ส่งออกข้าวไทยโตพรวด 11เดือนระบาย10ล้านตัน


เพิ่มเพื่อน    

สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยเผยรายงานสถานการณ์การส่งออกข้าวในช่วง 11 เดือนของปี 60 มีปริมาณ 10,474,084 ตัน โตขึ้น 19.9% "พาณิชย์” ส่งสายตรวจออกตรวจสอบสินค้าทั่วประเทศ ป้องกันผู้บริโภคโดนเอาเปรียบ เผยจะตรวจเข้มทั้งสถานีขนส่ง สถานีรถไฟ แหล่งท่องเที่ยว และปั๊มน้ำมัน เพื่อสร้างความมั่นใจให้ประชาชนว่าจะไม่โดนเอาเปรียบ เผยหากพบเห็นการฉวยโอกาส แจ้งสายด่วน 1569 ทันที

สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยรายงานสถานการณ์การส่งออกข้าวในช่วง 11 เดือนของปี 2560 (มกราคม-พฤศจิกายน) ว่า มีปริมาณ 10,474,084 ตัน มูลค่า 156,633 ล้านบาท (4,618 ล้านเหรียญสหรัฐ) โดยปริมาณส่งออกเพิ่มขึ้น 19.9% และมูลค่าเพิ่มขึ้น 14.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2559 ที่มีการส่งออกปริมาณ 8,735,155 ตัน มูลค่า 137,262 ล้านบาท (3,914 ล้านเหรียญสหรัฐ)

โดยการส่งออกข้าวในเดือนพฤศจิกายน มีปริมาณ 1,488,049 ตัน มูลค่า 22,281 ล้านบาท โดยปริมาณส่งออกเพิ่มขึ้นถึง 98.3% และมูลค่าเพิ่มขึ้น 87.5% เมื่อเทียบกับเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ที่มีการส่งออกข้าวปริมาณ 750,093 ตัน มูลค่า 11,884 ล้านบาท เนื่องจากในเดือนพฤศจิกายนมีการส่งออกทั้งข้าวนึ่งและข้าวขาวเพิ่มขึ้น และมีการเร่งส่งมอบข้าวตามสัญญาที่ค้างอยู่เพื่อให้ทันใช้ในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่

สำหรับในเดือนพฤศจิกายน มีการส่งออกข้าวขาวปริมาณรวม 639,773 ตัน เพิ่มขึ้น 73.3% เมื่อเทียบกับเดือนตุลาคม ในขณะที่การส่งออกข้าวนึ่งมีปริมาณ 579,627 ตัน เพิ่มขึ้นถึง 157.8% เมื่อเทียบกับเดือนตุลาคม ส่วนการส่งออกข้าวหอมมะลิมีปริมาณรวม 223,319 ตัน เพิ่มขึ้น 76.1% เมื่อเทียบกับเดือนตุลาคม

ทั้งนี้ สมาคมคาดว่าในเดือนสุดท้ายของปีจะมีการส่งออกข้าวประมาณ 800,000 ตัน ซึ่งจะทำให้ปริมาณส่งออกทั้งปีอยู่ที่ 11.2-11.3 ล้านตัน ซึ่งเป็นปริมาณส่งออกที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ของการส่งออกข้าวไทย เนื่องจากผู้ส่งออกยังคงมีสัญญาส่งมอบ ที่ต้องเร่งส่งมอบให้ทันใช้ก่อนช่วงเทศกาล ประกอบกับหลายประเทศในแถบแอฟริกาที่นำเข้าทั้งข้าวขาว (ข้าวใหม่และข้าวเก่า) และข้าวนึ่งอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าในช่วงนี้ค่าเงินบาทจะเริ่มอ่อนค่าลงมาบ้างจากระดับประมาณ 32.20 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ มาอยู่ที่ระดับ 32.70 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ แต่ก็ยังคงส่งผลกระทบต่อการกำหนดราคาข้าวไทย โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิ ประกอบกับอุปทานข้าวหอมมะลิในตลาดมีจำกัด จึงยิ่งทำให้ราคาข้าวหอมมะลิของไทยแพงกว่าประเทศคู่แข่ง

