'เสือ'อัปเดตอาการ'เสก โลโซ'ยันผลDNAยังไงก็ยังรักน้อง'ลีออง'


เพิ่มเพื่อน    

 

          ก่อนหน้านี้ดูเหมือน กานต์ วิภากร จะจับมือเป็นพันธมิตรกับ แซนวิช ปภาดา ภรรยาอีกคนของ เสก โลโซ (เสกสรรค์ ศุขพิมาย) แถมมีการเปรยว่าจะมีการทำงานร่วมกัน แต่ล่าสุดเหตุการณ์กลับพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ เมื่อฝ่ายกานต์ เรียกร้องให้สาวแซนวิชพาลูกชาย “น้องลีออง” ไปตรวจดีเอ็นเอ ว่าเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของร็อคเกอร์หนุ่มจริงหรือไม่ ทำเอา เสือ เสฏกานต์ ลูกชายคนโตของ เสกและกานต์ ออกมาโพสต์ระบายผ่านเพจส่วนตัวถึงขั้นบอกว่าไม่อยากอยู่บนโลกใบนี้เลยทีเดียว

          ล่าสุด เสือ มาเปิดใจผ่านทางรายการ คุยแซ่บShow ถึงเรื่องราวดราม่าที่เกิดขึ้นต่างๆ พร้อมยืนยัน ไม่ว่าลีอองจะเป็นลูกพ่อหรือไม่ ผมก็รักน้องเหมือนเดิม

          “แซนวิชเขาเพิ่งเข้ามาประมาณกลางปีที่แล้ว ถ้าจำไม่ผิดประมาณเดือนกันยายน ผมก็ไม่รู้ว่าเขาคุยกันยังไง วันหนึ่งผมลงมาก็เห็นเขาเลย ตอนนั้นก็ไม่ค่อยรู้ว่าเขาเป็นใคร แต่ก็มาเริ่มรู้จักกันและสนิทกันมากขึ้น เกดดราม่าตอนไหนเหรอ ถ้าผมลองคิดดูน่าจะประมาณกลางเดือนหรือต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา พูดจริงๆ ผมก็ไม่รู้ว่าเรื่องเกิดขึ้นเพราะอะไร เกิดขึ้นตอนไหน ช่วงไหน แต่ผมมีความรู้สึกว่าแม่กับพี่แซนวิชเริ่มห่างกันประมาณช่วงต้นธันวาคม แต่ผมก็ไม่แน่ใจว่าอะไรเกิดขึ้น ถ้าบอกว่าเป็นคนกลางก็ไม่ค่อยถูก คือ ผมเป็นคนข้างนอกเลย ผมไม่ได้ติดตามข่าวเรื่องนี้เลยไม่ได้ดูว่าอะไรเกิดขึ้น อะไรเป็นยังไง ไม่ได้ติดตามเพจแม่ เพจพี่แซนวิช ผมก็ไม่รู้ว่าอะไรเกิดขึ้น แต่ผมรู้ว่าผมรักน้องเหมือนเดิม

          แม่กับพี่แซนวิชมีปัญหากันจากเรื่องอะไร เป็นคำถามที่ยาก เรื่องแม่กับพี่แซนวิชผมว่ามันเกิดขึ้นก่อนหน้านี้แล้ว คือเขามีอะไรที่ไม่ตรงกันก่อนหน้านี้แล้ว แต่ก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร ความสัมพันธ์ก็ห่างกันเรื่อยๆ ความหึงหวงไหม ก็เป็นไปได้นะครับ แต่ว่าก็ตามที่ผมบอก ผมไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะอะไร

 

น้องลีออง - พี่เสือ

 

          ที่คุณแม่ออกมาโพสต์ท้าตรวจ DNA น้องลีออง ในแง่นี้ผมก็ไม่ค่อยมีจุดยืน แต่ว่าผมคิดว่าในอนาคตถ้าน้องโตขึ้นมาเขาก็น่าจะอยากจะรู้ว่าอะไรเป็นจริง เขาคือใคร แต่ว่าในตอนนี้ผมก็ไม่มีจุดยืนในการที่ควรไปตรวจหรือไม่ตรวจ คือผมก็รักเขาเหมือนเดิม ถ้าเขาเป็นลูกของพ่อจริงหรือว่าไม่จริง ผมก็ยังรักเขาเหมือนเดิม รักเหมือนน้องจริงๆ

