‘ทอน’นายกฯบนโพล คะแนนแซงประยุทธ์ทักษิณตกกระป๋องไร้ชื่อ


เพิ่มเพื่อน    

 "ธนาธร" แซง "ลุงตู่" ครองใจทุกโพล เชียร์นั่งนายกฯ ยกให้เป็นนักการเมืองแห่งปีที่ชื่นชอบมากสุด ส่วน "อนาคตใหม่" ซิวคะแนนนิยมอันดับ 1 นักวิชาการชี้สะท้อนการทำงานรัฐบาลดึงเรตติ้ง "ลุงตู่" วูบ ขณะที่ "หญิงหน่อย" คว้านักการเมืองหญิงฝ่ายค้านที่ประชาชนชอบที่สุด ส่วนฝ่ายรัฐบาลเทให้ "หนูนา"

    เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจของประชาชนเรื่อง “การสำรวจคะแนนนิยมทางการเมืองรายไตรมาส ครั้งที่ 1” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 18-20 ธ.ค.2562 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา และอาชีพทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้นจำนวน 2,511 หน่วยตัวอย่าง จากการสำรวจเมื่อถามถึงบุคคลที่ประชาชนจะสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีในวันนี้ พบว่า ส่วนใหญ่ อันดับ 1 ร้อยละ 31.42 ระบุว่าเป็น นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ (พรรคอนาคตใหม่) เพราะอยากเห็นคนรุ่นใหม่เข้ามาบริหารบ้านเมือง มีความคิดที่พัฒนาประเทศ และเศรษฐกิจได้ดี และชื่นชอบพรรคอนาคตใหม่เป็นการส่วนตัว 
    รองลงมา อันดับ 2 ร้อยละ 23.74 ระบุว่าเป็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพราะบริหารงานดีอยู่แล้ว เป็นคนตรงไปตรงมา บ้านเมืองสงบไม่วุ่นวาย ช่วยเหลือประชาชนได้จริง และอยากให้ดำรงตำแหน่งต่อไป, อันดับ 3  ร้อยละ 17.32 ระบุว่ายังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้, อันดับ 4 ร้อยละ 11.95 ระบุว่าเป็นคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เพราะชอบนโยบายพรรคเพื่อไทยและต้องการให้มาช่วยแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจให้ดียิ่งขึ้น อยากให้ผู้หญิงขึ้นมาบริหารประเทศบ้าง และชื่นชอบเป็นการส่วนตัว, อันดับ 5 ร้อยละ 3.90 ระบุว่าเป็น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส (พรรคเสรีรวมไทย) เพราะเป็นคนตรงไปตรงมา พูดจริง ทำจริง สามารถพัฒนาให้ประเทศเจริญรุ่งเรืองได้ และชื่นชอบเป็นการส่วนตัว, อันดับ 6 ร้อยละ 3.46 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ, อันดับ 7 ร้อยละ 2.47 ระบุว่าเป็นนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ (พรรคประชาธิปัตย์) เพราะเป็นคนตรงไปตรงมา ซื่อสัตย์สุจริต ไม่มีประวัติด่างพร้อย และชื่นชอบพรรคประชาธิปัตย์เป็นการส่วนตัว 
    อันดับ 8 ร้อยละ 1.08 ระบุว่าเป็นนายอนุทิน ชาญวีรกูล (พรรคภูมิใจไทย) เพราะมีผลงานในการทำงานที่ดี มีความรู้ ความสามารถ ซื่อสัตย์สุจริต และสามารถพัฒนาให้ประเทศเจริญรุ่งเรืองได้, อันดับ 9 ร้อยละ 0.88 ระบุว่าเป็น น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา (พรรคชาติไทยพัฒนา) เพราะชื่นชอบนโยบายของพรรค ทำงานสานต่อจากคุณพ่อได้ดี และอยากให้ผู้หญิงขึ้นมาบริหารประเทศบ้าง และนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ (พรรคเศรษฐกิจใหม่) เพราะมีนโยบายพรรคที่ชัดเจน น่าจะช่วยแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจได้ดี ในสัดส่วนที่เท่ากัน, อันดับ 10 ร้อยละ 0.67 ระบุว่าเป็นนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เพราะมีความซื่อสัตย์สุจริตในการทำงาน และชื่นชอบเป็นการส่วนตัว, อันดับ 11 ร้อยละ 0.56 ระบุว่าเป็นนายชวน หลีกภัย เพราะมีผลงานและการทำงานที่ผ่านมาดี มีความเหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 
