กทม.จับมือ พอช.แก้ปัญหาที่อยู่อาศัยคนจนกรุงเทพฯ ภายในปี 2565 นำร่อง 14 เขต 194 ชุมชน 36,815 ครัวเรือน


เพิ่มเพื่อน    

 นายสกลธี ภัททิยกุล  รองผู้ว่า กทม. (นั่งที่ 4 จากซ้าย)

 

ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร/ กทม.จับมือ พอช. และภาคีเครือข่ายแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยคนจนในกรุงเทพฯ ให้มีความมั่นคง  มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นภายในปี 2565  โดยใช้วิธีการแก้ไขปัญหาทั้งเมือง/เขต  เริ่มนำร่องที่เขตยานนาวา  ก่อนขยายไป 14 เขต  รวม 194 ชุมชน  36,815 ครัวเรือน

 

ตามที่รัฐบาลให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาความยากจน  ลดความเหลื่อมล้ำ  และพัฒนาที่อยู่อาศัยของผู้มีรายได้น้อยให้มีที่อยู่อาศัยที่มั่นคงตามแผนแม่บทการพัฒนาที่อยู่อาศัยระยะ 20 ปี  (พ.ศ.2560-2579) โดยสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) หรือ ‘พอช.’ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์  รับผิดชอบดำเนินงานพัฒนาที่อยู่อาศัยผู้มีรายได้น้อยทั่วประเทศประมาณ 1,050,000  ครัวเรือน   โดยมีวิสัยทัศน์  คือ “คนไทยทุกคนมีที่อยู่อาศัยถ้วนทั่ว  และมีคุณภาพชีวิตที่ดีภายในปี 2579” 

 

ล่าสุดวันนี้ (27 พ.ย.) ที่ห้องประชุมรัตนโกสินทร์  ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร  มีการจัดกิจกรรมการขับเคลื่อนการพัฒนาที่อยู่อาศัยในพื้นที่กรุงเทพมหานคร  “คนจน กทม. มีที่อยู่อาศัยที่ดีและมั่นคงถ้วนหน้าปี 2565”  โดยมีนายสกลธี  ภัททิยกุล  รองผู้ว่า กทม.เป็นประธานในพิธี  มีผู้บริหารสำนักงานเขต   ผู้แทนหน่วยงานต่างๆ  ผู้บริหารสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน)  สถาบันการศึกษา  และผู้แทนชุมชนต่างๆ ในเขตกรุงเทพฯ  เข้าร่วมงานประมาณ 500 คน  ภายในงานมีการจัดนิทรรศการแสดงผลงานแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัย  และการเสวนา  

 รองผู้ว่า กทม.ชมนิทรรศการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัย

 

นายสกลธี  ภัททิยกุล  รองผู้ว่า กทม. กล่าวว่า  นโยบายการแก้ไขปัญหาเรื่องที่อยู่อาศัยของผู้มีรายได้น้อยถือเป็นเรื่องใหม่ของกรุงเทพมหานคร  โดย กทม.ได้รับนโยบายจากรัฐบาลในช่วงปลายปี 2561  เพื่อให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัยครบถ้วนทุกคนภายในปี 2579   ซึ่งขณะนี้ กทม.ได้เริ่มดำเนินไปแล้ว   โดยตั้งคณะกรรมการเพื่อแก้ไขกฎระเบียบหลายอย่างเพื่อให้เอื้อต่อการแก้ไขปัญหา  เช่น  การรับจดทะเบียนชุมชน   จากเดิมต้องมีจำนวน 100 หลังคาเรือนขึ้นไป  แต่ระเบียบใหม่ไม่ต้องถึง 100  หลังคาเรือนก็สามารถจดทะเบียนเป็นชุมชนได้  เพื่อจะได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ จาก กทม.  คาดว่าภายในต้นปี 2563 สามารถใช้ระเบียบใหม่นี้ได้  นอกจากนี้สำนักการโยธาฯ กทม.ได้ออกแบบบ้านราคาไม่เกินหลังละ 150,000 บาทเพื่อให้ประชาชนได้นำไปใช้สร้างบ้าน