          รู้สึกเบื่อกับเรื่องนี้ไหม ก็รู้สึกเหนื่อย รู้สึกเหนื่อยใจ จนกระทั่งผมมาโพสต์ในเพจตอนนั้นผมรู้สึกว่ามีอะไรเกิดขึ้น แต่ไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่รู้ว่าในบ้านมันไม่สงบ จิตใจผมก็รู้สึกเครียด อึดอัด ผมก็เลยอยากจะมาเปิดเผยว่ารู้สึกยังไง อยากจะระบายนิดหน่อย มันเป็นแบบการเอาความรู้สึกผมออกมาให้คนดู มันเหนื่อยตรงที่มีคนหลายๆคนเข้ามาในเพจ ในไอจีผม มาด่าคุณแม่ ในฐานะลูกผมก็รู้สึกว่าทำไมต้องมาด่าคุณแม่ต่อหน้าผม ทำไมต้องเอามาลงที่ผม ผมเลยเอาเรื่องแบบนี้ออกมาให้คนได้เห็น ทำไมโลกโซเชียลอยู่กันแบบสงบๆไม่ได้

          หลังจากที่เราโพสต์เราได้คุยกับคุณแม่ คุณแม่ก็รู้สึกเสียใจ รู้สึกกังวลที่เสือโพสต์ อะไรเกิดขึ้น เสือก็อธิบายให้ฟังว่าเสือเครียด เสือระบายออกมาก็ได้คุยนิดหน่อย ที่ผ่านมาที่แม่โพสต์โซเชียลผมก็ไม่ค่อยอยากจะเข้าไปอะไรมาก ผมก็ไม่ได้ติดตามเพจเขา แต่ได้ยินว่าเขาโพสต์เยอะอยู่ บางครั้งผมก็อยากให้เงียบ ลดลง ให้มันสงบ แต่ว่ามันก็เป็นเพจของเขา ผมก็ไม่อยากจะยุ่งอะไรมาก เขาเล่นโซเชียลก็เป็นงานของเขา คือถ้าเขาเลิกเล่นเลย ไม่โพสต์อะไรเลย ไม่มีความเคลื่อนไหวในโซเชียลเลยมันก็จะไม่มีงาน คือเขาขายของในเพจด้วย มันก็อยากให้เขาโพสต์เรื่อยๆ แต่ว่าอยากให้โพสต์ในแง่ดี โฟกัสในเรื่องครอบครัวดีๆ

 

น้องลีออง - แซนวิช

 

          คอมเม้นต์ที่มันแรง ผมไม่อยากพูด มันก็แรงหมด แรงมาเรื่อยๆ สะสม หลายๆคนมาคอมเมนต์ในอินสตาแกรมทำให้เครียดมาเรื่อยๆ ผมอยากบอกว่าเรื่องนี้ผมไม่ได้เกี่ยว เป็นเหมือนคนอยู่ข้างนอก แต่ในฐานะที่เราเป็นลูกแล้วเขาเป็นแม่เรา เขาก็จะดูว่าเสือเข้ามาเกี่ยว แล้วเขาก็ดึงเสือเข้ามาแล้วโพสต์ใส่ผมว่าอะไรเกิดขึ้น ทำไมเป็นอย่างนี้ แล้วแม่คุณเป็นอย่างนี้ ผมก็อยากบอกว่าอันนี้เป็นเรื่องของผู้ใหญ่ให้เขาจัดการเอง มันไม่ได้เกี่ยวกับผม เสือเองไม่ได้มีปัญหากับใคร

          ประโยคที่เสือบอกว่า บางครั้งอยากหายไปจากโลกใบนี้ ก็หายไปจากโลกนี้มันมีหลายความหมายครับที่ผมเขียนออกมา คือจุดแรกก็คือหายไปจากโลกโซเชียล หายไปจากจุดที่แสงมันเข้ามาหาผมประมาณนี้ ทุกอย่างที่ผมทำ ครอบครัวผมทำคนรู้หมด ผมก็อยากเอาตัวผมหายไปจากโลกนี้ แต่ว่าความหมายอื่นมันก็มี แต่ว่าผมไม่พูดดีกว่า ผมก็มีเศร้า มีนอยบ้าง แต่ว่าผมไม่เคยแบบไปถึงจุดที่ดาร์กสุดๆ ที่ต่ำสุดๆ

