คอนเสิร์ตครอบครัว “สุโกศล” ช่วยผู้พิการใบหน้า กะโหลกศีรษะ


เพิ่มเพื่อน    

กมลา สุโกศล ผู้นำคอนเสิร์ตการกุศลครั้งนี้

    ปัจจุบันมีเด็กที่กำเนิดมาพร้อมกับปัญหาความพิการบนใบหน้า และกะโหลกศรีษะอยู่ทั่วประเทศ โดยเฉพาะในต่างจังหวัด จากสิถิติของปี 2561 มีผู้ป่วยที่เข้ามารับการปรึกษาที่ศูนย์สมเด็จพระเทพฯ แก้ไขความพิการบนใบหน้า และกะโหลกศีรษะ สภากาชาดไทย มี 1,400 ราย ซึ่งส่วนใหญ่มาจากต่างจังหวัด ซึ่งความพิการบนใบหน้ามีสาเหตุหลากหลาย ทั้งที่เกิดจากปัจจัยทางพันธุกรรมและปัจจัยสิ่งแวดล้อม จึงอาจเกิดขึ้นตั้งแต่แรกคลอด หรืออาจเกิดขึ้นภายหลัง เช่น อุบัติเหตุ เนื้องอก การติดเชื้อ และที่สำคัญ ความพิการเหล่านี้มักจะเกิดกับผู้ที่มีฐานะยากจน ซึ่งยังขาดความรู้ความเข้าใจในการวางแผนมีบุตร ในการช่วยเหลือของศูนย์ นอกจากจะรักษาผู้ป่วยแล้ว ยังช่วยเหลือค่าเดินทางให้กับครอบครัวผู้ป่วยยากจนที่ต้องเดินทางมารักษายังศูนย์อีกด้วย 


    ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ครอบครัวสุโกศล จัดคอนเสิร์ตการกุศลประจำปี “The Sukosol Family, The Music & The Show”  เพื่อหารายได้มอบให้ศูนย์สมเด็จพระเทพฯ แก้ไขความพิการบนใบหน้า และกะโหลกศีรษะ สภากาชาดไทยโดยคอนเสิร์ตครั้งนี้จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 21-23 พ.ย. 2562 ณ ห้องกมลทิพย์บอลรูม โรงแรม เดอะ สุโกศล กรุงเทพ โดยจัดการแสดงรอบกาล่าดินเนอร์ 1 รอบ และรอบทั่วไป 2 รอบ

บรรยากาศแถลงข่าวพร้อมผู้สนับสนุน


    จันทร์ประภา วิชิตชลชัย รองผู้อำนวยการรักษาการแทน ผู้อำนวยการสำนักงานจัดหารายได้ สภากาชาดไทย กล่าวว่า ศูนย์สมเด็จพระเทพฯ แก้ไขความพิการบนใบหน้า และกะโหลกศีรษะ สภากาชาดไทย มีหม่อมราชวงศ์ปรียางค์ศรี วัฒนคุณ ผู้ช่วยเลขาธิการสภากาชาดไทยฝ่ายการจัดหารรายได้เป็นผู้บังคับบัญชาศูนย์ ท่านมีความใกล้ชิดกับคุณกมลา ศุโกศลมาอย่างยาวนาน ตลอดระยะเวลาที่มีโอกาสได้ทำงานกับหม่อมราชวงศ์ปรียางค์ศรี ได้มีส่วนร่วมกับการจัดคอนเสิร์ตการกุศลของครอบครัวสุโกศลมาตลอด ซึ่งคุณกมลา มีความเป็นห่วงทางสภากาชาดไทยอย่างมาก ว่าจะมีเงินเพียงพอสำหรับดูแลผู้ด้อยโอกาสหรือไม่ โดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีความพิการบนใบหน้า และกะโหลกศรีษะ ชนิดรุนแรงของศูนย์สมเด็จพระเทพฯ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โดยศูนย์นี้ ก่อตั้งมาเป็นเวลา 10 กว่าปี เป็นศูนย์ที่มีเพียงทีมงานเล็กๆ แต่ดูแลงานที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งก็คือการดูแลผู้ป่วยที่มีความพิการบนใบหน้าชนิดรุนแรง จากจุดเริ่มต้นที่มีงบประมาณไม่มาก อุปกรณ์ก็ไม่เพียงพอ ศูนย์ยังไม่เป็นที่รู้จัก แต่ด้วยความเมตตาขงครอบครัวสุโกศล ที่เห็นความตั้งใจ และสิ่งที่สภากชาดไทยส่งต่อไปให้ผู้ด้อยโอกาสผ่านศูนย์แห่งนี้จึงมอบรายได้จากจัดคอนเสิร์ตให้ศูนย์มาตลอด จนตอนนี้ศูนย์เป็นที่รู้จักมากขึ้น และได้มีการขยายการรักษาผ่านหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ไปยังภูมิภาคต่างๆ ช่วยเหลือผู้ป่วยได้มากขึ้น ทั่วถึงมากขึ้น เพื่อหวังมอบชีวิตดีๆ ให้กับผู้คน 

