หลั่นล้า-โพลิติก


เพิ่มเพื่อน    

 เห็นว่าช่วงกลางๆ เดือนตุลาฯ ที่ใกล้จะถึงในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า...ก็น่าจะได้เวลาที่รัฐบาลท่านจะเข็น พ.ร.บ.งบประมาณ มูลค่า 3.2 ล้านล้านบาท เข้าไปฝ่าดงมือ ดงตีน ของบรรดา ส.ส.ในสภาผู้แทนราษฎร กันตามกำหนดการ ซึ่งดูๆ แล้ว...ก็คงไม่ถึงกับเป็นอะไรที่น่าห่วง น่ากังวล มากมายซักเท่าไหร่นัก แม้ว่าอาการ ปริ่มน้ำ ของรัฐบาล ก็ยังคงปริ่มๆ อยู่เหมียนเดิมม์ม์ม์...

                                                               ------------------------------------------------

                คือเรื่องของการอนุมัติเงินๆ-ทองๆ...มาใช้จำหน่าย จ่ายแจก ไปตามกระบวนการบริหารราชการแผ่นดินนั้น ก็คงต้องถือเป็นเรื่องของชาติ บ้านเมือง เป็น ผลประโยชน์ส่วนรวม อย่างมิอาจปฏิเสธได้ ไม่ว่ารัฐบาลท่านจะเอาไปแจกแบบ ชิม-ช้อป-ใช้ หรือแบบ ช็อก-(อีลุ่ย) ฉุย-แฉก เพียงใดก็แล้วแต่ แต่การ ผ่าน-ไม่ผ่าน พ.ร.บ.งบประมาณนั้น มันอาจไม่ได้เกี่ยวอยู่แต่เฉพาะการเอาแพ้-เอาชนะ ระหว่างรัฐบาลกับฝ่ายค้านล้วนๆ แต่ยังเกี่ยวกับบรรยากาศความเป็นไปทางเศรษฐกิจ เกี่ยวกับชีวิตความเป็นอยู่ของบรรดาข้าราชการ ไปจนถึงการขยับเขยื้อนเคลื่อนไหว การ เดินหน้าประเทศไทย ว่ามันจะเป็นไปแบบลื่นไหล หรือแบบติดๆ ขัดๆ ด้วยเหตุเพราะเกียร์ค้าง หรือเกียร์ว่าง ก็ตามแต่...

                                                               ----------------------------------------------------

                สำหรับ เสียง ของฝ่ายรัฐบาล...ซึ่งน่าจะมีอยู่ราวๆ  248 เสียงในสภาผู้แทนราษฎร หลังจากหักประธานสภาฯ  และรองประธานไปเรียบร้อยแล้ว หักเสียง ส.ส.ที่ใกล้เข้าคุก ที่ใกล้เลือกตั้งซ่อม ไปจนฝ่ายรัฐบาลอิสระ หรือฝ่ายค้านอิสระ ก็แล้วแต่จะเรียก ไปอีก 2 พระหน่อ เมื่อต้องเจอกับเสียงของฝ่ายค้านจำนวนถึง 245 เสียง หักที่ติดคุกไปแล้ว ที่รอ บลายด์ทรัสต์-ไม่บลายด์ทรัสต์ ไปจนถึงที่ต้องเลือกตั้งซ่อม ลักษณะอาการแบบ ปริ่มน้ำ หรือน้ำใกล้ๆไหลเข้ารูตะหมูก ก็น่าจะเป็นอะไรที่ชัดเจนพอสมควร เพราะมันห่างกันแค่ประมาณ 3 เสียงเท่านั้นเอง...

                                                              -------------------------------------------------------

                คือถ้าเผอิญฝ่ายรัฐบาล...ดันลุกไป ขี้ หรือไป เยี่ยว  ซักแค่ 3 ราย 4 รายเท่านั้นเอง ในระหว่างลงมติผ่าน-ไม่ผ่านงบประมาณ โอกาสที่ ไม้จิ้มฟันแทงเหงือก-ดันเสือกตาย ย่อมมีโอกาสเป็นไปได้ไม่ยากซ์ซ์ซ์ เผลอๆ...อาจต้องต่อสายยาง แจกถุงเยี่ยว ถุงขี้ แจกส้วมอัตโนมัติ ให้กับบรรดา ส.ส.ประเภทที่ช้ำรั่วเอาไว้ก่อนล่วงหน้า เพื่อให้ห้ามลุก ห้ามขยับตูด ขยับไข่ โดยเด็ดขาด ไม่งั้นมีสิทธิ์ เสร็จฝ่ายค้าน เอาง่ายๆ แต่ก็อย่างว่านั่นแหละ...ฝนจะตก-แดดจะออก-คนจะคลอดลูก จะไปควบคุม บงการ ให้ต้อง ขมิบเพื่อชาติ กันไปตลอด ยังไงๆ...ก็น่าจะลำบากมิใช่น้อย...