          พ่อรู้เรื่องไหม ผมว่าเขารู้อยู่แล้ว แต่ว่าผมกับพ่อไม่เคยคุยอะไรกันเลยเกี่ยวกับเรื่องนี้ผมไม่อยากเอาเรื่องนี้เข้าไปทำให้เขาเครียด คิดมาก ตอนผมอยู่กับพ่อก็ไม่ได้คุยเรื่องซีเรียสกันมาก ก็คุยเรื่องงานว่าวันนี้ไปไหน งานต่อไปเป็นอะไร แต่ว่าเรื่องจุกจิก เรื่องพวกนี้ไม่ได้คุยกันเลย ผมว่าเขาน่าจะรู้สึกคล้ายๆผม คือเขาน่าจะอึดอัด เครียดนิดหน่อย วันนึงก็ซึมๆบ้าง เพราะว่ามันมีเรื่องนี้เกิดขึ้น แต่ว่าเขาก็ไม่ได้พูดอะไรมาก

 

น้องลีออง - เสก โลโซ

 

          ตอนที่ทะเลาะกันพี่แซนวิชก็หายไป เขาก็ถามบ้าง เพราะมีช่วงนึงก่อนที่จะมีเรื่องใหญ่ ช่วงนั้นผมกับพี่แซนวิชสนิทกัน เขาก็พาผมไปคุยกับผู้ใหญ่ คนในวงการบันเทิง แล้วตอนที่พี่แซนวิชหายไป พ่อเขาจะถามว่า แซนวิชไปไหน วันนี้เขาไม่มาเหรอ เราก็บอกว่าบางวันเขาอาจจะอยากกลับบ้านบ้าง คือพี่แซนวิชบางวันเขาก็ซึมๆ เขาก็จะอยู่บ้าน อยู่กับพ่อเขา คือเขาเป็นคนกลางคนนึงจริงๆ แต่ผมอยากให้เขารู้สึกว่าเรื่องนี้มันเกี่ยวกับคุณแม่เกี่ยวกับพี่แซนวิช ไม่อยากให้พ่อคิดมาก ไม่อยากให้เขาเข้ามาในเรื่องนี้ จริงๆแล้วเขาก็ไม่ได้เกี่ยวอะไร เขาอยู่ในจุดนี้ก็เพราะว่าเขาเป็นสามีของสองคนนี้

          อาการของคุณพ่อตอนนี้ก็กินยาอยู่เรื่อยๆ เขาไปทำงาน ไปคอนเสิร์ต พอเขาขึ้นเวทีเขาก็จะเป็นอีกคน เขาจะเป็น เสก โลโซ แต่ว่าพอเขาเล่นเสร็จเขาก็จะเงียบๆ ไม่ค่อยคุยมาก โรคไบโพลาร์บางวันเขาก็จะซึม บางวันที่เขาอยู่ที่บ้านแบบไม่มีอะไรทำเขาก็จะรู้สึกเหงาๆซึมๆ เสือเห็นเขาไลน์แชทกับแม่บ่อยๆว่าตอนกลางคืนเขาจะเหงาๆเศร้าๆ อยากให้ไปนอนด้วย ตอนนั้นแม่ก็ทำงานขายของจนดึก พ่อเขาจะรู้สึกเหงาๆ ถ้าไม่มีใครอยู่บ้าน ไม่มีใครคุยด้วย แต่ในภาพรวมผมว่าเขาดีขึ้น แค่บางวันอาจจะมีซึมๆ อยากให้เรื่องจบยังไงเหรอ ก็อยากให้สองฝ่ายมาตกลงกัน เข้าใจกันว่าอะไรเป็นอะไร ผมก็เดาไม่ได้ว่ามันจะจบลงยังไง”

 

 

 

 

 

 

ขอบคุณภาพประกอบเพิ่มเติมจากอินสตาแกรม

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"