โผตัวเต็ง 2 ว่าที่ ป.ป.ช.ชุดใหม่ บิ๊กอวบ - 3 อธิบดีศาลฯ มีลุ้น


เพิ่มเพื่อน    

           ปิดรับสมัครไปเรียบร้อยแล้วสำหรับการรับสมัครคัดเลือกบุคคลเพื่อเข้ารับการสรรหาเป็นผู้สมควรได้รับการแต่งตั้งเป็น ”กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ” (ป.ป.ช.) เพื่อแทนตําแหน่งที่ว่างลง หลังมีอดีต ป.ป.ช.พ้นตำแหน่งไป 2 คนในเวลาไล่เลี่ยกันคือ ปรีชา เลิศกมลมาศ และสุรศักดิ์ คีรีวิเชียร จึงทำให้ต้องมีการเปิดรับสมัครคัดเลือกคนไปทำหน้าที่แทน 2 เก้าอี้ ในสำนักงาน ป.ป.ช.

                โดยมีการเปิดรับสมัครไปในช่วง ระหว่างวันที่ 6-26 พฤศจิกายนที่ผ่านมา พบว่ามีรายชื่อผู้สมัคร จํานวน 16 คน แต่ก็ต้องยอมรับว่า ด้วยสเปกที่กำหนดไว้สูง ดังนั้นคนจะมาสมัครได้ จึงต้องสเปกครบตามกฎหมายเท่านั้น

                สำหรับรายชื่อผู้สมัคร พบว่าไม่ถึงกับเรียกเสียงเกรียวกราวมากนัก แต่ก็มีอดีตบิ๊กวงการสีกากี รวมถึงผู้พิพากษา ก็มาสมัครด้วยเช่นกัน โดยพบว่าเป็นระดับอธิบดีศาลถึง 3 คน โดยรายชื่อทั้งหมดมีดังนี้

                1.พลตํารวจเอกเฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน หรือบิ๊กอวบ อายุ 61 ปี อดีตรองผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ ลูกเขย พลเอกประชา พรหมนอก อดีต ผบ.ตร. อดีตแกนนำพรรคเพื่อไทย

                2.นายจาตุรงค์ สรนุวัตร อายุ 61 ปี อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาธนบุรี 

                3.นายณัฐจักร ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา อายุ 66 ปี อัยการอาวุโส สํานักงานอัยการสูงสุด

                4.นายสุวัฒน์ เทพอารักษ์ อายุ 65 ปี อดีตเลขาธิการคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงาน โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดําริ (กปร.)

                5.นายวิฑูลรย์ ศิริวิโรจน์ อายุ 54 ปี ทนายความ

                6.ว่าที่ร้อยตรีอํานวย อุปถัมภ์ อายุ 55 ปี ทนายความ

                7.นายสมบัติ ธรธรรม อายุ 64 ปี ทนายความและที่ปรึกษากรรมการ ป.ป.ช. 

                8.พลโทสุรพงศ์ เปรมบัญญัติ อายุ 62 ปี อดีตหัวหน้าสํานักตุลาการทหารและตุลาการพระธรรมนูญ หัวหน้าศาลทหารสูงสุด  

                9.นายเกรียงศักดิ์ สวัสดิ์พาณิชย์ อายุ 65 ปี ทนายความ และอดีตกรรมการผู้อํานวยการ และเลขานุการ คณะกรรมการอํานวยการด้านกฎหมาย คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.)

                10.นายณัฐพัชร จันทรสูตร อายุ 56 ปี ทนายความ

                11.นายนิทรารัตน์ แพทย์วงศ์ อายุ 59 ปี ประธานสภาทนายความจังหวัดสมุทรสงคราม อดีตประธานกรรมการการเลือกตั้งจังหวัดสมุทรสงคราม และที่ปรึกษาผู้ตรวจราชการ สํานักปลัดสํานักนายกรัฐมนตรี

                12.ผู้ช่วยศาสตราจารย์ธานี วรภัทร อายุ 51 ปี ทนายความ และอาจารย์ประจํา             คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ 

                13.นายสุชาติ ตระกูลเกษมสุข อายุ 57 ปี อธิบดีผู้พิพากษาศาลแพ่งมีนบุรี 

                14.ว่าที่พันตรีสมบัติ วงศ์กําแหง อายุ 58 ปี ทนายความ 

                15.นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส อายุ 67 ปี อดีตผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน

                16.นายปรเมษฐ์ โตวิวัฒน์ อายุ 63 ปี อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 1