คุณแม่ และน้องผู้มีปัญหาพิการบนใบหน้าและกะโหลกศรีษะ


    ด้านรองศาสตราจารย์ นายแพทย์นนท์ โรจน์วชิระนนท์ ศัลแพทย์ตกแต่ง หัวหน้าศูนย์แก้ไขความพิการบนใบหน้าและกะโหลกศรีษะ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย กล่าวว่า โรความพิการบนใบหน้าและกะโหลกศรีษะนี้อาจเป็นโรคที่หลายคนไม่เคยนึกเคยฝันว่าคนเราเกิดมาใบหน้าจะผิดรูปได้ขนาดนี้ สมัยนั้นไม่มีใครรักษา ผู้ป่วยก็จะอยู่ในมุมมืดของสังคม แต่ตอนนี้มีศูนย์รักษาแล้วก็เป็นการเปลี่ยนชีวิตใหม่ หลายคนอาจยังไม่รู้จักโรคนี้มากนัก ให้ลองนึกถึงโรคงวงช้าง ก็คือกะโหลกศรีษะมีรูรั่ว สมองยื่นออกมา พอแม่ท้อง 9 เดือน คลอดออกมาจะมีก้อนเต็มหน้า ชาวบ้านจะเรียกงวงช้าง เพราะยื่นออกมาเหมือนงวง มีโรคที่กระโหลกศรีษะ พอเกิดมากระโหลกรัดติดแน่น สมองเจริญไม่ได้คิดดูว่าจะทรมานขนาดไหน และผู้ป่วยโรคปัญหาความผิดปกติพิการบนใบหน้านี้พบว่าเกินกว่า 70% คนไข้มาจากต่างจังหวัด ก็พยายามจะแก้ปัญหาดวยการทำแพทย์เคลื่อนที่ ตามจังหวัดต่างๆ ไปค้นหาผู้ป่วย ซึ่งมีหลายรายที่ไม่ได้รับรักษาเนื่องจากปัจจัยการเงินก็มี เราก็ต้องการช่วยเหลือให้มากที่สุด แล้วนอกจากการช่วยเหลือทางการรักษา ค่าเดินทาง บางปีก็มีการช่วยเหลือด้านปัจจัยด้านสังคม พาพ่อแม่และผู้ป่วยไปเที่ยว ให้เขามีโอกาสว่าสังคมไม่ได้ทอดทิ้งเขา และมีการให้ทุนการศึกษาอีกด้วย


    อย่างไรก็ตาม สำหรับคอนเสิร์ตการกุศลในครั้งนี้ นำทีมโดย กมลา สุโกศล ผู้ช่วยประธานกรรมการบริหาร กลุ่มโรงแรมและบริษัทในเครือสุโกศล ซึ่งเธอคือผู้นำในการขับร้องเพลงแจ๊สของประเทศไทย จนถูกขนานนามจากเหล่าบรรดานักร้องไทยว่าเป็น “ราชินีเพลงแจ๊ส” และกมลา ยังมีการจัดแสดงคอนเสิร์ตการกุศลทุกๆ ปีพร้อมกับวงบิ๊กแบรนด์ออเครสตร้าของเธอ โดยตั้งแต่ปี 2550 เป็นต้นมา กมลา ได้ระดมทุนในการจัดคอนเสิร์ตเพื่อหารายได้ให้ศูนย์สมเด็จพระเทพรัตน์ฯ เพื่อช่วยเหลือเด็กไทยที่มีปัญหาความผิดปกติของศรีษะ  และใบหน้าให้อยู่ในสังคมได้อย่างปกติ เป็นเงินกว่า 37,537,956 ล้านบาท และโครงการอื่นๆ ของสภากาชาดไทย เช่น ศูนย์บริจาคดวงตาเชิงรุก โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา ศูนย์สิริกิตติ์บรมราชินีนาถ เพื่อผู้ป่วยมะเร็งเต้านม ศูนย์รับบริจาคอวัยวะ และองค์กรการกุศลอีกมาก  โดยครั้งนี้เธอจะร่วมแสดงคอนเสิร์ตกับ กมล สุโกศล, มาริสา สุโกศล หนุนภักดี และกฤษดา สุโกศล แคลปป์ หรือน้อย พรู ที่เรียกว่าเป็นครอบครัวดนตรีเลยก็ว่าได้ 


