทย เนื่องจากทุกคนได้รับทราบว่าการเลือกตั้งได้ผ่านพ้นไปด้วยดี 
จ้างล็อบบี้ยิสต์ไว้ประสานงาน
    สำหรับความเคลื่อนไหวในประเทศไทยภายหลังมีการเผยแพร่เอกสารการว่าจ้างระหว่างนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) กับบริษัท APCO Worldwide LLC ในประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นบริษัทล็อบบี้ยิสต์ ทำให้เกิดข้อวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ เฟซบุ๊กพรรคอนาคตใหม่จึงได้โพสต์ข้อความชี้แจง ดังนี้ 1.เอกสารการว่าจ้างดังกล่าวไม่ได้เป็นเอกสาร “หลุด” อย่างที่สื่อบางสำนักกล่าวถึง แต่เป็นเอกสารที่ประเทศสหรัฐกำหนดให้ต้องเปิดเผยต่อสาธารณะอยู่แล้ว เพื่อแสดงความโปร่งใสของการทำงานที่เกี่ยวข้องกับการเมืองในระบอบประชาธิปไตย
    2.ธนาธรได้ว่าจ้างบริษัท APCO Worldwide LLC เพื่อทำหน้าที่อำนวยความสะดวกในการติดต่อประสานงานนัดหมายบุคคลและหน่วยงานต่างๆ จัดตารางงาน และจัดทำเอกสารข้อมูลภาษาอังกฤษสำหรับการเดินทางเยือนสหรัฐ ระหว่างวันที่ 12-16 กรกฎาคม ที่ผ่านมา เนื่องจากการนัดหมายบางส่วนจำเป็นต้องมีการลงทะเบียนเข้าพบ จึงต้องมีตัวแทนดำเนินการตามระบบกฎหมายของทางการสหรัฐ
    3.กิจกรรมและการเดินทางไปต่างประเทศของธนาธรไม่ได้ทำให้ประโยชน์ของประเทศชาติเสียหาย รวมทั้งไม่เกี่ยวข้องกับการสร้างสถานการณ์อื่นๆ อย่างที่บางแหล่งข่าวกล่าวหา แต่เป็นเพียงการเดินทางไปอธิบายแนวทางการทำงาน ให้ข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์ในประเทศไทย รวมทั้งเรียนรู้บทเรียนจากการดำเนินนโยบายในต่างประเทศต่างๆ ทั้งด้านเศรษฐกิจ การศึกษา เทคโนโลยี การคมนาคม การเงินการคลัง สิ่งแวดล้อม ฯลฯ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการนำมาพัฒนานโยบายในประเทศไทยต่อไป และการเดินทางไปพบกับบุคคลและองค์กรในประเทศต่างๆ หลายกรณีธนาธรได้รับการติดต่อเชิญไป บางกรณีเป็นการติดต่อเข้าพบ 
    "ซึ่งทั้งหมดไม่ใช่เรื่องผิดปกติใดๆ เพราะโดยทั่วไปนักการเมืองคนสำคัญก็มีโอกาสได้พูดคุยหารือกับนักการทูต นักการเมือง สื่อมวลชน องค์กรระหว่างประเทศ นักวิชาการ และองค์กรภาคประชาสังคมจากประเทศต่างๆ อยู่บ่อยครั้ง เพื่อสานความสัมพันธ์และสร้างเสริมความร่วมมือที่ดีต่อกัน" เฟซบุ๊กพรรค อนค.ระบุ
    ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ นัชชชา กองอุดม อดีตนักศึกษาและนักกิจกรรมทางการเมือง ชูป้ายประท้วง พล.อ.ประยุทธ์ ระหว่างเข้าร่วมการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ และขณะกำลังแสดงปาฐกถาในการประชุมเอเชียโซไซตี้ว่า เป็นการดิสเครดิตนายกฯ ซึ่งนายกฯ ก็ไม่มีอะไร ท่านพูดตอบไปได้ ถือว่าทุกอย่างเป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย ส่วนคนที่อยู่เบื้องหลังนั้นยังไม่ทราบ 
    เมื่อถามว่า เห็นเอกสารนายธนาธรจ้างบริษัทล็อบบี้ยิสต์ที่สหรัฐหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ตนเห็นแล้ว เมื่อถามย้ำว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่มีความเชื่อมโยงกัน พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ตนไม่รู้ ซึ่งก็ต้องไปตรวจสอบ