โดยราคาข้าวหอมมะลิ 100% (ปีการผลิต 2560/61) ที่สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยประกาศเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2560 ราคาอยู่ที่ 993 เหรียญสหรัฐต่อตัน ในขณะที่ราคาข้าวหอมของเวียดนามราคาอยู่ที่ประมาณ 600 เหรียญสหรัฐต่อตัน ส่วนกัมพูชาราคาอยู่ที่ประมาณ 800 เหรียญสหรัฐต่อตัน

นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยภายหลังตรวจสอบการจำหน่ายสินค้าช่วงเทศกาลปีใหม่ 2561 ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (หมอชิต) ว่า กรมได้ส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบและติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าบริเวณสถานีขนส่งและสถานีรถไฟทั่วประเทศ เช่น สถานีขนส่งหมอชิต สถานีขนส่งเอกมัย สถานีขนส่งสายใต้ใหม่ สถานีขนส่งย่อยนครชัยแอร์ สถานีขนส่งย่อยสมบัติทัวร์ สถานีขนส่งย่อยสยามเฟิสท์ทัวร์ และสถานีรถไฟหัวลำโพง รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ เพื่อป้องกันการฉวยโอกาสและเอารัดเอาเปรียบประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวช่วงเทศกาลปีใหม่

“ช่วงปีใหม่ ประชาชนเดินทางกลับบ้านหรือไปท่องเที่ยวตามต่างจังหวัด และต้องใช้บริการรถโดยสารประจำทางหรือรถไฟ โดยในการเดินทางต้องรับประทานอาหารและเครื่องดื่ม และยังซื้อหาสินค้าเพื่อใช้บริโภคหรือนำไปเป็นของฝากญาติพี่น้อง จึงได้ให้เจ้าหน้าที่สายตรวจออกตรวจสอบและติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าอย่างใกล้ชิด เพิ่มเติมจากการออกตรวจสอบที่ดำเนินการเป็นประจำอยู่แล้ว”

ทั้งนี้ กรมยังได้รณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการตามสถานีขนส่งและสถานีรถไฟ เช่น ผู้จำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม ผู้จำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค ผู้ให้บริการรับฝากของบริการรถเข็นสัมภาระ ให้มีการปิดป้ายแสดงราคาสินค้าและค่าบริการอย่างชัดเจน รวมทั้งกำชับให้คิดค่าสินค้าและบริการให้ตรงกับป้ายราคาที่แสดงไว้ เพื่อป้องปรามมิให้มีการฉวยโอกาสขึ้นราคาจำหน่ายสินค้าและบริการสูงเกินสมควรในช่วงเทศกาลที่มีประชาชน โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อยมาใช้บริการกันอย่างคับคั่ง

นายบุณยฤทธิ์กล่าวว่า ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบมาตรวัดของสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงทั้งที่เข้าร่วมโครงการ “น้ำมันเต็มลิตร” และสถานีบริการที่ไม่ได้เข้าร่วมโครงการ เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชนที่เดินทางในช่วงเทศกาลปีใหม่ว่าจะไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบจากการเติมน้ำมัน โดยขอแนะนำให้ประชาชนที่เติมน้ำมันให้มองหาปั๊มที่มีป้าย “น้ำมันเต็มลิตร” ที่ติดอยู่ทางเข้าสถานีบริการ ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนทั้งสิ้น 3,582 แห่งทั่วประเทศ

อย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นการเอารัดเอาเปรียบ สามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 และในต่างจังหวัดร้องเรียนได้ที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ กรมจะจัดส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ และหากพบการกระทำความผิดจริง จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยกรณีไม่ปิดป้ายแสดงราคามีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท กรณีจำหน่ายสินค้าราคาสูงเกินสมควร กักตุนสินค้าและปฏิเสธการจำหน่ายต้องโทษจำคุก 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"