 

รองผู้ว่า กทม.กล่าวด้วยว่า  กรุงเทพมหานครจะร่วมมือกับสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนฯ และภาคีเครือข่าย  เพื่อร่วมกันพัฒนาที่อยู่อาศัยของคนจนใน กทม.ให้มีที่อยู่อาศัยและมีคุณภาพชีวิตที่ดีและมั่นคงถ้วนหน้าภายในปี 2565  โดยจะเริ่มนำร่องในพื้นที่ 14 เขต  คือ   เขตคลองเตย   คันนายาว   จตุจักร   ดอนเมือง  ดุสิต  บางกะปิ   บางซื่อ  ประเวศ  ยานนาวา  วัฒนา  วังทองหลาง   คลองสามวา  บางบอน   และเขตราชเทวี  โดยคาดว่าจะมีประชาชนนับแสนครัวเรือนที่ยังไม่มีความมั่นคงในการอยู่อาศัย  ไม่มีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง  กทม.จึงพยายามแก้ไขปัญหานี้  เพื่อให้พี่น้องประชาชนในกรุงเทพฯ ได้รับสิทธิและเป็นพลเมืองเต็มขั้น  และจะดำเนินการต่อไปให้ครบทั้ง 50 เขตเพื่อให้บรรลุเป้าหมายภายในปี 2579 

นายสมชาติ  ภาระสุวรรรณ ผอ.พอช. (ที่ 4 จากซ้าย)

 

นายสมชาติ  ภาระสุวรรณ  ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนฯ  กล่าวว่า  การแก้ไขปัญหาความไม่มั่นคงในที่อยู่อาศัยเป็นปัญหาเชิงโครงสร้าง  หากแก้ไขเพียงหน่วยงานใดเพียงหน่วยงานเดียวคงจะสำเร็จได้ยาก  โดยจะต้องมีภาคีเครือข่ายมาร่วมมือกัน  โดยเฉพาะเครือข่ายชุมชน  เพราะเป็นคนในพื้นที่จึงรู้ปัญหาดีกว่า  และรู้ว่าจะแก้จากจุดไหนไปจุดไหน   และจะต้องร่วมกันแก้ไขปัญหาทั้งเมือง  ไม่ใช่ทำเป็นจุด  หรือทำเป็นโครงการ  เช่น  เครือข่ายเมืองยานนาวา  ที่มาร่วมกันแก้ไขปัญหาทั้งเมือง  โดยฝ่ายนโยบายต้องให้การสนับสนุน  และบูรณาการการทำงานระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  โดย พอช.จะมีบทบาทเป็นสะพานในการเชื่อมโยงระหว่างชุมชนและหน่วยงานต่างๆ เพื่อให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัยที่มั่นคง

 

นางสาวสมสุข  บุญญะบัญชา  ประธานคณะอนุกรรมการบ้านมั่นคง  สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนฯ  กล่าวว่า  พอช.เริ่มทำบ้านมั่นคงตั้งแต่ปี 2546  ปัจจุบันเป็นเวลา 15 ปี  พอช.ทำเรื่องบ้านมั่นคงได้ 50 ชุมชน  รวมประมาณ  10,000 ครัวเรือน  ซึ่งถือว่าทำได้เพียง 10 %  แต่หลังจากนี้จะทำได้เร็วขึ้น  เพราะมีหลายหน่วยงานมาร่วมกัน  โดยเฉพาะกรุงเทพมหานคร  และจะทำเป็นเขต  ไม่ใช่ทำเป็นจุด  เริ่มนำร่อง 14 เขต  โดยจะชวนเขตที่อยู่ข้างเคียงมาเรียนรู้เพื่อแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยและความยากจนไปด้วย

 

“กระบวนการบ้านมั่นคง  เป็นการสร้างความรู้  และเป็นองค์รวม  ไม่ใช่จะทำเฉพาะเรื่องที่อยู่อาศัย  แต่จะทำทุกมิติ  ทั้งเรื่องการพัฒนาอาชีพ  การสร้างรายได้  เรื่องสิ่งแวดล้อม  และเชื่อมโยงหน่วยงานต่างๆ มาทำงานร่วมกัน  เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาในทุกมิติ” นางสาวสมสุขกล่าว  