    ส่วนที่ตั้งข้อสังเกตว่ากลุ่มที่เคลื่อนไหวที่สหรัฐเป็นกลุ่มใหม่ที่อาจจะมาจากพรรคสีส้มหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า แล้วเขาชี้แจงว่าอย่างไร ก็ว่าไปตามนั้น ซึ่งนายกฯ ก็แก้ไขปัญหาได้ดี และสามารถพูดต่อไปได้
    ต่อมา ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตรให้สัมภาษณ์อีกครั้งกรณีมีการเผยแพร่เอกสารที่นายธนาธรว่าจ้างล็อบบี้ยิสต์สหรัฐอเมริกาเคลื่อนไหวทางการเมืองกับประเทศไทยว่า ก็ต้องตรวจสอบดู แต่เขาบอกว่าเขาจ้างล็อบบี้ยิสต์อย่างเดียว แต่ไม่ทำเรื่องนี้ เราก็ต้องสอบสวนดู
ขายประเทศได้ยังไง
    “เกี่ยวกับประเทศไทย ก็ต้องกระทบหมด คนไทยจะไปขายประเทศได้ยังไง” พล.อ.ประวิตรกล่าวเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าในด้านความมั่นคงจะกระทบอะไรหรือไม่
    เมื่อถามว่า เป็นช่วงเดียวกับที่นายกรัฐมนตรีปฏิบัติภารกิจอยู่ต่างประเทศ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “ใช่ ดูแล้วมันไม่ได้ มันไม่น่าจะทำอย่างนั้น แล้วคนที่มาก็ไม่ใช่คนไทย” ส่วนจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างไรนั้น ตนยังไม่รู้ต้องให้นักกฎหมายเขาดูก่อน ส่วนจะมีความเชื่อมโยงกับเอกสารโครงข่ายขบวนการทำลายประเทศหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า อันนั้นไม่เกี่ยวกัน แต่ฝ่ายความมั่นคงก็ต้องติดตามต่อไป
    ด้าน น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวตอบโต้คำชี้แจงของพรรค อนค. ว่าสังคมยังคงมีข้อสงสัยกับการว่าจ้างดังกล่าว โดยสนใจไม่ใช่ว่าเอกสารการว่าจ้างเป็นเอกสารหลุดหรือไม่ ที่ชี้แจงว่าเพื่อทำหน้าที่อำนวยความสะดวกในการติดต่อประสานงานนัดหมายบุคคลและหน่วยงานต่างๆ ระหว่างวันที่ 12-16 ก.ค.ที่ผ่านมานั้น ยังคงเป็นการชี้แจงที่ไม่ครบถ้วน เพราะกรอบเวลาจ้างคือ 6 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.2562-31 ธ.ค.2562 โดยมีค่าธรรมเนียมรายเดือน เดือนละ 10,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 310,000 บาทต่อเดือน) ระยะเวลา 6 เดือน คิดเป็นเงิน 1,860,000 บาท หากเป็นการจ้างเฉพาะการดำเนินงานในช่วงเวลา 4-5 วัน ถือเป็นค่าใช้จ่ายที่สูงเกินเหตุ ยิ่งโดยเฉพาะกับพรรคการเมืองที่ยังมีปัญหาการหาเงินมาคืนเงินกู้ยืม
    "พรรคควรชี้แจงต่อประชาชนเพิ่มเติมว่ากิจกรรมในเดือน ส.ค. และ ก.ย. ของการว่าจ้างนี้มีกิจกรรมทางการเมืองใดๆ อีกบ้าง และทางพรรคอนาคตใหม่ควรมีหลักฐานมายืนยันว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในเหตุการณ์ต่างๆ เช่น การเช่าป้ายและจัดตั้งกลุ่มเคลื่อนไหวต่างชาติให้ร้ายแก่ประเทศชาติในระหว่างที่นายกฯ เดินทางไปสหรัฐ ตามที่มีผู้ตั้งข้อสงสัยมากมาย และชี้แจงข้อมูลให้ชัดเจนว่าประเทศชาติได้ประโยชน์อย่างไรจากกิจกรรมดังกล่าว เพราะสังคมวิพากษ์วิจารณ์กันว่าเนื้อหาสาระในการให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างประเทศของนายธนาธรในช่วงเดือน ก.ค.นั้น ไม่มีคุณประโยชน์ต่อประเทศชาติ ในบางประเด็นยังหมิ่นเหม่ว่าเป็นการปลุกระดมเรียกร้องให้ต่างชาติเข้ามาแทรกแซงการเมืองของประเทศอีกด้วย” น.ส.ทิพานันกล่าว
