30 ต.ค.2562 นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยผลการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ประจำวันที่ 29 ต.ค. 2562 ว่าที่ประชุมเห็นชอบให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) ดำเนินการพัฒนาพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าโซลาร์ลอยน้ำแบบผสมผสาน ร่วมกับโรงไฟฟ้าพลังน้ำ ที่เป็นโครงการนำร่องในพื้นที่เขื่อนสิรินธร จ.อุบลราชธานี กำลังการผลิต 87.53 ล้านหน่วยต่อปี โดยใช้งบประมาณระมาณทั้งหมด 2,265.99 ล้านบาท และใช้งบประมาณระมาณในปีงบประระมาณ 2562 ทั้งสิ้น 643 ล้านบาท

ซึ่งประโยชน์ที่จะได้รับจากโครงการดังกล่าวคือสามารถรองรับความต้องการใช้ไฟในพื้นที่เขื่อนและบริเวณโดยรอบได้ รวมถึงยังลดปริมาณการการซื้อไฟจากต่างประเทศลงด้วย ทั้งนี้จะสามารถทดแทนการใช้ก็าซธรรมชาติในการผลิตไฟได้คิดเป็นมูลค่า 166 ล้านบาท บดการารปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ประมาณ 47.47 หมื่นตันต่อปี ลดการารใช้ที่ดินซึ่งเป็นประโยชน์ในการเพาะปลูกคิดเป็นมูลค่า 2.86 ล้านบาทต่อปี และลดต้นทุนการจ่ายไฟในช่วงเวลาที่มีความามต้องการไฟฟ้าสูงสุด(พีก)ปีะมาณาณ 46.89 ล้านบาทต่อปี 

"โครงการดังกล่าวใช้พื้นที่ติดตั้งแผงเซลล์แสงอาทิตย์ชนิดผลึกซิลิคอนทั้งหมด 450 ไร่ มีขนาดกำลังผลิตตามสัญญา 45 เมกะวัตต์ แต่กำลังผลิตตั้งตั้ง 58.5 เมกะวัตต์ ซึ่งถือว่าเป็นการใช้พื้นที่อ่างเก็บน้ำของกฟผ.ให้เกิดประโยชน์สูงสุด"นางนฤมล กล่าว

อย่างไรก็ตาม กฟผ.จะเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องแหล่งเงินทุน ซึ่งมาจากเงินรายได้และออกพันธบัตรหรือการกู้เงินจากสถาบันการเงินตามความเหมาะสม โดยกระทรวงการคลังไม่ได้ค้ำประกันเพราะเป็นโครงการที่มีผลตอบแทนสูงหรืออัตราผลตอบแทนการลงทุนด้านการเงิน 7.54% มีระยะเวลาคืนทุน 14 ปี โดยมีกำหนดจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์(ซีโอดี) ในเดือนธ.ค. 2563