นับถอยหลังชิงเก้าอี้เขต 7 ขอนแก่น กกต.คาดแห่ใช้สิทธิ์ทะลุกว่า 70%


เพิ่มเพื่อน    

    หลังจากที่มีการประกาศพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งซ่อม ส.ส. เขต 7 ขอนแก่น แทนตำแหน่งที่ว่างลง ด้วยเหตุที่นายนวัธ เตาะเจริญสุข อดีต ส.ส.เขตดังกล่าว ถูกศาลชั้นต้นพิพากษาตัดสินประหารชีวิตนายนวัธ เตาะเจริญสุข ส.ส.จังหวัดขอนแก่น พรรคเพื่อไทย คดีจ้างวานฆ่านายสุชาติ โคตรทุม อดีตปลัด อบจ.ขอนแก่น จึงทำให้สมาชิกภาพความเป็น ส.ส.ของเจ้าตัวมีอันสิ้นสุดลงตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 13 พ.ย.62 ที่ผ่านมา
     โดยการเลือกตั้งครั้งนี้จะไม่นำคะแนนเสียงที่ได้จากการเลือกตั้งใหม่ ไปคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ เนื่องจากเป็นการเลือกตั้งที่ไม่ได้เกิดจากการทุจริตการเลือกตั้ง โดยการนำมาคำนวณ ส.ส. มีเฉพาะกรณีเดียวคือ การเลือกตั้งใหม่ที่มีการทุจริต ไม่เป็นธรรม หรือมีใบเหลือง ใบแดง จากคำตัดสินของศาล กรณี ส.ส.ตาย ลาออก หรือพ้นสภาพไม่ต้องคำนวณใหม่
     อย่างไรก็ตาม ทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ประกาศให้วันลงคะแนนใช้สิทธิ์เลือกตั้งเป็นวันอาทิตย์ที่ 22 ธ.ค. โดยเปิดรับสมัครผู้สมัครรับเลือกตั้ง ตั้งแต่ 28 พ.ย.ถึง 2 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยมีผู้สมัครทั้งสิ้น 4 คน ประกอบไปด้วย นายธนิก มาสีพิทักษ์ พรรคเพื่อไทย เบอร์ 1, นายสมศักดิ์ คุณเงิน พรรคพลังประชารัฐ เบอร์ 2, พ.ต.อ.กิตติกูร กาญจนสกุล พรรคเสรีรวมไทย เบอร์ 3 และนายสุทัศน์ ผลบุญ พรรคพัฒนาชาติ เบอร์ 4
     ปรากฏว่าการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการแข่งขันกันระหว่างตัวเต็งของทั้ง 2 ขั้ว ระหว่างฝ่ายค้านพรรคเพื่อไทย และฝ่ายรัฐบาลพรรคพลังประชารัฐ ที่ต่างต้องการเก้าอี้ที่ว่างอยู่มาเติมเต็มเสียงของตัวเอง ที่ต่างปริ่มน้ำทั้งสิ้น 
    โดยแม้ว่าฝั่งขั้วรัฐบาลจะได้เสียงจากพรรคเล็กที่เคยแยกไปเป็นฝ่ายค้านอิสระกลับคืนมาก็ตาม แต่เกินครึ่งกับจำนวน ส.ส.ในสภาฯ ไม่มาก อีกทั้งในอนาคตข้างหน้าก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น จะมีการบาดหมางกับพรรคร่วมรัฐบาลกันอีกหรือไม่ อย่างน้อยฝ่ายรัฐบาลก็ต้องมีการเก็บตุนเก้าอี้ไปก่อน เรียกง่ายๆ ว่ามีดีกว่าไม่มี
     ในส่วนของฝ่ายค้านเอง โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยก็ต้องการนำเก้าอี้เดิมของเจ้าตัวกลับคืนมา โดยในพื้นที่ดังกล่าว นายนวัธได้เป็น ส.ส.ในพื้นที่ดังกล่าวถึง 3 สมัย คือ ปี 2550 สังกัดพรรคพลังประชาชน ปี 2554 และปี 2562 จากพรรคเพื่อไทย ซึ่งถ้านายธนิกชนะการเลือกตั้ง ก็จะทำให้เห็นว่าพรรคเพื่อไทยยังมีเสียงที่เข้มแข็งอยู่ในพื้นที่นั้น และยังคงมั่นใจว่าในการเลือกตั้งครั้งต่อไปพรรคเพื่อไทยก็จะสามารถคุมพื้นที่ได้อยู่
     ด้าน กกต. ทางรองเลขาธิการ กกต. นายไพบูลย์ เหล็กพรหม ได้มีการจัดฝึกอบรมและผู้ช่วยหาเสียงเพื่อชี้แจงกฎหมายในการเลือกตั้ง ว่าสิ่งไหนทำได้และทำไม่ได้ในช่วงระหว่างการหาเสียง อีกทั้ง กกต.ประจำจังหวัดขอนแก่น ได้มีการเตรียมความพร้อม ซักซ้อมความเข้าใจกับเจ้าหน้าที่ก่อนที่จะมีการลงคะแนนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งฝั่ง กกต.ไม่มีปัญหาแต่อย่างใดในเรื่องการเตรียมการ โดยมีการคาดการณ์ว่ามีผู้มาใช้สิทธิ์กว่า 70 เปอร์เซ็นต์ จาก 140,000 คน ของผู้ที่มีสิทธิ์เลือกตั้ง  
      โดยการลงพื้นที่ของทั้ง 2 ฝ่ายเป็นไปด้วยความเข้มข้น แค่วันที่ 8 ที่ผ่านมา ทั้ง 2 ฝ่ายต่างนำแกนนำเข้ามาช่วยหาเสียงสนับสนุน โดยฝั่งพรรคพลังประชารัฐ นายสนธิรัตน์  สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วยนายเอกราช ช่างเหลา ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ, นายวัฒนา ช่างเหลา ส.ส.ขอนแก่น เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ ลงพื้นที่แนะนำผู้สมัครให้กับพ่อค้าแม่ค้าในพื้นที่ 
    โดยมีการประชันหน้ากันระหว่างฝ่ายเพื่อไทย นำโดย นายอดิศร เพียงเกษ แกนนำพรรคเพื่อไทย ที่ได้นำแกนนำพรรคเพื่อไทยและ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ในหลายจังหวัดของภาคอีสานลงพื้นที่หาเสียงและแนะนำตัวผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย แม้ว่ามีการสะกิดและเหน็บกันทั้ง 2 ฝ่าย แต่ก็หาเสียงไปอย่างราบรื่น ไม่ได้มีปัญหากระทบกระทั่งกัน ตามกติกาที่วางเอาไว้
     ซึ่งสรุปแล้วใครจะชนะในเขตดังกล่าวก็เกิดจุดเปลี่ยนทั้ง 2 ฝ่ายทั้งสิ้น เพราะจะไปประกอบกับคะแนนของ ส.ส.ในการลงมติในเรื่องต่างๆ โดยฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายค้านจะกุมความได้เปรียบกัน เราก็ต้องติดตามกันในวันลงคะแนนเลือกตั้ง ในวันที่ 22 นี้ แล้วจะทราบผลทันที.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"