'บิ๊กตู่'มอบนโยบายสภาเกษตรกรแห่งชาติ แหย่'ประพัฒน์'ไอ้ก้านยาว14 ตุลาทำกลับบ้านไม่ได้


เพิ่มเพื่อน    

3 ต.ค 62 -  เมื่อเวลา 14.10 น. ที่ห้องมิราเคิล แกรนด์ บอลรูม เอ ชั้น 4 โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานพิธีมอบนโยบายแก่สภาเกษตรกรแห่งชาติ

โดยพล.อ.ประยุทธ์  กล่าวช่วงหนึ่งว่า วันนี้อาชีพเกษตรกรรมจะต้องมีการจัดระเบียบให้ดี ขอฝากคุณประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ  ด้วย และคณะกรรมการทุกคน ช่วยกันทำความเข้าใจง่ายๆ ให้เกษตรกร ซึ่งบางทีตนอาจจะพูดเยอะ และบางทีก็ฟังไม่ทันบ้าง ก็อย่าว่าตน ต้องขอโทษด้วยแล้วกัน เพราะตนต้องคิดเร็ว ทำให้บางทีพูดเร็วไป บางทีอาจจะเข้าใจยาก และมีหลายคนไม่อยากจะเข้าใจ ไม่รู้เป็นใคร เวลาลุงตู่พูดไม่เข้าใจ แปลกดี แต่ตนคิดว่าพวกเรามาด้วยกัน และเดินมาด้วยกันตลอด5ปีที่ผ่านมา และปีนี้เป็นการเริ่มต้นรัฐบาลเลือกตั้ง มีหลายอย่างที่เปลี่ยนแปลงไป ตนก็ต้องปรับตัวเหมือนกัน และตนก็ยังไม่มีปัญหาอะไรทั้งสิ้น ยังสามารถทำงานได้อยู่ และตนจะให้แนวทางสนับสนุนการทำงานกับพวกท่าน ซึ่งขณะนี้สภาเกษตรกรฯ ก็อยู่ในการขับเคลื่อนของนายกฯ อยู่แล้ว

นายกฯ กล่าวว่า หลังจากได้คุยกันคงไม่ใช่เรื่องเงินเรื่องทองอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องของแผนงานโครงการต่างๆ สิ่งสำคัญสุดคือ พวกท่านจะเป็นกลไกกลางให้ตนในการสร้างความเข้าใจระหว่างรัฐบาลกับเกษตรกร ถ้าไม่มีกลไกนี้จะไปไม่ได้ แม้มีงบลงไปก็ทำไม่ได้

"วันนี้สิ่งที่รัฐบาลกำลังทำคือ การตัดเสื้อเฉพาะตัวให้เกษตรกรแต่ละชนิด ทำการตลาดให้แต่ละชนิด ส่งเสริม สร้างมาตรการให้แต่ละชนิด แต่ละประเภท มันถึงจะโตไปพร้อมๆ กัน ทำให้ดีมาน ซัพพลายสอดคล้องกัน จะต้องตัดเสื้อให้ตรงตัว เพื่อใช้งบประมาณน้อยลง ใช้ผ้าให้น้อยลง จะได้เกิดประโยชน์สูงสุด ฉะนั้น วงจรภาคเกษตร พี่น้องเกษตรกรคือฐานราก รากแก้ว ผมไม่ได้ดูถูก ใครจะไปเรียกท่านอย่างอื่น ผมไม่เคยเรียก ท่านคือรากแก้วของแผ่นดิน ที่ยึดแผ่นดินของเราไว้จนทุกวันนี้ เกษตรกรทั้งนั้น ดังนั้นท่านคือคนส่วนใหญ่ที่อาศัยอยู่ในผืนแผ่นดินของประเทศ จะมีน้ำบ้างไม่มีน้ำบ้างก็อยู่กันมา ท่านคือผู้รักษาแผ่นดินมาโดยตลอด วันนี้ทำอย่างไรให้แผ่นดินผืนนี้เกิดประโยชน์สูงสุดด้วยการพัฒนา เรียนรู้ ปรับเปลี่ยน ไม่เช่นนั้นไม่ทันแน่ ลูกหลานจะลำบากกว่านี้ ถ้ายังทำแบบดั้งเดิม” นายกฯ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ช่วงที่ผ่านมา ประเทศเราเกิดสถานการณ์น้ำท่วม ฝนแล้ง ความขัดแย้ง แค่สามเรื่องก็แย่แล้ว วันนี้ยังเจอสงครามการค้า ความขัดแย้งในภูมิภาค ในโลกเข้าไปอีกซึ่งมีผลกระทบทั้งโลก ไม่ใช่ประเทศไทยไม่เกี่ยว ซึ่งเรื่องน้ำท่วมฝนแล้ง ความขัดแย้ง ซึ่งความขัดแย้งอยู่ที่เราทั้งหมด ถ้าเราไม่ฟังเขามากก็ไม่ขัดแย้งกับใคร