    อันดับ 12 ร้อยละ 0.47 ระบุว่าเป็นนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา  (พรรคประชาชาติ) เพราะไม่น่าจะมีเรื่องคอร์รัปชันและชื่นชอบเป็นการส่วนตัว, อันดับที่ 13 ร้อยละ 0.40 ระบุว่าเป็นนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ (พรรคเพื่อไทย) เพราะเป็นคนที่มีความคิดรอบคอบ และผลงานของพรรคเพื่อไทยดี, อันดับ 14 ร้อยละ 0.32 ระบุว่าเป็น หม่อมราชวงศ์จัตุมงคล โสณกุล (พรรครวมพลังประชาชาติไทย) เพราะมีประสบการณ์ในการทำงานที่ยาวนาน, อันดับ 15 ร้อยละ 0.16 ระบุว่าเป็นนายเทวัญ ลิปตพัลลภ (พรรคชาติพัฒนา), อันดับที่ 16 ระบุว่าเป็นนายชัชชาติ  สิทธิพันธุ์ เพราะมีความมุ่งมั่นในการทำงาน และอันดับ 17 ร้อยละ 0.04 ระบุว่าเป็นนายอุตตม สาวนายน (พรรคพลังประชารัฐ) เพราะมีผลงานและการทำงานดี, นายกรณ์ จาติกวณิช, นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์, นายชิงชัย มงคลธรรม และนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เพราะเป็นคนออกมาพูดเรื่องกฎหมายที่ควรจะร่างให้ถูกต้อง ไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ในสัดส่วนที่เท่ากัน
    ท้ายที่สุด เมื่อถามถึงพรรคการเมืองที่ประชาชนจะสนับสนุนในวันนี้ พบว่า ส่วนใหญ่ อันดับ 1 ร้อยละ 30.27 ระบุว่าเป็นพรรคอนาคตใหม่ รองลงมา อันดับ 2 ร้อยละ 19.95 ระบุว่าเป็นพรรคเพื่อไทย, อันดับ 3 ร้อยละ 16.69 ระบุว่าเป็นพรรคพลังประชารัฐ,  อันดับ 4 ร้อยละ 13.46 ระบุว่าไม่สนับสนุนพรรคการเมืองใดเลย,  อันดับ 5 ร้อยละ 10.83 ระบุว่าเป็นพรรคประชาธิปัตย์, อันดับ 6 ร้อยละ 2.43 ระบุว่าเป็นพรรคภูมิใจไทย, อันดับ 7 ร้อยละ 2.03 ระบุว่าเป็นพรรคเสรีรวมไทย, อันดับ 8 ร้อยละ 1.59 ระบุว่าไม่ตอบ/ไม่สนใจ, อันดับ 9 ร้อยละ 0.92 ระบุว่าเป็นพรรคชาติไทยพัฒนา, อันดับ 10 ร้อยละ 0.48 ระบุว่าเป็นพรรคเศรษฐกิจใหม่,  อันดับ 11 ร้อยละ 0.39 ระบุว่าเป็นพรรคพลังไทยรักไทย, อันดับ 12 ร้อยละ 0.20 ระบุว่าเป็นพรรคเพื่อชาติ, พรรคประชาชาติ และพรรคความหวังใหม่ ในสัดส่วนที่เท่ากัน อันดับ 13 ร้อยละ 0.08 ระบุว่าเป็นพรรครวมพลังประชาชาติไทย และพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย และอันดับ 14 ร้อยละ 0.04 ระบุว่าเป็นพรรคครูไทยเพื่อประชาชน, พรรคชาติพัฒนา, พรรคไทยศรีวิไลย์, พรรคไทรักธรรม และพรรคประชาธิปไตยใหม่ ในสัดส่วนที่เท่ากัน
    กรุงเทพโพลล์ โดยศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ เผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนเรื่อง “ที่สุดแห่งปี 2562” โดยเก็บข้อมูลจากประชาชนทั่วประเทศจำนวน 1,228 คน พบว่า นักการเมืองแห่งปีที่ชื่นชอบมากที่สุด 5 อันดับแรก คือ (เป็นคำถามปลายเปิดให้ผู้ตอบระบุเอง) อันดับ 1 ร้อยละ 32.0 นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ, อันดับ 2 ร้อยละ 29.2 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา, อันดับ 3 ร้อยละ 13.5 นายชวน หลีกภัย, อันดับ 4 ร้อยละ 6.1 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์, อันดับ 5 ร้อยละ 5.0 พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส
