ว่าด้วยการ...ลงถนน!!!


เพิ่มเพื่อน    

                หลังๆ นี้....ดูเหมือนว่าชักเริ่มๆ มีการหันมาพูดกันถึงเรื่อง การลงถนน ขึ้นมามั่งแล้ว!!! ทั้งๆ ที่ใครต่อใครยังไม่น่าจะหายเหนื่อย กับการนอนกลางดิน กินกลางถนน กลิ้งหลบระเบิด ลูกกระสุน ตลอดช่วง ทศวรรษแห่งความมืดมน ที่ผ่านมา หรือทั้งๆ ที่บรรดาแกนนำ-แกนนั่ง-และแกนนอน ทั้งหลาย ยังไม่หมดคดีที่ตามกันมาเป็นหางๆ ยังต้องเทียวไล้-เทียวขื่อ ขึ้นโรง-ขึ้นศาล ชนิดลูกสะบ้าเคลื่อนจนตราบเท่าทุกวันนี้...

                                      ------------------------------------------

                แต่ก็นั่นแหละ...ในเมื่อฝนจะตก-แดดจะออก-คนจะคลอดลูก ล้วนเป็นสิ่งที่ยากจะห้ามได้ วันนี้...เลยน่าจะลองมาใคร่ครวญ พิจารณา ถึงกรรมวิธี การลงถนน ที่ช่วงหลังๆ นี้ มันค่อนข้างจะมีกระบวนการพัฒนา เปลี่ยนรูป เปลี่ยนร่าง กันไปพอสมควร เช่น อาจไม่จำเป็นต้องอาศัยแกนนำ-แกนนั่ง-และแกนนอน อีกต่อไปแล้ว อาศัยเพียงแค่ความก้าวหน้า ทันสมัย ของเทคโนโลยีการสื่อสาร ที่สามารถสร้างเครือข่าย สร้างกลุ่มเป้าหมาย และสร้าง  รสนิยม แบบหนึ่ง แบบใด ขึ้นมาโดยเฉพาะ ชนิดเมื่อถึงจังหวะและโอกาสเอื้ออำนวยให้ ก็สามารถ จุดไฟในนาคร ขึ้นมาได้เสมอ...

                                     ---------------------------------------------

                ซึ่ง การลงถนน ในรูปแบบใหม่ๆ ที่ว่า...ก็น่าจะพอเห็นๆ กันอยู่ในหลายต่อหลายประเทศช่วงนี้ ไม่ว่าในยุโรป เอเชีย ตะวันออกกลาง เลยไปถึงลาตินอเมริกาโน่นเลย ที่การจุดไฟ จุดระเบิด อุบัติขึ้นมาด้วยการอาศัย อารมณ์ เป็นแรงกระตุ้นสำคัญ มากไปกว่าความมีเหตุ-มีผล หรือการต้องใช้ความคิด ความอ่าน ใคร่ครวญ พิจารณา อย่างเป็นพิเศษ เช่น การอาศัยความโกรธ กริ้ว ฉิวฉุน ในเรื่อง สีผิว ในอังกฤษ ที่ทำให้เกิด จลาจล ลุกลามไปแทบจะทั่วทั้งเกาะ เมื่อไม่กี่ปีที่แล้ว การอาศัยความหุดๆ หิดๆ ในเรื่องการขึ้นภาษีน้ำมัน ในฝรั่งเศส หรือในอิหร่านช่วงไม่กี่วันมานี้ การเก็บภาษีค่าบริการอินเทอร์เน็ต ในเลบานอน การบริการสาธารณะที่ห่วยแตกในอิรัก ไปจนถึงความไม่พอใจเรื่องเศรษฐกิจ เรื่องปาก เรื่องท้อง ในเอกวาดอร์ ชิลี โคลัมเบีย ฯลฯ เป็นต้น...

                                   -------------------------------------------------

                แต่ การลงถนน ในลักษณะที่ว่านี้...อาจด้วยเหตุเพราะมันปราศจากแกนนำ-แกนนั่ง-แกนนอนที่ชัดๆ มันเลยไม่ค่อยดำเนินไปแบบต่อเนื่อง ยาวนาน อย่างเป็นระบบและเป็นกระบวนการ มากมายซักเท่าไหร่ คืออาจลุกฮือ หรือลุกพรึ่บบ์บ์บ์ ขึ้นมาเป็นพักๆ แต่ก็สามารถวูบหายไปภายในเวลาอันรวดเร็ว และระหว่างที่ลุกฮือ ลุกพรึ่บบ์บ์บ์ ก็มักไม่ค่อยจะมีระบบ หรือมัก ควบคุม แทบไม่ได้ ส่งผลให้เกิด ความรุนแรง ในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าการ เผามันเลยครับพี่น้อง...เพราะผมไม่ต้องรับผิดชอบ การไล่ทุบ ทำลาย อาคาร สถานที่ต่างๆ ไปจนถึงการปล้นสะดม ฉกชิง วิ่งราว เอาเลยก็มี อันเป็นตัวกัดกิน ทำลาย ขบวนการลงถนน ให้ต้องแพ้พ่าย หรือ แพ้ทางการเมือง จนไม่เหลือ เงื่อนไข หรือ ข้ออ้าง อีกต่อไปง่ายๆ...