นางสำลี  ศรีระพุก  ผู้แทนชุมชนเขตยานนาวา  กล่าวถึงรูปธรรมการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยในเขตยานนาวาว่า    ในเขตยานนาวามีชุมชนแออัด 17 ชุมชน  อาศัยอยู่ในที่ดินต่างๆ เช่น  การรถไฟ  ที่ดินราชพัสดุ  ที่ดินเอกชน  และที่ดินวัด      มีปัญหาความไม่มั่นคง  เพราะที่ดินมีราคาแพง  ตารางวาละประมาณ 2 แสนบาท  เจ้าของที่ดินต้องการนำที่ดินไปขายหรือพัฒนาโครงการ  ชุมชนจึงถูกไล่รื้อ  ไม่ต่อสัญญาเช่า  ชาวชุมชนต่างๆ จึงรวมตัวกันเป็นเครือข่ายเพื่อแก้ไขปัญหาร่วมกัน        มีการแต่งตั้ง ‘คณะกรรมการเมือง’ ขึ้นมา  โดยมีหลายหน่วยงานมาร่วมกัน  มีผู้อำนวยการเขตยานนาวาเป็นประธานฯ เพื่อเป็นกลไกในการขับเคลื่อนและแก้ไขปัญหา  ขณะนี้ดำเนินการแล้ว 2 ชุมชน  คือ  ชุมชนเชื้อเพลิง 2 จำนวน 149 ครัวเรือน  และชุมชนเย็นอากาศ 2 จำนวน 262 ครัวเรือน

 

“ชุมชนที่จะเข้าร่วมโครงการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยจะต้องรวมตัวกัน  มีการจัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมา  เพื่อสำรวจข้อมูลปัญหา  รวมกลุ่มกันออมทรัพย์เพื่อเป็นทุนในการสร้างบ้าน  หลังจากนั้นจึงทำเรื่องขอเช่าที่ดินอย่างถูกต้องกับกรมธนารักษ์หรือเจ้าของที่ดิน  โดยจัดตั้งเป็นสหกรณ์เคหสถานขึ้นมา  เพื่อร่วมกันบริหารโครงการ  โดยได้รับงบประมาณสนับสนุนการพัฒนาชุมชนและสินเชื่อจาก พอช.  เพื่อสร้างบ้าน  สร้างชุมชนใหม่  ทำให้คนจนสามารถอยู่อาศัยในเมืองได้”  นางสำลีกล่าวถึงกระบวนการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยในเขตยานนาวา 

 รองผู้ว่าฯ มอบงบสนับสนุนการพัฒนาที่อยู่อาศัย

 

ทั้งนี้นายสกลธี  ภัททิยกุล  รองผู้ว่า กทม. ได้มอบงบสนับสนุนจาก พอช.ให้แก่ผู้แทนเครือข่ายเมืองยานนาวาจำนวน 50,000 บาท  มอบงบสนับสนุนการพัฒนาที่อยู่อาศัยให้แก่ชุมชนเชื้อเพลิง 2 ร่วมใจ (149 ครัวเรือน) จำนวน  8.4 ล้านบาทเศษ  และชุมชนเย็นอากาศ 2 (262 ครัวเรือน) จำนวน 20 ล้านบาทเศษ   และนอกจากการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยในเขตยานนาวาแล้ว  กรุงเทพมหานครจะร่วมมือกับ พอช.  และภาคีเครือข่ายต่างๆ  ขยายการทำงานไปอีก 14 เขต  เพื่อเป็นโครงการนำร่อง  โดยมีแผนงานเบื้องต้นจำนวน  10 เขต  จำนวน 194 ชุมชน  รวม  36,815 ครัวเรือน  มีเป้าหมายให้ประชาชนที่มีรายได้น้อยในกรุงเทพฯ มีที่อยู่อาศัยที่มั่นคงและมีคุณภาพชีวิตที่ดีภายในปี 2565


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"