ภัยแล้ง...กับความเป็นไทยๆ


เพิ่มเพื่อน    

            มัวแต่ไปนั่งดู นอนดู ใครต่อใครที่เขาออกไป วิ่งไล่ลุง หรือไป เดินเชียร์ลุง...ก็เลยแทบไม่รู้ว่า  สถานการณ์ภัยแล้ง ช่วงนี้ ไปถึงไหนต่อถึงไหนกันมั่งแล้ว จนกระทั่งไม่ว่าฝ่ายวิ่ง ฝ่ายเดิน ต่างต้องออกอาการเหนื่อยๆ ไปด้วยกันทั้งคู่ ต้องคว้าน้ำดื่ม น้ำขวด มาจ่อปากไปด้วยกันทั้งสิ้น เลยพอนึกๆ ขึ้นมาได้บ้างว่า ยังมีเรื่องของ ภัยแล้ง นี่แหละ ที่คงต้องเหนื่อยๆ กันไปอีกซักพักใหญ่ๆ...

                                                              --------------------------------------------------

                แต่เท่าที่อาศัยมาตรวัดเฉพาะตัว...คืออาศัย รสสัมผัส จากการดื่มน้ำที่ต้มแล้ว ของการประปาฯ เขา ก็รู้สึกว่า...อาการกร่อยๆ เค็มๆ มันดูจะลดๆ ลงไปบ้างตามสมควร ไม่ต้องกินกาแฟผสมโซเดียมกันไปในแต่ละถ้วย และไม่ต้องรู้สึกวุ่นๆ วายๆ เร่าๆ ร้อนๆ ไปกับอากัปกิริยาของ นายกฯ โซเดียม เขามากมายซักเท่าไหร่นัก ถือเป็นเรื่องของ เด็กๆ ที่อีกไม่นาน-ไม่ช้า ก็คงต้องเหนื่อยๆ กันไปเอง สู้หันมาให้ความสนใจ ให้ความสำคัญ กับเรื่องที่มันออกจะมีผลกระทบกับผู้คนส่วนใหญ่ หรือกับ ส่วนรวม โดยตรง น่าจะเข้าท่ากว่าเป็นไหนๆ...

                                                                 -----------------------------------------------

                และเท่าที่ฟังๆ...เห็นว่าสถานการณ์ภัยแล้งเมื่อมาถึง ณ ขณะนี้ น่าจะแผ่ซ่าน ครอบคลุม ไปในขอบเขตประมาณ 18 จังหวัดไปแล้ว เป็นอย่างน้อย และกำลังส่งผลให้เกิดปฏิกิริยาต่อเนื่องแบบลูกโซ่ ตามมายิ่งขึ้นเรื่อยๆ ไม่ใช่แต่เฉพาะการขาดแคลนน้ำดื่ม น้ำใช้ น้ำอุปโภค บริโภค สำหรับผู้คนในแต่ละเขต แต่ละพื้นที่เท่านั้น แต่ยังเริ่มก่อให้เกิดผลกระทบต่อผลผลิตทางการเกษตร ชนิดกำลังแทรกซึมเข้าไปถึงก้นครัวของใครต่อใคร อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงและปฏิเสธได้ คือไม่ใช่แค่ทำให้ อาหารหลัก ของคนไทยอย่างเราๆ เช่น ข้าว กำลังมีราคาถีบตัวสูงยิ่งขึ้นเรื่อยๆ แต่ยังทำให้บรรดาผัก ผลไม้ โดยเฉพาะที่ต้องใช้ น้ำ หล่อเลี้ยงความอยู่รอดอย่างเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็น ผักคะน้า มะนาว ฯลฯ อาจมีราคาแพงแสนแพง จนทำให้ต้องได้ยินเสียงบ่น เสียงด่าว่า ด่าทอ ดังออกจากก้นครัวกันจนได้ เผลอๆ...อาจมี สากกะบิน ตามมาด้วย เอาเลยก็ไม่แน่...

                                                                     ----------------------------------------------

                ดังนั้น...การหันมาให้ความสนใจกับเรื่องของ ภัยแล้ง เอาไว้ซะแต่เนิ่นๆ ให้เป็นไปในแบบต่อเนื่องและสม่ำเสมอ จึงคงต้องถือเป็น หน้าที่ ของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะ รัฐบาล อย่างมิอาจหลงๆ ลืมๆ หรือ ดูเบา ได้เป็นอันขาด แม้ว่าบรรดาผู้รู้ ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจ ท่านจะประเมินผลกระทบคราวนี้ เอาไว้แบบไม่ถึงกับหนักหนา สาหัส มากมายซักเท่าไหร่ คือไม่ถึงกับทำให้ ตัวเลขจีดีพี ลดลงไปมากนัก ยังพอโตๆ กันได้ประมาณ 2.8 เป็นอย่างน้อย แต่ก็อย่างว่านั่นแหละ...สำหรับผู้รู้ ผู้เชี่ยวชาญในด้าน อารมณ์ความรู้สึก ของผู้คน อย่างเช่นพวก ซูเปอร์โพล เป็นต้น ท่านก็เคยออกมาเตือนๆ เอาไว้ก่อนหน้านี้ว่าขีดความสามารถในการ บริหารอารมณ์ ของรัฐบาลนั้น คงต้องเร่งปรับปรุงก่อนที่จะ สายเกินไป เอาเลยถึงขั้นนั้น...

