สหรัฐขวางโลก ชี้ที่ตั้งถิ่นฐานชาวยิวในเวสต์แบงก์ไม่ผิดกฎหมาย


เพิ่มเพื่อน    

รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ละทิ้งนโยบายที่ยึดถือมานาน 4 ทศวรรษที่ว่า ที่ตั้งถิ่นฐานของชาวยิวในดินแดนที่ยึดครองมาจากชาวปาเลสไตน์นั้นไม่เป็นไปตามกฎหมายระหว่างประเทศ หรืออีกนัยหนึ่งคือการหนุนหลังชาวอิสราเอลสร้างนิคมยิวในเขตยึดครองเวสต์แบงก์ ทั้งที่นานาชาติคัดค้านหวั่นบั่นทอนกระบวนการสร้างสันติภาพ

ภาพถ่ายจากหมู่บ้านคิฟิ ฮาเรส ของปาเลสไตน์ เผยให้เห็นที่ตั้งถิ่นฐานชาวยิวเรวาวา ในเขตเวสต์แบงก์ / AFP

    รายงานเอเอฟพีเมื่อวันอังคารที่ 19 พฤศจิกายน กล่าวว่า ไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐ ประกาศที่กรุงวอชิงตันเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า ภายหลังทำการศึกษาการโต้แย้งทางกฎหมายจากทุกฝ่ายอย่างรอบคอบแล้ว รัฐบาลสหรัฐได้ข้อสรุปว่า การสถาปนาที่ตั้งถิ่นฐานของพลเรือนชาวอิสราเอลในเขตเวสต์แบงก์นั้นโดยตัวของมันเองไม่ได้เป็นการขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ

    คำประกาศของเขาทำให้สหรัฐมีจุดยืนขัดแย้งกับทุกประเทศบนโลกนี้ รวมถึงข้อมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ แต่ถือเป็นชัยชนะของเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอลที่กำลังดิ้นรนรักษาอำนาจไว้ หลังจากไม่สามารถรวบรวมที่นั่งตั้งรัฐบาลข้างมากได้ แม้จะจัดการเลือกตั้ง 2 รอบแล้วในปีนี้

    ปอมเปโอกล่าวด้วยว่า การตัดสินใจของสหรัฐไม่ได้หมายความว่าสหรัฐพิจารณาว่าที่ตั้งถิ่นฐานของอิสราเอลในเวสต์แบงก์เป็นสิ่งถูกกฎหมายเช่นกัน แต่สหรัฐจะมีจุดยืนคล้อยตามการตัดสินของศาลอิสราเอลแทน

    ทางการปาเลสไตน์ ซึ่งปฏิเสธจะเข้าสู่กระบวนการพูดคุยสันติภาพภายใต้การไกล่เกลี่ยของรัฐบาลของทรัมป์ ซึ่งพวกเขาเห็นว่าลำเอียงเข้าข้างอิสราเอล ประณามการตัดสินใจของสหรัฐครั้งนี้ นาบิล อาบู รูไดนาห์ โฆษกประธานาธิบดีมะห์มูด อับบาส ของปาเลสไตน์ กล่าวว่า รัฐบาลสหรัฐไม่มีคุณสมบัติหรือมีอำนาจที่จะยกเลิกข้อมติของกฎหมายระหว่างประเทศ ทั้งยังไม่มีสิทธิ์ที่จะยกความชอบธรรมตามกฎหมายให้แก่ที่ตั้งถิ่นฐานของอิสราเอล

    ด้านนายกฯ เนทันยาฮู ซึ่งเป็นพันธมิตรใกล้ชิดของทรัมป์ กล่าวว่า การตัดสินใจของสหรัฐเป็นการ "แก้สิ่งที่ผิดในประวัติศาสตร์ให้ถูกต้อง" สำหรับผู้ตั้งถิ่นฐานชาวอิสราเอล 600,000 คน ที่อาศัยอยู่ในเขตเวสต์แบงก์และเยรูซาเลมตะวันออก ท่ามกลางชาวปาเลสไตน์ราว 2.9 ล้านคน

    แน่นอนว่าคำประกาศของรัฐบาลทรัมป์ต้องถูกตีความว่าเป็นการโอบอุ้มเนทันยาฮู ซึ่งกำลังลุ้นให้เบนนี แกนตซ์ คู่แข่งของเขาที่มีแนวคิดสายกลาง จัดตั้งรัฐบาลไม่สำเร็จตามที่ได้รับมอบหมายภายใน 2 วันนี้ แต่ปอมเปโอปฏิเสธทัศนะดังกล่าว โดยอ้างว่า ช่วงเวลาของการประกาศนั้นไม่ได้ผูกโยงกับการเมืองภายในประเทศไม่ว่าในอิสราเอลหรือที่ไหน

    ตลอด 40 ปีที่ผ่านมา นโยบายของสหรัฐอิง อย่างน้อยในทางทฤษฎี กับทัศนะทางกฎหมายของกระทรวงการต่างประเทศเมื่อปี 2521 ที่ระบุว่าการตั้งถิ่นฐานของอิสราเอลในดินแดนของชาวปาเลสไตน์ที่อิสราเอลยึดไว้เมื่อทศวรรษก่อนหน้านั้น เป็นเรื่องที่ขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ

    อนุสัญญาเจนีวาฉบับที่ 4 ที่ว่าด้วยกฎหมายสงครามนั้น ห้ามไว้อย่างชัดเจนไม่ให้เคลื่อนย้ายพลเรือนเข้าไปในดินแดนยึดครอง

    แม้ที่ผ่านมา โดยทั่วไปรัฐบาลสหรัฐมักจะใช้อำนาจยับยั้งข้อมติที่วิจารณ์อิสราเอล แต่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา เคยหักหน้าเนทันยาฮูช่วงไม่กี่สัปดาห์ก่อนที่โอบามาจะพ้นตำแหน่ง ด้วยการสนับสนุนข้อมติ 2334 ที่กล่าวถึงการตั้งถิ่นฐานของอิสราเอลว่าเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างโจ่งแจ้ง

    รัฐบาลทรัมป์เคยขวางโลกกรณีอิสราเอลมาแล้วหลายครั้ง เมื่อปี 2560 ทรัมป์รับรองนครเยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล และปีถัดมาก็ย้ายสถานทูตสหรัฐไปประจำที่นั่นอย่างเป็นทางการ.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"