'ขาลง' อนาคตใหม่


เพิ่มเพื่อน    

     ก็....ไม่ผิดจากคาดไปสักเท่าไหร่!
    เลือกตั้งซ่อมเขต ๕ นครปฐม สู้กันระหว่างอนาคตใหม่กับชาติไทยพัฒนาเท่านั้น 
    ประชาธิปัตย์จึงยกธงขาวตั้งแต่นับคะแนนได้แค่ครึ่งทาง 
    สุดท้ายเก้าอี้ ส.ส.เปลี่ยนมือจากอนาคตใหม่ เป็นของบ้านใหญ่นครปฐม 
    ตระกูลสะสมทรัพย์
    สะท้อนอะไรบ้าง?
    ความนิยมในพรรคอนาคตใหม่ไม่ถึงกับหายไปเสียทีเดียว แค่ยังไม่ดีพอที่จะสู้กับ "เผดิมชัย​ สะสมทรัพย์" ได้
    แต่...เป็นเรื่องธรรมดาในระบอบประชาธิปไตย 
    เมื่อประชาชนเห็นว่าพรรคชาติไทยพัฒนาดีกว่า ก็เป็นสิทธิเต็มร้อยที่จะเลือกไปทำหน้าที่แทนตัวเองในสภา 
    เช่นเดียวกับประชาชนที่เลือกพรรคการเมืองอื่น ไม่ว่าจะเป็นเพื่อไทย พลังประชารัฐ ประชาธิปัตย์  ภูมิใจไทย ชาติพัฒนา ฯลฯ ล้วนเพื่อให้พรรคการเมืองเหล่านี้เป็นกระบอกเสียงแทน
    บทเรียนครั้งนี้สำหรับพรรคอนาคตใหม่ เลิกเสียที กับวาทกรรม รัฐบาลเผด็จการไม่ได้มาจากประชาชน
    เห็นหัวประชาชนที่เลือกพรรคการเมืองอื่นบ้าง 
    กลับกัน เผด็จการดูเหมือนจะสิงอยู่ในพรรคอนาคตใหม่!  
    คนในพรรคอนาคตใหม่คนแล้วคนเล่า ที่ออกมาพูดเรื่องนี้ เพราะการแบ่งแยกในพรรคอนาคตใหม่เอง
    หลังการโหวตร่างกฎหมายสำคัญ ๒ ฉบับ ที่ ส.ส.อนาคตใหม่บางคน ไม่ทำตามมติพรรค เกิดแรงกระเพื่อมรุนแรง แบ่งเกรด แบ่งชนชั้นกันภายในพรรค
     เมื่อ "สมัคร ป้องวงษ์" ส.ส.สมุทรสาคร พรรคส้มหวาน ปล่อยวาทะเด็ด
    “การหล่อหลอมมันก็ต้องมีเศษขยะอยู่บ้าง"
    เศษขยะในพรรคอนาคตใหม่จึงแสดงตัว     
    "ดร.ชาญวิทย์ ใจสว่าง" อดีตผู้สมัคร ส.ส.ชุมพร เขต ๑ พรรคอนาคตใหม่ ถูกเหยียดหยาม มองผู้แพ้เป็นแค่ขยะ กลั่นจากใจ ส้มหวานเขาแบ่งระดับ ส.ส.ออกเป็น ๓ กลุ่ม
    ๑.กลุ่มเพื่อนหัวหน้า เลขาฯ เป็นชนชั้นสูง จบนอก แนวคิดประเสริฐกว่าใครในไทย มีอำนาจเหนือ ส.ส.และผู้แพ้ทั้งหมด ปกครองเด็ดขาด โต้แย้งและเสนอแนะอะไรไม่ได้ ไม่คุย ไม่รับฟัง ส.ส.และผู้แพ้ ในตำแหน่งตลาดล่างทุกกรณี
    ๒.กลุ่ม ส.ส.สอบได้ ก็คือบัญชีรายชื่อ ที่เป็นคนใกล้ชิดและสนิทกับกลุ่มชั้นสูงเท่านั้น จึงได้ลง ส่วนคนนอกที่ได้ ส.ส.เขตเข้ามา หืออือไม่ได้
    ๓.กลุ่มผู้แพ้ทั้งหมด ๓๒๐ เขต เล็ดลอดไปเป็นผู้ช่วยบ้าง ไม่กี่คน กลุ่มนี้คือ "ขยะ" 
    ถ้าคนนอกออกมาพูดคงไม่น่าเชื่อถือ
    แต่คนในออกมาพูดเอง สะท้อนความเป็นพรรคอนาคตใหม่เองแบบนี้ ปฏิเสธได้ยากว่า ชนชั้นในพรรคอนาคตใหม่เป็นเรื่องจริง 
    "นิพนธ์ แจ่มจำรัส" อดีตผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 ชลบุรี พรรคอนาคตใหม่ เป็นอีกคนที่ตอกย้ำถึง "วรรณะ" ในพรรคการเมืองนี้
    "พวกเราศรัทธาในแนวทางของความเท่าเทียม แต่เมื่อเข้ามาอยู่จริง กลับพบว่าคล้าย รัฐซ้อนรัฐ  การบริหารจัดการไม่ได้เป็นไปอย่างเท่าเทียม แต่เป็นเหมือนพวกใครพวกมัน"  
    “ปัญหาอีกอย่างคือศูนย์จังหวัดและ ส.ส.ที่สอบตกทำงานด้วยกันไม่ได้ แล้วเป็นเกือบทั่วประเทศ  เพราะคนที่มานั่งเป็นหัวหน้าศูนย์ส่วนใหญ่นั้น เป็นคนในไทยซัมมิท ซึ่งผมขอบอกแค่นี้ ส่วนอื่นๆ ขอให้ ขยายกันเอาเอง ผมพูดมากกว่านี้ไม่ได้” 
    จะเป็นการปรามาสเกินไปหากจะบอกว่านี่คือ "ขาลง" ของพรรคอนาคตใหม่
    แค่คณะส้มหวานกำลังหล่นจากจุดสูงสุดเท่านั้นเอง.
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"