                                                                        -------------------------------------------------

                และเรื่องประเภทผักแพง มะนาวแพง พริกแพง หมูแพง ฯลฯ อันเนื่องมาจากภาวะภัยแล้ง ที่ทำให้แม้แต่หมู หรือสุกร ยังต้องเกิดอาการ โตช้า ตามไปด้วย โดยเหตุผลกลใดก็มิอาจทราบได้ ไอ้เรื่องทำนองนี้ ประเภทนี้นั่นแหละ...ที่มันออกจะเป็นตัว กระตุ้นอารมณ์ ทั้งหลายได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะสำหรับบรรดาผู้ชอบ วิ่งไล่ลุง ที่กำลังคิดจะมียกสอง ยกสาม ตามมาแบบติดๆ และจะไปเอาเรื่องใหญ่ๆ โตๆ อย่างประเภทเรื่องอีอีซง อีอีซี มาใช้ต่อล้อ ต่อเถียง กับฝ่ายตรงกันข้าม หรือมา เดินเชียร์ลุง มันอาจไม่ได้ช่วยให้อารมณ์หุดๆ หิดๆ ของผู้คน ผ่อนคลายลงไปได้มากมายซักเท่าไหร่...

                                                                          ------------------------------------------------

                เพราะฉะนั้นการหันมา บริหารอารมณ์ ด้วยการหาทางจัดการกับปัญหา ภัยแล้ง กันซะแต่เนิ่นๆ  อย่างเป็นระบบ เป็นกระบวนการ และอย่างต่อเนื่อง สม่ำเสมอ จึงน่าจะเป็นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญอย่างเป็นพิเศษ และอันที่จริงแล้ว...ก็ไม่ใช่แต่เฉพาะ ภาครัฐ เท่านั้น ภาคเอกชน ที่มีหัวจิต หัวใจ มีน้ำจิต  น้ำใจ ที่จะช่วยบรรเทา เบาบาง อารมณ์ความรู้สึกอันเนื่องมาจากสาเหตุเหล่านี้ ก็น่าจะมีอยู่ไม่น้อยเช่นกัน อย่างเช่น บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา เป็นต้น เห็นว่า...ถึงขั้นออกมารณรงค์ ประหยัดน้ำ กันในเครือข่ายศูนย์การค้าของตัวเองถึง 33 ศูนย์ สั่งให้ปรับแรงดันของน้ำ หรือหน่วงเวลาการปล่อยน้ำในสุขภัณฑ์ ไปจนถึงการรีไซเคิลน้ำที่ใช้แล้ว ฯลฯ ชนิดแทบกลายเป็น แฟชั่น พอๆ กับการ งดแจกถุงพลาสติก อะไรทำนองนั้น...

                                                                          -----------------------------------------------------

                คือ ความเป็นไทยๆ นั้น...แม้มันจะ เสียอย่าง แต่มันก็ยังพอมี ดีอย่าง อยู่บ้าง เสียในแง่ที่อะไรก็ตาม...ถ้าต้องลงมือกระทำกันอย่างเป็นระบบและเป็นกระบวนการ อย่างเช่นการแก้ปัญหา ภัยแล้ง หรือ ภัยน้ำท่วม เป็นต้น อันนั้น...อาจต้องใช้เวลาประมาณชาติหน้าบ่ายๆ ถึงพอจะแล้วเสร็จ แต่ถ้าหากอะไรก็ตามที่เป็น แฟชั่น หรือเป็นการแสดงออกตามแบบฉบับ ไทยมุง ทั้งหลาย ออกจะเป็นอะไรที่ เวิร์ก เอามากๆ ชนิดบางครั้ง บางครา เล่นเอาพวกฝรั่งต่างชาติ ถึงกับตื่นตะลึงกันไปเลยก็มี ต่อการแสดงออกถึงความรู้สึกแบบไทยๆ โดยเฉพาะในแง่ของความมีน้ำจิต น้ำใจ การช่วยเหลือ การบริจาค อะไรก็แล้วแต่...

                                                                          --------------------------------------------------------

                ดังนั้น...ไม่ว่าจะเป็น ภัยแล้ง หรือ ภัยน้ำท่วม ครั้งไหนต่อครั้งไหน ก็แทบไม่เคยเอาชนะ น้ำใจของคนไทย ได้เลยแม้แต่น้อย การหันมาหยิบเอา คุณลักษณะ เหล่านี้ มาใช้ในการ บริหารอารมณ์ ไปในแต่ละช่วง แต่ละระยะ จึงอาจพอช่วยทุเลา เบาบางปัญหาแต่ละปัญหาลงไปได้มั่งไม่มากก็น้อย ส่วนอะไรที่มัน เสียอย่าง หรือเสียๆ มาโดยตลอด อันนั้น...ก็คงต้องอาศัยเวลาค่อยๆ แก้ๆ กันไป รออีกซักประมาณบ่ายสามโมงชาติหน้า การบูรณาการ บริหารจัดการปัญหาน้ำ อย่างเป็นระบบ อย่างยั่งยืน ถาวร อาจพอได้แล้วเสร็จกันในช่วงนั้น...

                                                                             ---------------------------------------------------

                ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Douglas Jerrold (อีกครั้ง)...In this world, truth can wait; she is  used to it. - ในโลกนี้ความจริงรอคอยได้ เพราะความจริงเป็นฝ่ายรอคอยมาจนชินซะแล้ว...”

                                                                               ---------------------------------------------------- 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"