    รองโฆษก พปชร.กล่าวอีกว่า การว่าจ้างดังกล่าวทำในนามส่วนตัวของนายธนาธรเองจริงหรือไม่ หรือทำในนามพรรค โดยมีนายธนาธรที่เป็นหัวหน้าพรรคเป็นตัวแทนของพรรคในการว่าจ้างนี้ อยากให้นายธนาธรและพรรคอนาคตใหม่ในฐานะผู้ว่าจ้างที่ทราบรายละเอียดกิจกรรมเนื้อหาที่ว่าจ้างเป็นอย่างดี พิจารณาว่ากิจกรรมทางการเมืองต่างๆ ที่ได้ว่าจ้างนั้นเข้าข่ายผิดพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2561 มาตรา 45 “ห้ามมิให้พรรคการเมืองหรือผู้ดำรงตำแหน่งในพรรคการเมืองกระทำการหรือส่งเสริม สนับสนุนให้ผู้ใดกระทำการอันเป็นการก่อกวนหรือคุกคามความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน” หรือไม่ เพราะหากเป็นเช่นนั้นอาจมีโทษถึงถูกยุบพรรค ตามมาตรา 92 (3) 
     นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ให้สัมภาษณ์ว่า ในวันที่นายธนาธรเดินทางไปสหรัฐนั้นมีสถานะเป็นหัวหน้าพรรคการเมือง ดังนั้นเมื่อมีแถลงการณ์ในนามพรรคออกมาแบบนี้ ก็เท่ากับพรรคยอมรับว่าไปจ้างทำจริง ซึ่งในไทยไม่มีบริษัทล็อบบี้ยิสต์แบบนี้ เพราะถือว่าผิดกฎหมาย ทำไมถึงต้องจ้างเป็นเวลาถึง 6 เดือน และการว่าจ้างถึง 1.8 ล้านบาทนั้นหากจ้างทำเพียงแค่กิจกรรมเดียวนั้นคงเป็นไปไม่ได้ อีกทั้งจ้างเพียงครั้งเดียวก็จบแล้ว ไม่เห็นจำเป็นต้องเซ็นสัญญาจ้างถึง 6 เดือนด้วย
    "ผมไม่ขอสรุปว่าเรื่องนี้จริงหรือจะเข้าข่ายผิด พ.ร.บ.พรรคการเมืองหรือไม่ เพราะ กกต.จะต้องเป็นผู้ไต่สวนสอบสวน เนื่องจากมีหน้าที่โดยตรงโดยที่ไม่จำเป็นต้องมีผู้ร้อง โดย กกต.ต้องเรียกพรรคอนาคตใหม่มาอธิบายให้ละเอียด เพื่อที่สังคมจะได้หายเคลือบแคลง เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องยากที่จะหาเอกสาร ในเว็บไซต์ของบริษัท ล็อบบี้ยิสต์ก็ต้องมีการเปิดเผยตามกฎหมายของสหรัฐอยู่แล้ว หรือแค่เพียงส่งเอกสารไปถามไม่จำเป็นต้องบินไปถึงสหรัฐก็ยังได้" นายสมชายกล่าว 
ข้องใจจ้างทำไมถึงสิ้นปี
    ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ  หรือ ดร.นิว นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และคณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas สหรัฐโพสต์เฟซบุ๊กเรื่องดังกล่าว ในหัวข้ออย่าแถเลยว่า พรรคอนาคตใหม่ขนาดจ้างบริษัทล็อบบี้ยิสต์ชื่อดังระดับโลกอย่าง APCO worldwide LLC แล้วยังไม่ได้พบท่าน ส.ส.เดวิด ไพร์ส เลย แล้วจะจ้างทำเพื่อ? ซึ่งสัญญาจ้างตั้งแต่ 1 ก.ค.-31 ธ.ค.62 มูลค่า 10,000 ดอลลาร์ จำนวน 6 เดือนเท่ากับ 60,000 ดอลลาร์ หรือเกือบ 2 ล้านบาท แต่ความจริงเงินก้อนนี้เป็นเพียงแค่ค่าดำเนินการเท่านั้น ไม่ได้รวมค่าบริการจำนวนมหาศาลที่ไม่ได้แจ้งไว้นะครับ
    “การพบนักการเมืองอเมริกา ถ้าไม่ใช่ระดับสูงมากๆ เช่น ประธานาธิบดี หรือตำแหน่งใกล้เคียง จะสามารถพบได้ไม่ยาก และท่าน ส.ส.ท่านนี้ก็สามารถทำนัดแบบออนไลน์ได้ที่เว็บไซต์ของท่าน แล้วจะจ้างบริษัทล็อบบี้ทำเพื่อ? อีกอย่างนายธนาธรเองก็ได้ลงทวิตเตอร์อวดเองนะว่านักการเมืองอเมริกาพบง่าย จะเดินไปห้องไหนก็ได้ ไม่มีการตรวจบัตร นี่แสดงถึงความเป็นมิตรว่า ส.ส.ไม่ได้อยู่เหนือประชาชน แล้วจะจ้างบริษัทล็อบบี้ทำเพื่ออะไร พวกคุณจะแถ จะโป๊ะแตก จะย้อนแย้งกันเองไปถึงไหน และคนที่งมงายในตัวนายธนาธรจะมืดบอดไปอีกนานเท่าไหร่”
