คำพ่อสอน


เพิ่มเพื่อน    

                คนไทยลืมง่าย...ก็น่าจะจริง

                ลืมได้ทุกเรื่อง กระทั่งคำที่พ่อสอน

                วานนี้ (๓ ธันวาคม) สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก  ประทานพระดำรัสเนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ ๕ ธันวาคม ๒๕๖๒ ความตอนหนึ่งว่า

                ......เมื่อ ๒๐ ปีที่แล้ว ในการพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้พระราชทานพระราชดำรัส ในการเสด็จออกมหาสมาคม ณ สีหบัญชร พระที่นั่งอนันตสมาคม ความตอนหนึ่งว่า ‘คุณธรรมข้อหนึ่ง ที่อุปถัมภ์และผูกพันคนไทยให้รวมกันเป็นเอกภาพ สามารถธำรงชาติบ้านเมืองให้มั่นคงเป็นอิสระยั่งยืนมาช้านาน

                คุณธรรมข้อนั้นก็คือไมตรี ความมีเมตตาหวังดีในกันและกัน คนที่มีไมตรีต่อกัน จะคิดอะไร ก็คิดแต่ในทางสร้างสรรค์ที่เป็นประโยชน์เกื้อกูลกัน

                จะพูดอะไร ก็ใช้เหตุผลเจรจากัน ด้วยความเข้าอกเข้าใจกัน จะทำอะไร ก็ช่วยเหลือกัน ด้วยความมุ่งดีมุ่งเจริญต่อกัน’ วันนี้ เป็นวาระบรรจบครบ ๒ ทศวรรษ แห่งพระราชดำรัสนี้ แต่เมื่อพิจารณาไปในสังคมไทยทุกวันนี้ ทุกคนย่อมรู้อยู่แก่ใจได้ว่า เราทั้งหลายได้ปฏิบัติตามพระราชดำรัสแล้วหรือไม่ เพียงใด.....

                ต้องยอมรับความจริงประการหนึ่งว่า ปัญหาทางการเมือง ที่สร้างความวุ่นวายไม่จบสิ้นนี้ ส่วนหนึ่งมาจาก คนไทยไม่มีไมตรีต่อกัน

                ไม่ใช้เหตุผลในการเจรจากัน

                มุ่งร้ายต่อกัน เพราะผลประโยชน์ที่กองอยู่ข้างหน้า

                หากเราย้อนกลับไปในอดีต ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ได้มีพระราชดำรัส พระบรมราโชวาท และรับสั่งเกี่ยวกับความรักสามัคคีของคนในชาติอยู่หลายครั้ง

                เมื่อปี ๒๕๓๕ เกิดเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ในหลวงรัชกาลที่ ๙ มีพระราชดำรัสพระราชทานแก่  พล.อ.สุจินดา คราประยูร และ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง เมื่อวันที่ ๒๐ พฤษภาคม ๒๕๓๕ ตอนหนึ่งว่า

                ......ประเทศของเรา ไม่ใช่ประเทศของหนึ่งคน สองคน เป็นประเทศของทุกคน ต้องเข้าหากัน ไม่เผชิญหน้ากัน แก้ปัญหา เพราะว่าอันตรายมีอยู่

                เวลาคนเราเกิดความบ้าเลือด ปฏิบัติการรุนแรงต่อกัน มันลืมตัว ลงท้ายก็ไม่รู้ว่าตีกันเพราะอะไร แล้วก็จะแก้ปัญหาอะไร เพียงแต่ว่า จะต้องเอาชนะ แล้วก็ใครจะชนะ ไม่มีทางชนะ

                อันตรายทั้งนั้น มีแต่แพ้ คือ ต่างคนต่างแพ้ ผู้ที่เผชิญหน้าก็แพ้ แล้วก็ที่แพ้ที่สุดก็คือ ประเทศชาติ ประชาชน จะเป็นประชาชนทั้งประเทศ ไม่ใช่ประชาชนเฉพาะในกรุงเทพมหานคร

                ถ้าสมมุติว่า กรุงเทพมหานครเสียหาย ประเทศก็เสียหายไปทั้งหมด แล้วก็จะมีประโยชน์อะไร ที่จะทะนงตัวว่าชนะเวลาอยู่บนกองสิ่งปรักหักพัง.....

                ครับ...เราจำได้ว่าวันที่ ๕ ธันวาคมคือวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร

                วันพ่อแห่งชาติ

                และวันชาติ

                แต่เราต้องจำให้ได้ด้วยว่า พ่อสอนอะไรเอาไว้บ้าง

                และนำคำพ่อสอนไปใช้อย่างไร. 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"