พลังงานให้คำมั่นกับชาวสวนปาล์มผลักดันใช้น้ำมัน B10 ทั่วประเทศ


เพิ่มเพื่อน    


วันนี้(17 พ.ย.62) ที่สนามหน้าเมืองนครศรีธรรมราช นายสนธิรัตน์  สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลัง ได้กล่าวปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “B 10 น้ำมันบนดิน เพื่อเศรษฐกิจฐานราก” ในงานเสวนา B 10 ราคาปาล์มจะรุ่ง หรือร่วง โดยมีนายศิริพัฒ  พัฒกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช หัวหน้าส่วนราชการ  สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดใกล้เคียง พรรคพลังประชารัฐ ร่วมต้อนรับ มีเกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันเข้าร่วมรับฟังประมาณ 1,000 คน 

นายสนธิรัตน์  สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลัง กล่าวว่า ตนได้พยายามแก้ไขปัญหาราคาปาล์มตกต่ำตั้งแต่สมัยที่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์  จนมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานก็ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งกระทรวงพลังงานให้ความสำคัญต่อการส่งเสริมนโยบายพลังงานเพื่อประชาชนทุกระดับตามนโยบาย Energy For All เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงพลังงานและสามารถใช้พลังงานในการเพิ่มรายได้ ยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจทั้งในระดับภาพรวม และเศรษฐกิจฐานรากที่สามารถพึ่งพาตนเองได้

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ที่ผ่านมาปัญหาราคาปาล์มตกต่ำเมื่อสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบหรือ CPO ประมาณ 4 แสนลิตร ดังนั้น การส่งเสริมให้น้ำมันดีเซลที่มีส่วนผสมของไบโอดีเซล (B100) ในสัดส่วน 10% หรือ B10 ให้เป็นน้ำมันดีเซลภาคบังคับหรือน้ำมันพื้นฐานสำหรับรถยนต์ดีเซลทั่วไป ไม่ใช้น้ำมันทางเลือก เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 เป็นต้นไป และตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563 ปั๊มน้ำมั่นทุกแห่งจะมีหัวจ่าย B 10 เนื่องจากปั๊มน้ำมันต้องมีการเตรียมถังเก็บน้ำมัน B10 ทำให้ไม่สามารถปรับเปลี่ยนได้ทันที ซึ่งจะช่วยดูดซับน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) ได้ราว 2.2 ล้านตัน/ปี หรือคิดเป็น 2 ใน 3 ของกำลังการผลิต CPO ในประเทศ ส่วนที่เหลืออีก 1 ใน 3 จะใช้ในการบริโภคจะอยู่ที่ราว 1 ล้านตัน/ปี ซึ่งจะช่วยยกระดับราคาปาล์มน้ำมันในประเทศให้สูงขึ้นด้วยไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 3.50-4.00 บาท  อย่างไรก็ตามเพื่อให้เกิดการดำเนินการที่มีเสถียรภาพจึงได้หารือร่วมกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้กระทรวงพลังงานเข้ามาควบคุมดูแลสต็อก CPO เอง เพื่อป้องกันการลักลอบการน้ำเข้าน้ำมันปาล์มดิบ B100

ส่วนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ต้องควบคุมดูแลพื้นที่การปลูกปาล์มน้ำมันไม่ให้เกิน 5 ล้านไร่ และต้องพัฒนาสายพันธุ์ ควบคุมผลผลิตที่ได้คุณภาพและลดต้นทุนในการผลิตด้วย น้ำมัน B10 คือการปฏิวัติวงการปาล์มน้ำมันและปฏิวัติไบโอดีเซล นอกจากนี้เป็นการปฏิวัติกับการลักลอบการนำเข้าด้วย เพื่อปากท้องเกษตรกรต้ออยู่ดีกินดี  การทำ B10 เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของความเข้มแข็งของเกษตรกร  ต่อไปอยากเห็นการพัฒนาน้ำมัน B100 ไปสู่กรีนดีเซล ที่สามารถเติมเครื่องบินได้ จนนำไปสู่การผลิต CPM ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการต่อยอดน้ำมันปาล์มและน้ำมันไบโอดีเซล ซึ่งเป็นแนวทางการพัฒนาธุรกิจชีวภาพหรือ Bio economy 

สำหรับปัจจุบันมีสถานีบริการ(ปั๊มน้ำมัน) B 10 ทั่วประเทศแล้ว 120 สถานี เฉพาะที่ จ.นครศรีธรรมราช มี 5 สถานี.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"