    "สวนดุสิตโพล" มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชน กรณี “ที่สุดแห่งปี” ซึ่งทำต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี ครอบคลุมทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม ได้สำรวจความคิดเห็นจากประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ จำนวน 8,475 คน ระหว่างวันที่ 10-28 ธ.ค.2562 พบว่า “นักการเมืองชาย” ที่ “ชื่นชอบ” มากที่สุด ฝ่ายรัฐบาล อันดับ 1 ร้อยละ 54.19 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา, อันดับ 2 ร้อยละ 23.25 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์, อันดับ 3 ร้อยละ 22.56 นายอนุทิน ชาญวีรกูล ส่วนฝ่ายค้าน อันดับ 1  ร้อยละ 51.54 นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ, อันดับ 2 ร้อยละ 28.35 นายปิยบุตร แสงกนกกุล, อันดับ 3 ร้อยละ 20.11 นายจิรายุ ห่วงทรัพย์
    ขณะที่ “นักการเมืองหญิง” ที่ “ชื่นชอบ” มากที่สุด ฝ่ายรัฐบาล อันดับ 1 ร้อยละ 52.97 น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา, อันดับ 2 ร้อยละ 47.03 น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี ส่วนฝ่ายค้าน อันดับ 1 ร้อยละ 65.85 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์, อันดับ 2 ร้อยละ 34.15 น.ส.พรรณิการ์ วานิช เมื่อถามถึงความหวังในปีหน้า 2563 ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 81.59 ระบุเศรษฐกิจดีขึ้น ประชาชนอยู่ดีกินดี รองลงมา ร้อยละ 11.61 คนไทยสามัคคีปรองดอง ประเทศชาติสงบสุข และร้อยละ 6.80 กฎหมายเข้มแข็ง ยุติธรรม
    นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล เปิดเผยผลโพลเรื่อง บุคคลแห่งปี 2562 กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,192 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 25-28 ธ.ค.2562 พบว่า กิจกรรม พฤติกรรม ที่ทำให้คนไทยไม่ชอบเพราะเป็นทุกข์มากที่สุดเมื่อเห็นหรือทราบข่าว อันดับที่หนึ่ง ร้อยละ 59.5 ได้แก่ กิจกรรมทางการเมือง เช่น วิ่งไล่ลุง วิ่งเชียร์ลุง พาคนลงถนน เป็นต้น, อันดับที่สอง ร้อยละ 11.2 ได้แก่ ข่าวลวง ข่าวหลอก เฟกนิวส์, อันดับที่สาม ร้อยละ 9.6  ได้แก่ ชุมนุมประท้วง บ้านเมืองวุ่นวาย ที่เหลือร้อยละ 19.7 ระบุอื่นๆ เช่น ทะเลาะกันในสภา กอดจูบในสภา ก่อความเดือดร้อนรำคาญ ภัยคุกคาม ขับรถประมาทหวาดเสียว ไม่มีวินัย ไม่เคารพกฎจราจร เป็นต้น
    ทางด้าน รศ.ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต อาจารย์ประจำหลักสูตรการเมืองและยุทธศาสตร์การพัฒนา คณะพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม นิด้า โพสต์ข้อความแสดงความเห็นของนิด้าโพลว่า เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีก็ว่าได้ที่ความนิยมต่อ พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะนายกรัฐมนตรีลดลงจนกลายเป็นลำดับที่ 2 ขณะที่ความนิยมต่อนายธนาธรพุ่งขึ้นไปเป็นลำดับที่ 1 ส่วนความนิยมในพรรคการเมือง พรรคอนาคตใหม่ก็นำเป็นลำดับหนึ่งเกือบทุกภาค มีเพียงภาคใต้ที่เป็นรองพรรคประชาธิปัตย์เล็กน้อย ย่อมแสดงให้เห็นว่าการทำงานของรัฐบาลที่ผ่านมาไม่สามารถดึงคะแนนนิยมจากประชาชนเพิ่มขึ้นได้เลย กลับยิ่งสูญเสียคะแนนนิยมไปเสียอีก.
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"