เลือกตั้งซ่อมเพื่ออยู่รอด!


เพิ่มเพื่อน    

   จับตาอย่ากะพริบ!
    เพราะการเลือกตั้งซ่อมเขต ๕ จังหวัดนครปฐม มีความหมายมากกว่าเลือกตั้ง ส.ส.เขต เพราะเป็นการกินแดนระหว่างฝ่ายค้านกับรัฐบาล 
    ทุกๆ ๑ เสียง สำหรับทั้ง ๒ ฝ่าย มีความหมายทั้งในแง่การรักษาอำนาจไว้ในมือ และการเปลี่ยนขั้วอำนาจ ซึ่งอาจหมายถึงเปลี่ยนรัฐบาล 
    ฝ่ายค้านถูกบีบให้เดินเกมรักษาเก้าอี้เดิมเอาไว้ให้ได้    
    นั่นทำให้พรรคเพื่อไทย ไม่ส่งคนลงสมัครรับเลือกตั้ง
    เพื่อไม่ตัดคะแนนกับผู้สมัครจากพรรคอนาคตใหม่
    การเลือกตั้งวันที่ ๒๔ มีนาคม เขตเลือกตั้งนี้เดิมทีพรรคไทยรักษาชาติ จากการแตกแบงก์พันได้รับมอบหมายจากระบอบทักษิณ ให้ส่งคนลงสมัคร ส.ส. โดยที่พรรคเพื่อไทยไม่ส่ง เพื่อไม่ให้ตัดคะแนนกันเอง
    เมื่อไทยรักษาชาติถูกยุบ คะแนนจึงไหลไปรวมกับอนาคตใหม่
    เขต ๕ นครปฐมจึงกลายเป็นพื้นที่ของพรรคอนาคตใหม่ 
    ไปดูผลการเลือกตั้งเมื่อวันที่ ๒๔ มีนาคมกันหน่อย เพราะสามารถอธิบายหลายเรื่องที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ 
    ๑.จุมพิตา จันทรขจร พรรคอนาคตใหม่ ๓๔,๑๖๔ คะแนน
    ๒.สุรชัย อนุตธโต พรรคประชาธิปัตย์ ๑๘,๙๗๐ คะแนน
    ๓.ระวัง เนตรโพธิ์แก้ว พรรคพลังประชารัฐ ๑๘,๗๔๑ คะแนน
    สาเหตุที่พรรคเพื่อไทยไม่ส่งคนลงสมัคร ส.ส. ก็ชัดเจนว่า หากไปตัดคะแนนกันเองกับพรรคอนาคตใหม่ อาจทำให้ฝ่ายค้านเสียที่นั่ง เขต ๕ นครปฐมไปให้ฝั่งพรรคร่วมรัฐบาล
    ทำให้รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำมี ส.ส.เขตเพิ่มขึ้นอีก ๑ คน
    และอาจทำให้ได้ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์เพิ่มมาอีก ๑ เก้าอี้ 
    แม้จะได้มาจากการเสียที่นั่งของพรรคเล็ก ซึ่งมิได้ทำให้เสียงของรัฐบาลเปลี่ยนไป แต่การได้ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์เพิ่มมาอีก ๑ เก้าอี้ในพรรคใหญ่ มันเป็นเสถียรภาพที่เพิ่มขึ้น ไม่ต้องบริหารจัดการกับพรรคเล็ก
    แล้วฝั่งรัฐบาลเดินเกมอย่างไร?
    ค่อนข้างชัดเจนแล้วว่าพรรคพลังประชารัฐจะไม่ส่งคนลงสมัครตัดคะแนนกับพรรคประชาธิปัตย์ 
    ฉะนั้นเมื่อคิดจากฐานเลือกตั้งวันที่ ๒๔ มีนาคม พบว่า ๒ พรรคนี้รวมกันได้ ๓๗,๗๑๑ คะแนน
    ชนะพรรคอนาคตใหม่ไปอย่างคู่คี่ 
    แต่..ในทางการเมือง วางใจไม่ได้ โอกาสแพ้ ชนะ มีเท่ากัน
    พรรคประชาธิปัตย์จึงคาดหวังว่า พรรคชาติไทยพัฒนา จะไม่ส่งคนลงสมัคร
    เพราะหากพรรคชาติไทยพัฒนาหลีกทาง ๑๒,๒๗๙ คะแนน จาก "เผดิมชัย สะสมทรัพย์" จะถูกโยกไปช่วยพรรคประชาธิปัตย์ 
     รวมแล้วได้ถึง ๔๙,๙๙๐ คะแนน ถือว่าชนะพรรคอนาคตใหม่ขาด 
    แต่..."วราวุธ ศิลปอาชา" เซย์โน! ไม่หลีกทางให้ใคร 
    "เผดิมชัย สะสมทรัพย์" ขอล้างตา 
    การเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ คือการเลือกตั้งแบบยุทธศาสตร์ มีเสถียรภาพเป็นเดิมพัน แม้ฝ่ายรัฐบาลจะแพ้ในเขตเลือกนี้ ยังถือว่าเสมอตัว และอาจจะมีเลือกตั้งซ่อม สมุทรปราการ, กำแพงเพชร, นครราชสีมา ตามมา 
    หากพรรคร่วมรัฐบาล คิดแค่เรื่องล้างตา โดยไม่สนใจเสถียรภาพรัฐบาล เกิดแพ้รูดทุกจังหวัด เสียงส.ส.อาจหายเป็นสิบเสียง จาก ส.ส.เขต และการคำนวณ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ใหม่
    ถึงวันนั้นเลวร้ายสุดอาจถึงขั้นต้องเปลี่ยนรัฐบาลกันเลยทีเดียว.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"