    กมลา สุโกศล ให้รายละเอียดคอนเสิร์ตว่า คอนเสิร์ตในปีนี้ เราจะแสดงในธีมของความสนุก ที่ได้แรงบันดาลใจจากภาพยนตร์ดังหลายเรื่อง ตามกระแส เช่น นำเพลงฮิตจากภาพยนตร์ดัง A Star Is Born ซึ่งทั้งครอบครัวจะร่วมกันขับขานเพลง Shallow ส่วนมาริสา สุโกศล จะถ่ายทอดความรู้สึกอันลึกซึ้งผ่านเพลง I’ll Never Love Again จากภาพยนตร์เรื่องเดียวกัน และการกลับมาของ The Lion King ตนเองจะขับร้อง Circle of Life รวมทั้งหลานชาย ฟินเนเกน ลูกของน้อย วงพรู จะมาวาดลวดลายกับเพลง I Just Can’t Wait to Be King คู่กับพ่อของเขา รวมถึงการร่วมรำลึกครบรอบ 10 ปีการจากไปของไมเคิล แจ็คสัน ด้วยเมดเล่ย์เพลงยอดนิยมของเขา Billie Jean และ Man in the Mirror ผ่านลีลาการนำเสนอของน้อย เท่านั้นไม่พอ มาริสายังจะเขย่าเวทีด้วยเพลงฮิตสุดอมตะจากภาพยนตร์ชีวะประวัติเอลดัน จอห์น Rocketman และห้ามพลาดเด็ดขาดกับ My Favorite Things เพลงเอกจากภาพยนตร์ The Sound of Music ในแจ๊สเวอร์ชั่นของตน ที่ฉีกสไตล์จากป๊อป อาร์แอนด์บี คัฟเวอร์ เวอร์ชั่นของอเรียน่า แกรนเด 

น้อย พรู ที่จะมาขับร้องเพลงในอัลบั้มใหม่ของเขา


    กมลา กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ คุณน้อยยังจะนำผลงานอัลบั้มล่าสุด “นี่แหละชีวิต” มาขับร้องให้ฟัง โดยเขาจะขับร้องเพลงชื่อ “ตราบใดที่เธอยังมีชีวิต” เพลงนี้น้อยแต่งทำนอง ส่วนเนื้อร้องแต่งโดยบอยโกสิยพงษ์ แฟนเพลงหลายท่านบอกว่าเพลงนี้เปรียบเสมือเป็น Live and Learn ภาคสอง เพราะเป็นเพลงทื่เตือนสติและให้กำลังใจของพวกเขาอีกครั้ง ตนจะร่วมร้องในเพลงนี้ด้วย ซึ่งปกติแล้วตนจะไม่ค่อยร้องเพลงไทยเท่าไหร่นัก และความพิเศษที่ขาดไม่ได้ตลอดคอนเสิร์ตคือวงบิ๊กแบรนด์ทรงพลังที่อำนวยเพลงโดยปิติ เกยูรพันธ์ กลุ่มคอรัสฝีมือเฉียบที่นำโดยธานี พูนสุวรรณ และเติมเต็มความตระการตาด้วยคณะนักเต้นจากโรงเรียนอารีย์นาฏยศิลป์ ที่ทำให้โชว์ครั้งนี้อิ่มเอมสมบูรณ์แบบอย่างแน่นอน 

 


    ผู้สนใจสามารถสำรองที่นั่งได้ที่ โรงแรมเดอะสุโกศล หรือโทร 02 247 0123 ต่อ 1928 [email protected] และ www.ticketmelon.com โดยบัตรรอบวันที่ 21 และ 23 พ.ย. จำหน่ายในราคาบัตร 3,500 3,000 2,500 2,000 1,500 และรอบกาล่าดินเนอร์วันที่ 22 พ.ย. บัตรราคา 50,000 45,000 สำหรับหนึ่งโต๊ะ นั่งได้ 10 ท่าน 

 

บรรยากาศความสนุกปีที่ผ่านมา

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"