    ดร.ศุภณัฐโพสต์ต่อว่า ได้ติดต่อไปยังทีมงานของท่าน ส.ส.เดวิด ไพร์ส เพื่อสอบถามการเข้าพบของนายธนาธรตั้งนานแล้ว ได้รับอีเมลตอบกลับจากผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ของ ส.ส.ตั้งแต่วันที่ 22 ก.ค.2562 ว่านายธนาธรได้พบแค่ทีมงานคนหนึ่งเท่านั้น ส.ส.ไม่ได้มาร่วมเข้าพบด้วยแล้วจะจ้างบริษัทล็อบบี้ทำเพื่ออะไร และเขายังตอบมาอีกว่าในแต่ละปีก็มีบุคคลมากมายในแวดวงการเมืองจากทั่วโลกมาขอเข้าพบท่าน ส.ส.เป็นเรื่องปกติมากๆ สรุปคือที่สร้างภาพว่าฝรั่งให้ความสำคัญอยากเชิญเข้าพบ แต่จริงๆ คืออะไร แล้วต้องเสียเงินจ้างล็อบบี้ยิสต์ไม่รู้ตั้งกี่ล้านไปเพื่ออะไร
    "สรุปแล้วจะจ้างบริษัทล็อบบี้ทำเพื่ออะไร เหตุผลที่แท้จริงที่จ้างบริษัทล็อบบี้คืออะไรกันแน่ ยังมีกิจกรรมอะไรซ่อนเร้นอีกรึเปล่า” ดร.ศุภณัฐระบุ
    ด้าน ดร.กิตติธัช ชัยประสิทธิ์ นักวิชาการอิสระ และอาจารย์ด้านสถาปัตยกรรม โพสต์เฟซบุ๊กว่า เดินทางแค่ 4 วัน แต่จ้างไว้ 6 เดือน แถมจ้างไว้หลังเดินทางกลับมาแล้ว ซึ่งนายธนาธรชี้แจงเอกสารการว่าจ้างบริษัทล็อบบี้ยิสต์ในอเมริกาว่าเป็นเพียงการว่าจ้างเพื่อประสานงานความเรียบร้อยระหว่างเดินทางไปอเมริกาวันที่ 12-16 ก.ค.2562 แต่เอกสารกลับระบุว่ามีการว่าจ้างด้วยเงินเดือนละ 1 หมื่นดอลลาร์ ลากยาวต่อมาถึง 6 เดือน คือตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.-31 ธ.ค.2562 คำถามคือ ถ้าจ้างแค่เพื่อประสานงานพบฝ่ายต่างๆ ระหว่างที่นายธนาธรและทีมงานเดินทางไปอเมริกาเพียงแค่ 4 วัน ทำไมต้องจ้างต่อถึง 6 เดือน
     นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการเตรียมยื่นสอบจริยธรรม พล.อ.ประยุทธ์ ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่า 7 พรรคฝ่ายค้านได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดูประเด็นข้อกฎหมายและร่างคำร้องโดยมีนายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นประธาน จะมีการประชุมในวันอังคารที่ 1 ต.ค.นี้ คาดว่าจะยื่นได้ช่วงปลายสัปดาห์ กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญเคยมีคำสั่งว่า เรื่องการถวายสัตย์ปฏิญาณไม่อยู่ในอำนาจการพิจารณาขอององค์กรใดภายใต้รัฐธรรมนูญ ทำให้เราอาจพิจารณายื่นคำร้อง มากกว่าหนึ่งคำร้อง
     "โดยคำร้องแรกจะเป็นเรื่องของการถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบ และอีกคำร้องจะพูดถึงกรณีอื่น เช่น เรื่องการแต่งตั้งบุคคลที่มีปัญหาเข้ามาทำหน้าที่ในรัฐบาล การไม่ลงรายละเอียดที่มาของงบประมาณในการแถลงนโยบาย ซึ่ง ป.ป.ช.ไม่มีข้อจำกัดเรื่องการยื่นคำร้อง เราจึงเตรียมไว้หลายประตู หากว่าประตูนี้ไม่ได้ ก็จะไปอีกประตูหนึ่ง ทั้งนี้ ที่เราต้องการยื่นเรื่องจริยธรรม เพราะรัฐธรรมนูญปี 60 ให้ความสำคัญในเรื่องนี้มาก ถ้าทุกคนปฏิบัติตามจริยธรรม จะมีผลที่ดีต่อการเมือง" นายวันมูหะมัดนอร์กล่าว. 
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"