“วันนี้ผมสบายใจมาหลายวัน เพราะผมไม่ได้อ่านหนังสือพิมพ์ ลองไม่อ่านแล้วรู้สึกดีมีความสุข มันไม่ไหว แต่ก่อนผมอ่านมากเพราะอยากรู้ แต่พออ่านไปอ่านมา แทนที่ผมจะได้อะไร แต่กลับไม่ได้อะไรเลย เพราะได้แต่ความโมโห สิ่งที่ผมทำมันไม่ใช่อย่างนี้ ไปคิดกันแบบนี้มันไม่ถูก แต่สื่อดีๆ ก็มีอยู่นะ นั่งอยู่ข้างหลังเยอะ เดี๋ยวมาเล่นงานผมอีก ขอโทษด้วย ต่างคนต่างต้องรักษาน้ำใจกันไว้บ้างก็แล้ว”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงหนึ่งนายกฯ ได้ชี้ไปยังนายประพัฒน์ เพราะเคยเป็นผู้เข้าร่วมกิจกรรมทางการเมืองของนักศึกษาในเหตุการณ์ 14 ตุลา 2516 และได้รับฉายว่า"ไอ้ก้านยาว"พร้อมระบุว่า

“พี่ประพัฒน์ ทำให้ผมออกนอกโรงเรียนไม่ได้ เพราะเขาประท้วงกันอยู่บนถนน จำได้ว่าถือไม้ก้านยาวอยู่ แล้วมาเจอกันวันนี้ ก็แหย่กันมาตั้งนาน ตั้งแต่ผมเป็นหัวหน้าคสช. ท่านก็คงไม่โกรธผมหรอก เพราะชื่อเดียวกับพ่อผม วันนั้นมาแหย่ว่าท่านชื่อเดียวกับพ่อผม ท่านก็บอกว่าพ่อของเขาไม่เจตนาจะตั้งชื่อเขา ให้เหมือนชื่อพ่อผม ก็ทำให้ผมเลิกแหย่ท่าน และโมโหไม่ได้ ตอนนั้นท่านถือไม้ก้านยาว ผมก็เรียนนายร้อยปีสาม จะได้กลับบ้านก็ไม่ได้กลับ เพราะอีตาคนนี้แหละ ผมลืมหมดแล้ว แต่อย่าให้เกิดขึ้นอีกเลย ทุกอย่างไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น เราผ่านวันเวลากันมาเยอะพอสมควร 60-70 ปี เราเห็นประเทศไทยเป็นอย่างนี้มานานแล้ว เราต้องช่วยกันเปลี่ยนประเทศไทย ให้เป็นประเทศที่มีความสงบสุข มั่นคง สันติ และต้องช่วยกันพัฒนา อย่าไปเสียเวลากับเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง กับสิ่งที่มีคนพยายามทำให้ไม่เกิดประโยชน์กับเรา ต้องแก้ปัญหาที่ใกล้ตัว ปัญหาที่ไกลตัวก็เป็นไปตามกฎหมาย ไม่ใช่ปัดไปปัดมา แล้วก็โกรธ ทำให้ไม่ได้แก้ปัญหาตัวเอง นี่คือสิ่งที่เป็นอันตราย” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

นายกฯ กล่าวอีกว่า วันนี้ต่างประเทศก็ต้อนรับตนหมด ตนก็อธิบายไปหลายครั้ง ตั้งแต่เป็นหัวหน้าคสช. วันนี้ก็ยินดีกว่าเดิม เพราะเราเป็นประชาธิปไตย เลือกตั้งแล้ว เขาก็แถลงการณ์ยอมรับเราแล้ว จะเอาอะไรกันอีก ฉะนั้นเรื่องการเมืองก็ว่ากันไป

“ผมก็หวังที่ประชาชน ถ้ารักกันแบบนี้ ประเทศก็เดินหน้าไปได้ สิ่งที่รัก ไม่ใช่ให้มารักผม แต่ผมขอให้ประชาชนรักตัวเอง รักครอบครัว รักสังคม รักประเทศชาติ นี่คือสิ่งที่ผมหวัง ก่อนผมตายขอทำหน้าที่นี้เท่านั้นเอง นั่นคือหัวใจของผม หัวใจของอดีตชายชาติทหาร สี่สิบปีในชีวิตข้าราชการทหารของผมไม่เคยลืมความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัติรย์ และวันนี้ผมก็มาเป็นนายกฯ ก็มีคำว่าประชาชนเพิ่มเข้ามาด้วย เราจะต้องไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” นายกฯกล่าว


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"