หลังพรรคอนาคตใหม่รอดพ้นจากการถูกศาล รธน.สั่งยุบพรรค ในคำร้องเรื่อง ล้มล้างการปกครอง เมื่อ 21 มกราคม โดยศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์ว่า พรรคอนาคตใหม่ไม่ได้กระทำ  หรือมีพฤติการณ์ล้มล้างการปกครอง ตามคำร้องของ ณฐพร โตประยูร ทว่าหลังจากนี้พวกเขายังมีอีกหนึ่งคดีที่ต้องลุ้นต่อ

                วิบากกรรมทางการเมืองของอนาคตใหม่ ที่ยังคงต้องลุ้นและสู้คดีกันยาวๆ กันต่อไปอีกหนึ่งเรื่องคือ  คดีเงินกู้ 191 ล้านบาท ล่าสุด หลังศาล รธน.รับคำร้องที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ส่งมา ก็ได้ให้พรรคอนาคตใหม่ส่งคำชี้แจงข้อกล่าวหา แต่พรรคใช้สิทธิ์ขอขยายเวลาในการยื่นเอกสารคำชี้แจงข้อกล่าวหา โดยศาลก็ได้เห็นชอบ ให้พรรคอนาคตใหม่ส่งคำชี้แจงข้อกล่าวหาภายในไม่เกิน 27 มกราคมนี้    

                ข่าวล่าสุด จากวงหารือแกนนำพรรคอนาคตใหม่และ ส.ส.พรรค ในช่วงบ่ายของวันที่ 21 มกราคม  หลังพรรคได้เฮกันลั่นตึกไทยซัมมิทที่ไม่โดนยุบพรรค มีการแจ้งในวงประชุมพรรคอย่างไม่เป็นทางการว่า เรื่องคดีเงินกู้ 191 ล้านบาท พรรคจะขอใช้สิทธิ์ยื่นขยายเวลาการส่งคำชี้แจงต่อศาล รธน.อีกหนึ่งรอบ โดยจะใช้เหตุผลในการยื่นเรื่องต่อศาล รธน.ว่า เนื่องจากสำนวนคำร้องดังกล่าวมีเอกสารที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก โดยเฉพาะเอกสารงบบัญชีต่างๆ ของพรรคอนาคตใหม่ จึงทำให้พรรคต้องขอเวลาในการเคลียร์เอกสารก่อน โดยคาดว่าภายในสัปดาห์หน้าพรรคจะยื่นเรื่องขอขยายเวลาไปยังศาล รธน. ซึ่งก็ต้องดูว่าศาลจะเห็นชอบหรือไม่ โดยหากศาลไม่เห็นชอบ พรรคก็ต้องเตรียมพร้อมสำหรับการส่งเอกสารคำชี้แจง เพื่อไม่ให้เสียสิทธิ์ในการสู้คดี และในวงหารือแกนนำพรรคเมื่อช่วงบ่าย 21 ม.ค.ก็มีการประเมินเช่นกันว่า มีความเป็นไปได้สูงที่ศาล รธน.น่าจะอนุญาตให้อีกหนึ่งครั้งเป็นอย่างน้อย

                ทั้งนี้ ในระหว่างการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการของ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และ ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ เมื่อ 21 ม.ค. หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยไม่ยุบพรรค

                ปิยบุตร ที่รับผิดชอบการสู้คดีให้พรรคในชั้นศาล รธน.ระบุตอนหนึ่งว่า "พรรคอนาคตใหม่พร้อมต่อสู้คดี เพราะการพิจารณาของคณะกรรมการการเลือกตั้งไม่ถูกต้อง ภายหลังคณะอนุกรรมการของ กกต.ได้ยกคำร้องไปแล้ว แต่ กกต.ก็ยังดำเนินการต่อไป ซึ่งเราได้ฟ้องร้องเป็นคดีอาญาต่อ กกต.แล้ว ขณะเดียวกันจะร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญเปิดการไต่สวนเพื่อเรียกเอกสารและพยานบุคคลเข้ามาพิจารณา"

                "การกู้เงินไม่มีกฎหมายห้าม เพราะมีหลายพรรคกู้เงิน เงินกู้ไม่ใช่ประโยชน์ และเงินกู้เราได้ทยอยคืนไปบางส่วน และเป็นเงินใช้เพื่อทำกิจกรรมของพรรคการเมือง จึงมั่นใจว่าเราไม่มีความผิด"

                ประเมินได้ว่าต่อจากนี้ พรรคอนาคตใหม่จะเทน้ำหนักให้กับการสู้คดี 191 ล้านบาทแบบเต็มตัวมากขึ้น หลังปลดล็อกความกังวลใจในเรื่องคดีล้มล้างการปกครองไปแล้ว โดยแนวทางสู้คดีเบื้องต้นที่พรรควางไว้ก็คือ จะขอขยายเวลาในการยื่นเอกสารคำชี้แจงข้อกล่าวหาออกไป เพื่อจะได้เตรียมเอกสารให้พร้อมที่สุด เขียนคำชี้แจงหักล้างข้อกล่าวหาของ กกต.ให้รัดกุม ตรงเป้ามากที่สุด แต่ประเด็นที่พรรคต้องการมากที่สุดก็คือ คาดหวังให้ศาล รธน. เปิดห้องพิจารณาคดีไต่สวน เพื่อให้ศาลเรียกฝ่ายผู้ร้อง คือตัวแทน กกต. และฝ่ายพรรคอนาคตใหม่ ไปเบิกความสู้คดีกันในห้องพิจารณาคดีในศาล รธน.

                หากทุกอย่างออกมาตามนี้ พรรคอนาคตใหม่เชื่อว่ามีโอกาสสูงที่พวกตนจะเป็นฝ่ายชนะ  รอดจากการถูกยุบพรรค-กรรมการบริหารพรรคไม่โดนตัดสิทธิ์ทางการเมือง เป็นคดีที่สองต่อจากคดีล้มล้างการปกครอง แม้แวดวงการเมืองจะมีการมองกันว่า ต่อให้พรรคอนาคตใหม่รอดจากการถูกยุบพรรคในคดีล้มล้างการปกครอง แต่ไม่น่าจะรอดจากคดีเงินกู้ 191 ล้านบาทก็ตาม!!!!