                สําหรับขั้นตอนต่อจากนี้ สํานักงานเลขาธิการวุฒิสภา ซึ่งทําหน้าที่เป็นหน่วยธุรการของคณะกรรมการสรรหากรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ จะประกาศรายชื่อบุคคลที่จะเข้ารับการสรรหาให้ประชาชนทราบเป็นการทั่วไป เพื่อเปิดรับฟังข้อมูลเกี่ยวกับความเหมาะสมของผู้ที่จะเข้ารับการสรรหาเพื่อประกอบการพิจารณาในการสรรหา และจะส่งรายชื่อผู้สมัครไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบคุณสมบัติ และตรวจสอบลักษณะต้องห้าม และพฤติการณ์ทั่วไป  

                อย่างไรก็ตาม ดูรายชื่อข้างต้นแล้วคาดว่าจะมีบางคนอาจขาดคุณสมบัติ เช่น กรณีของ พิศิษฐ์ ลีลาวชิโร อดีตผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน เพราะรัฐธรรมนูญและกฎหมาย ป.ป.ช.ไม่ให้คนที่เคยเป็นกรรมการองค์กรอิสระมาแล้ว มาเป็นกรรมการองค์กรอิสระองค์กรอื่นๆ ได้อีก โดยที่ผ่านมาพิศิษฐ์ก็พยายามไปสมัครเป็นองค์กรอิสระ เช่น กกต.และตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ แต่ไม่ได้รับการพิจารณาจากคณะกรรมการสรรหาฯ เพราะติดขัดข้อกฎหมายดังกล่าว

                อนึ่งก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 18 พ.ย. วรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการ ป.ป.ช. แถลงผลงานครบรอบ 20 ปี สำนักงาน ป.ป.ช. โดยเปิดเผยข้อมูลไว้ว่า ปัจจุบันยังมีเรื่องคงค้าง 14,732 คดี โดย ป.ป.ช.ขอให้คำมั่นสัญญากับประชาชนว่า มีอย่างน้อย 15 คดีสำคัญที่จะไต่สวนให้แล้วเสร็จภายในปี 2563 ได้แก่

                1.คดีทุจริตเกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำเพื่อแก้ไขปัญหาอุทกภัยของประเทศปี 2556 2.คดีการปราศรัยของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ปี 2557 3.คดีทุจริตในการดำเนินการก่อสร้างฝายและเพาะชำปลูกหญ้าแฝกตามโครงการอนุรักษ์ทรัพยากรดินและป่าไม้ (ฝายแม้ว) 4.คดีการอนุญาตเปลี่ยนแปลงแผนผังโครงการเหมืองแร่ทองคำชาตรีเหนือ 5.คดีทุจริตการทำสัญญาซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ภาค 2

                6.คดีทุจริตการทำสัญญาซื้อขายมันสำปะหลังแบบรัฐต่อรัฐ 7.คดีทุจริตเงินทอนวัด มีทั้งหมด 47 สำนวน ยังเหลือต้องดำเนินการไต่สวน 36 สำนวน 8.คดีทุจริตในการจัดซื้อเครื่องตรวจวัตถุระเบิด GT200 และอัลฟา 6 มีทั้งหมด 20 สำนวน ยังเหลือต้องดำเนินการไต่สวนอีก 17 สำนวน 9.คดีทุจริตสร้างสนามกีฬาฟุตซอล 10.คดีทุจริตเรียกรับเงินจากผู้นำเข้ารถยนต์อิสระ ทำให้ผู้นำเข้าเสียภาษีน้อยลง (รถหรู)

                11.คดีทุจริตในโครงการจัดหาที่ดินเพื่อปลูกปาล์มและผลิตปาล์มน้ำมันที่ประเทศอินโดนีเซีย 12.คดีทุจริตเรียกรับเงินจากผู้นำเข้ารถยนต์สำหรับเครื่องบิน Boeing B77-200 ER ของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือคดีสินบนโรลส์-รอยซ์ 13.คดีทุจริตในการออกโฉนดที่ดินในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเขารวก-ป่าเขาเมือง และในเขตอุทยานแห่งชาติสิรินาถ 14.คดีทุจริตในการออกโฉนดที่ดิน ต.เขากะรน อ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ เทือกเขานาเกิด 15.คดีทุจริตในการออกโฉนดที่ดินทับซ้อนเขาเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเขาเตียนและป่าเขื่อนลั่น อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา

                ดังนั้น ว่าที่ ป.ป.ช.ชุดใหม่ 2 คนที่จะเข้าไปรับตำแหน่ง จึงย่อมมีส่วนในการร่วมพิจารณาสำนวนและลงมติในที่ประชุมใหญ่ ป.ป.ช.เพื่อชี้ขาด 15 คดีดังกล่าวข้างต้น. 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"