จั่วหัวให้ดูน่าตื่นเต้น

                เพราะเรื่องที่จะพูดคุยวันนี้ น่าตื่นตาตื่นใจจริงๆ

                นอกจากชายรักชายสีส้มแสดงละครเรตอาร์กลางสภาฯ แล้วยังมีอะไรบ้าง

                ลองย้อนกลับไปดู นับแต่มีพรรคอนาคตใหม่ สังคมไทยเกิดความขัดแย้งทางวัฒนธรรม จารีต ประเพณีมาแล้วกี่รอบ

                ทั้งจากปาก "ธนาธร" เอง และชนชั้นสูงยันลิ่วล้อแถวสองแถวสามในอนาคตใหม่

                ".........ผมยังนั่งคุยกับพวกเขาอยู่เลยว่า ถ้าพรรคของเราเกิดได้เมื่อไร ในพรรคของเราอยากให้เลิกใช้คำว่า พี่ น้อง ลุง ป้า น้า อา อยากให้เลิกใช้คำพวกนี้ให้หมด สร้างวัฒนธรรมใหม่ๆ

                อย่างที่ผมบอก อะไรก็ตามที่อยากให้เกิดก็ต้องทำในพรรคก่อน

                เราต้องการยกเลิกวัฒนธรรมอำนาจนิยมซึ่งกีดกันโอกาส กีดกันความคิดสร้างสรรค์ของคน

                เรียกคนอื่นเป็นพี่ ป้า น้า อาเมื่อไร มันเป็นการเข้าไปอยู่ในโครงสร้างอำนาจนั้น

                เราจึงคิดว่า ใช้คำว่า คุณ ผม ดิฉัน สามคำเพียงพอแล้ว ให้เกียรติกันมากพอแล้ว ไม่มีพี่ ไม่มีท่าน........."

                ".......ยกตัวอย่างง่ายๆ พิธีไหว้ครู เป็นพิธีกรรมที่ล้าหลังมาก เอาพิธีกรรมที่เจ้ายศเจ้าอย่างออกไปทั้งหมด จากระบบการศึกษา........."

                "..........ไม่ต้องหมอบกราบพระเจ้าองค์ไหน หรือบริจาคเงินให้ผู้วิเศษองค์ใด........."

                "..........รัฐไทยไม่ควรอุปถัมภ์ศาสนาพุทธ" เพราะการอุปถัมภ์พระพุทธศาสนาคือต้นเหตุความไม่สงบใน ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้........."

                "..........การสะสมทุนก็กระจุกตัวอยู่แค่กลุ่มคนระดับสูงบางกลุ่มเหมือนกัน ถามว่าแล้วทุนชาติกับทุนต่างชาติต่างกันอย่างไร ไม่ต่างกัน เพียงแต่เรามีมายาคติ ท้ายที่สุดเศรษฐกิจพอเพียงก็เป็นวาทกรรมแบบหนึ่งเท่านั้นเอง..........."

       ".......ทันทีหลังรัฐประหาร หมวด ๗ รัฐธรรมนูญปี ๒๕๕๐ ที่ร่างแล้วก็ผ่านประชามติ ในสมัยที่สังคมไทยอยู่ใต้อุ้งตีนรัฐประหาร มาตรา ๘๓ รัฐต้องส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการดำเนินการตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง

                ซึ่งโดยเนื้อแท้แล้ว คือการบอกกับประชาชนว่า คุณอย่าริอาจข้ามชนชั้น มึงเป็นชาวนาก็เป็นชาวนาไป เป็นไพร่ก็เป็นไพร่ต่อไป

                อย่าริอาจมักใหญ่ใฝ่สูง ความโลภและความอยากมีชีวิตที่ดีขึ้น เป็นกิเลสตัณหาและเป็นสิ่งชั่วร้าย ซึ่งขัดกับศีลธรรมอันดีงามในสังคมไทย.........."

                ทั้งหมดคือคำพูดของ "ธนาธร"

                และหลายครั้งคนในพรรคอนาคตใหม่ อาทิ ปิยบุตร แสงกนกกุล พรรณิการ์ วานิช มีทัศนคติด้านลบต่อสถาบันพระมหากษัตริย์

                แม้กระทั่งระบอบการปกครอง

                ครับ...ทั้งหมดนี้ หากพรรคอนาคตใหม่ได้เป็นรัฐบาล "ธนาธร" ได้เป็นนายกรัฐมนตรี จะเกิดอะไรขึ้น?

                เวลาที่ถูกวิจารณ์ว่า "ชังชาติ" พรรคอนาคตใหม่ต้องหันกลับมามองตัวเองว่า เป็นเช่นนั้นจริงหรือไม่

                การจะยืนกรานว่าความคิดตัวเองถูกต้องที่สุด ก็เป็นสิทธิ์ที่จะคิดเช่นนั้น แต่อย่าลืมว่า ความเห็นต่าง จากประเด็นข้างต้นนั้นมหาศาลมาก

                เราอยู่ในช่วงแห่งความขัดแย้งทางการเมืองรุนแรง ที่จะหาจุดสิ้นสุดไม่ได้

                พรรคอนาคตใหม่สร้างประเด็นใหม่ขึ้นมา         

                ก่อความขัดแย้งด้านวัฒนธรรม หยามเหยียดความเชื่อผู้อื่น

                จะวิบัติกว่าความขัดแย้งทางการเมืองหลายเท่า.