                                                              --------------------------------------------------------

                แต่ก็ด้วยฝีไม้-ลายมือ ด้วยขีดความสามารถอันลื่นไหล ของผู้ซึ่งเคยถูก กันตัวไว้เป็นพยาน ในคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศโน่นเลย อย่าง ผู้กองมนัส  หรือ ธรรมนัส ก็คงพอเบาใจได้บ้างว่า ฝ่ายรัฐบาลน่าจะเยี่ยว น่าจะขี้ ได้โดยปกติ เนื่องจากอาจมี ส.ส.ของฝ่ายค้าน ถึง 10 พระหน่อ หรือ 14 พระหน่อ ก็แล้วแต่จะประมาณการ พร้อมแล้วที่จะ ดูดเพื่อชาติ พร้อมจะถูก อมเพื่อส่วนรวม พร้อมที่จะหลับตาพริ้ม เปิดโอกาสให้รูดซิป ควักโน่น ควักนี่ แต่โดยดี...

                                                                 ---------------------------------------------------------

                อันนี้....เลยก็ต้องถือว่า ถือเป็นลักษณะพิเศษของ การเมืองแบบไทยๆ หรือ ประชาธิปไตยแบบไทยๆ ที่คงไม่ต้องเสียเวลาไปคิดมาก หรือคิดเล็ก-คิดน้อย โดยใช่เหตุ เพราะไม่ว่าจะพรรคไหนต่อพรรคไหน จะฝ่ายค้าน หรือฝ่ายรัฐบาล สุดท้าย...ก็ล้วนแล้วเป็นเพื่อน-พ้อง-น้อง-พี่ ไปด้วยกันทั้งสิ้น ซึ่งก็คงต้อง มึงมั่ง-กูมั่ง ไปตามลักษณะพิเศษแบบไทยๆ ชนิดอาจต้องถือเป็น หลั่นล้า-โพลิติก ที่แทบไม่ต่างอะไรไปจาก หลั่นล้า-อีคอนอมิก ของอาจารย์ เอนก เหล่าธรรมทัศน์ อะไรประมาณนั้น คือไม่ถึงกับต้องห้ำหั่น ต้องกระทืบให้ตายกันไปข้าง...

                                                                 ----------------------------------------------------------

                แต่บรรดาความ หลั่นล้า เหล่านี้...คงต้องยอมรับเอาจริงๆ นั่นแหละว่า มันออกจะเป็นอะไรที่ไม่ค่อยเข้ากับลักษณะพิเศษของประดา คนรุ่นใหม่ ทั้งหลาย ที่ถ้าหากลองเป็น ฝ่ายตรงข้าม หรือ ฝ่ายมึง-ฝ่ายกู ขึ้นมาเมื่อไหร่ โอกาสจะถูกจับกรอก มอมเหล้า ล่วงละเมิดทางเพศ ไปจนถึงหั่นศพออกเป็นชิ้นๆ ฯลฯ ย่อมมีความเป็นไปได้เสมอๆ เพราะสายใยแห่งความเป็นพี่-เป็นน้อง เป็นลุง-ป้า-น้า-อา มันออกจะเป็นอะไรที่ เชยซ์ซ์ซ์ เอามากๆ สำหรับทัศนคติ และค่านิยม ของคนรุ่นใหม่ทั้งหลาย แม้แต่สายใยแห่งความเป็นชาติ ความผูกพันของผู้ซึ่งเกิดและเติบโตในแผ่นดินเดียวกัน ก็แทบไม่มีค่า ไม่มีราคา มากมายซักเท่าไหร่ ไม่งั้น...บรรดา กะปอมฮ่องกง เขาคงไม่ถือธงชาติอังกฤษ ธงชาติอเมริกา โบกสะบัดระหว่างประท้วงโคตรพ่อ โคตรแม่ ชาวจีนแผ่นดินใหญ่ อย่างที่เห็นๆ เป็นตัวอย่างอยู่ในทุกวันนี้ เรียกว่า...เขาไปไกลถึงระดับ มนุษย์สากล ไปแล้วก็ว่าได้ มันถึงได้เกิด แดงเปรู แดงบราซิล หรือ แดงลาตินอเมริกา โผล่ขึ้นมาหน้าที่ทำการสหประชาชาติ เพื่อประท้วงนายกรัฐมนตรีประเทศไทยกันเห็นๆ...

                                                                 ----------------------------------------------------------

                อย่างไรก็ตาม...ก็ยังต้องถือเป็น โชคดี ของประเทศไทย ที่บรรดา คนรุ่นใหม่ เหล่านี้ เขายังไม่โตพอ ไม่รอบจัด ไม่ถึงกับเสริมเขี้ยว เสริมงา เสริมกรงเล็บ ให้น่าสยดสยองยิ่งไปกว่านี้ อย่างมาก...ก็แค่สร้างความเปรี้ยวมือ เปรี้ยวเท้า ให้ส้นตีนพอได้กระตุกไปเป็นระยะๆ เพราะฉะนั้น...ก็อย่าถึงกับต้องไปโกรธ ไปเกลียด อะไรเขามากมายจนเกินไป แม้จะผิดแผก แตกต่าง ในทางทัศนคติ ทางอายุ-อานาม เพียงใดก็เถอะ ถือซะว่า เป็น หลั่นล้า-โพลิติก ไปพลางๆ ก็แล้วกัน...

                                                                 -------------------------------------------------------------

                ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Anon... To be angry with a weak man is proof that you are not very strong yourself.- การโกรธบุคคลที่อ่อนแอกว่า คือบทพิสูจน์ว่าท่านเองหาใช่บุคคลที่เข้มแข็งไม่...

                                                                  ------------------------------------------------------------ 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"