                                 ----------------------------------------------------

                ดังนั้น...เลยมักต้องหันไปพึ่งพา หรือพึ่งบริการของ ผู้ไม่ประสงค์จะออกนาม แต่มุ่ง ประสงค์ร้าย อยู่แล้วแน่ๆ หรือบรรดาผู้ที่พร้อม “แทรกแซง” กิจการภายในของประเทศต่างๆ อาศัย การแทรกแซงจากภายนอก เป็นตัวโหมไฟ กระพือไฟ ไม่ให้มันมอด หรือซาลงมาง่ายๆ อย่างเช่นเกาะฮ่องกง ที่เริ่มด้วยความไม่พอใจเรื่อง กฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดน แต่มาๆ-ไปๆ กลับกลายเป็นเรื่องเสรีภาพ เรื่องประชาธิปไตย ที่ค่อยๆ ยกระดับขึ้นไปถึงขั้นคิดแยกเกาะฮ่องกง ออกจากแผ่นดินใหญ่ หรือจาก หนึ่งประเทศ-สองระบบ ชัดเจนยิ่งเข้าไปทุกที หรืออย่างอิรัก ที่ความไม่พอใจความห่วยแตกในการบริการสาธารณะ เริ่มกลายสภาพเป็นการ ต่อต้านอิหร่าน หรือการเชื้อเชิญให้อเมริกามาตั้งมั่นอย่างคงทน ถาวร ต่อไปภายในประเทศตัวเอง ฯลฯ เป็นต้น...

                                    --------------------------------------------------

                การลงถนน ในรูปแบบใหม่ๆ ที่ว่านี้...มันเลยมีความผิดแผก แตกต่าง ไปจากครั้งเดิมๆ อยู่พอสมควร คือไม่จำเป็นต้องอาศัย คนแก่-คนชรา ประเภท คุณลุงเทพเทือก หรือ คุณพี่สนธิ ลิ้ม ฯลฯ อีกต่อไปแล้ว เพราะถึงแม้คิดจะอาศัยบรรดาคุณลุงและคุณพี่เหล่านี้ แต่ท่านคงไม่เอาด้วยแล้ว จะด้วยเหตุเพราะแก่แล้วหรือเพราะต่างก็มี บทเรียน กันพอสมควร ก็แล้วแต่จะว่ากันไป ซึ่งนั่นก็ย่อมทำให้ การลงถนนครั้งใหม่ ในบ้านเรา ออกจะเป็นอะไรที่ยากส์ส์ส์อยู่พอสมควร เนื่องจากหาใครที่มี ศักยภาพ ทัดเทียมกับอดีตแกนนำ-แกนนั่ง-แกนนอน เหล่านี้ แทบหาไม่ได้ต่อไปอีกแล้ว แม้แต่คุณน้อง ฟ้ารักพ่อ ก็เถอะ แค่การคร่ำครวญถึง หัวใจของเราถูกโบยตีด้วยอยุติธรรม เพียงประโยคเดียว ก็แทบอ้วกแตก อ้วกแตน กันไปเป็นแถบๆ...

                                   ----------------------------------------------------

                แต่ก็นั่นแหละ...ด้วยเหตุเพราะความก้าวหน้า ก้าวไกล ของอุปกรณ์ เครื่องมือสมัยใหม่ มันก็ยังมีฤทธิ์ มีเดช มิใช่น้อย ในการกระตุ้น อารมณ์ ในช่วงที่จังหวะและโอกาสเอื้ออำนวยให้ ซึ่งอาจไม่ใช่ช่วงการแก้รัฐธรรมนูญ หรือการยกเลิกเกณฑ์ทหาร ที่ต้องอาศัยการใคร่ครวญ หวนคิด อยู่พอสมควร แต่จะเป็นช่วงจังหวะไหน หรือโอกาสไหนๆ นั่นคงขึ้นอยู่กับว่ารัฐบาลท่านจะ สะดุดหัวแม่ตีน ตัวเอง กันในแบบไหน ในลักษณะใด และขึ้นอยู่กับว่า ผู้ประสงค์ร้ายและไม่ประสงค์จะออกนาม ท่านจะเอาด้วยหรือไม่ หรือถึงขั้นไหน...

                                ------------------------------------------------------

                อย่างไรก็ตาม...โดยสรุปรวมความแล้ว สำหรับผู้ที่ยังพอมีสติ-ปัญญา การ ไม่คิดลงถนน น่าจะเป็นหนทางที่เหมาะกว่า เพราะหนทางอื่นๆ ก็ยังคงหลงเหลืออยู่อีกเยอะ พอที่จะนำเสนอสิ่งที่ตัวเองปรารถนาและต้องการ หรือแม้แต่จะ ระบาย อะไรต่อมิอะไรไปตาม รสนิยม ของตัวเอง อีกทั้ง ตัวอย่าง และ บทเรียน ตลอดช่วง ทศวรรษแห่งความมืดมน ที่ผ่านมา ก็ได้ให้ข้อพิสูจน์ ยืนยัน ไว้อย่างชัดเจนแล้วว่า ล้วนแต่นำมาซึ่งความทุกข์ยากลำบาก ไปด้วยกันทั้งสิ้น ต้องติดคุก-ล้มละลาย-เป็นหนี้เป็นสินชนิดชดใช้แทบไม่ได้ ไม่ก็ต้องเผ่นไปต่างประเทศโน่นเลย ฯลฯ คือมีแต่นำมาซึ่งความ อยู่-ไม่-สุข ไปตลอดทั่วทั้งชีวิต ไม่ว่าจะ อยู่-เป็น หรือ อยู่-ไม่-เป็น ก็ตามที...

                                -------------------------------------------------------

                ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก John G. Diefenbaker ... “Freedom in the right to be wrong, not the right to do wrong. – เสรีภาพคือสิทธิที่จะเป็นฝ่ายผิดได้ แต่ไม่ใช่สิทธิที่จะกระทำผิด...”

                                  -----------------------------------------------------

 

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"